5 น้ำยากัดสีผม สีผมสว่างในครั้งเดียว ผมไม่เสีย ไม่ต้องง้อช่าง
ช่วงนี้สีผมสวยๆ ออกมาเยอะแยะ สาวๆ อย่างเราก็อยากจะทำตามค่ะ แต่ถ้าจะทำสีผมให้ออกมาโดนใจ ก็ต้องพึ่ง "น้ำยากัดสีผม" กันบ้าง เพราะสาวผมดำอย่างเราถ้าไม่กัดสีผมเสียก่อน บางทีสีที่ได้ก็ไม่ชัดและมองไม่เห็นค่ะ
สำหรับสาวๆ ที่มีร้านทำผมประจำก็แค่เดินไปบอกช่างว่ามาทำสีผม แต่ถ้าสาวๆ คนไหนไม่สะดวกเข้าร้าน เรามีน้ำยาฟอกสีผมแบบที่สามารถทำได้เองมาฝากกันค่ะ แต่ก่อนที่จะฟอกสีผม เราก็ต้องปกป้องผิวของเราเสียก่อน ด้วยการทาปิโตรเลียมเจลให้ทั่วใบหูและกรอบหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาทำอันตรายต่อผิวค่ะ ซึ่งถ้าสาวๆ เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ไปดูกันว่า 5 น้ำยากัดสีผม สีผมสว่างในครั้งเดียว ผมไม่เสีย ไม่ต้องง้อช่าง ที่เรานำมาฝากกันนั้น จะมีอะไรบ้าง
5 น้ำยาฟอกสีผม
1. L’Oréal Blond Studio Multi-Techniques Lightening Powder
สาวๆ ที่เคยทำสีผมมาคงคุ้นชินกับกลิ่นของน้ำยาต่างๆ โดยเฉพาะน้ำยาฟอกสีผมที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียเยอะ ทำให้มีกลิ่นแสบจมูกหรือบางทีก็แสบตาด้วย แต่น้ำยาฟอกสีผมจาก L’Oréal ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียค่ะ ทำให้สาวๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นขณะใช้ และประสิทธิภาพในการกัดสีก็ยังดี เพราะช่วยให้สีผมอ่อนลงได้ถึง 8 ระดับเลยทีเดียว แถมยังช่วยรักษาผมของสาวๆ ไม่ให้แห้งเสียและแตกปลายด้วยค่ะ
จุดเด่น
- ออกฤทธิ์เร็ว ใช้เวลาไม่นาน
- ช่วยปรับสภาพผมให้พร้อมกับการทำสีหลายแบบ เช่น ไฮไลท์หรือบาลายาจ
- เหมาะสำหรับทุกเทคนิคและทุกสภาพผม
ราคา
- 500 กรัม ราคาประมาณ 800 บาท
2. Lolane Pixxel Bleaching Powder
Pixxel Bleaching Powder จาก Lolane ได้พัฒนาน้ำยาฟอกสีผมขึ้นมาเพื่อช่วยให้สีผมของสาวๆ อ่อนลงได้ถึง 11 ระดับโดยไม่ต้องฟอกสีผมหลายครั้งค่ะ ทำให้ผมของเราไม่ถูกทำร้ายมากจึงไม่ต้องกังวลว่าผมจะเสีย และนอกจากนี้ Pixxel Bleaching Powder ยังมีมาให้ถึง 3 สูตรด้วยกันคือ Normal Lift, Extreme Lift และ Gentle Lift เพื่อโทนสีผมที่แตกต่างกันค่ะ
จุดเด่น
- ผงละเอียด ผสมง่าย
- ปรับสีผมให้สว่างได้ถึงระดับ 9+
- ลดเม็ดสีเหลืองบนเส้นผม
ราคา
- 50 ml. ราคาประมาณ 50 บาท
3. Cruset Hair Bleaching Cream
ได้ทั้งฟอกสีผมและบำรุงผมไปพร้อมกันค่ะ โดย Hair Bleaching Cream จาก Cruset มาพร้อมน้ำมันมะกอกและวิตามินอี ทำให้ผมของสาวๆ ไม่แห้งเสีย เส้นผมยังคงมีน้ำหนักและเงางามถึงแม้ว่าจะกัดสีผมไปแล้ว และยังใช้ได้ง่าย มือใหม่ก็ยังสามารถใช้ได้ ช่วยให้สีผมสว่างขึ้นได้ประมาณ 3-4 ระดับค่ะ
จุดเด่น
- อ่อนโยนแต่ให้ประสิทธิภาพสูง
- สีผมสม่ำเสมอ
- ใช้ง่าย มือใหม่ก็ใช้ได้
ราคา
- 75 กรัม ราคาประมาณ 70 บาท
4. Wella Blondor Multi Blonde
ถ้าพูดถึง Wella ช่างทำผมหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี เพราะเป็นแบรนด์ดังที่ช่างทำผมไว้ใจมานาน แต่สูตร Blondor Multi Blonde เป็นสูตรที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ เพียงแค่ผสมตามขั้นตอนง่ายๆ ก็สามารถใช้ได้เลย ช่วยให้สีผมอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยังมีสาร Anti-Yellow ที่ไม่ทำให้เส้นผมติดเหลืองอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- ช่วยลดอันเดอร์โทนสีส้มและสีเหลือง
- ปรับสีผมให้สว่างได้ถึงระดับ 7
- ผสมง่าย ให้เนื้อครีมเข้มข้นแต่อ่อนโยน
ราคา
- 400 กรัม ราคาประมาณ 1,700 บาท
5. Dcash Master Bleaching Powder Lightener
น้ำยาฟอกสีผมจาก Dcash ช่วยให้สีผมอ่อนลงอย่างห็นได้ชัด และยังไม่ทำลายเส้นผมอีกด้วยค่ะ โดยสูตรนี้เป็นสูตรเฉพาะที่ทางแบรนด์คิดค้นขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียหลังจากการกัดสีผม ผมยังคงมีน้ำหนักและดูดซับสีย้อมผมได้ง่ายขึ้นค่ะ โดย Dcash Master Bleaching Powder Lightener มีมาให้เลือก 4 เฉดสี คือ สีทอง, สีเงิน, สีขาว และสีแดงค่ะ
จุดเด่น
- ช่วยยกระดับความสว่างของสีผมได้ถึง 7 - 9 ระดับ
- ช่วยปรับพื้นผมให้สีอ่อนลง
- ไม่ทำลายเส้นผมและโครงสร้างเส้นผม
ราคา
- 15 กรัม ราคาประมาณ 40 บาท
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 7 แชมพูสีม่วง สำหรับผมทำสี ช่วยล็อคสีผมให้อยู่นาน กัดสีผมมาก็ไม่มีเหลือง
- 6 แชมพูสำหรับผมทำสี ช่วยล็อกสีผมให้คงที่ ผมสวยไม่กลัวพัง
- แนะนำ 4 ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว สีสวย ทำแล้วปัง ผมไม่เสีย หน้าไม่หมองคล้ำ ต้อนรับซัมเมอร์!!