รีเซต

เกา (แก้) ให้ถูกที่ “คันน้องสาว” เสี่ยงโรคอะไรบ้าง หลีกเลี่ยงอย่างไรดี

เกา (แก้) ให้ถูกที่ “คันน้องสาว” เสี่ยงโรคอะไรบ้าง หลีกเลี่ยงอย่างไรดี
หมอดี
24 มิถุนายน 2565 ( 10:45 )
1.6K
เกา (แก้) ให้ถูกที่ “คันน้องสาว” เสี่ยงโรคอะไรบ้าง หลีกเลี่ยงอย่างไรดี

     สำหรับอาการคันบริเวณน้องสาว มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายกับผู้หญิงทุกคน เพราะสาเหตุอาจมาจากพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเผลอไม่ใส่ใจ เช่น การล้างทำความสะอาดผิดวิธี หรืออาจเป็นอาการคันที่เกิดจากเชื้อรา อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติเล็กน้อย คันนิดๆ หน่อยๆ นั้น หากปล่อยไว้นาน ไม่รักษา หรือไม่หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ ก็อาจมีอาการลุกลาม จนกลายเป็นโรคร้ายแรงได้

     วันนี้ พ.ญ.บุษรัญญา พุทธธะนะพิทักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แผนก สุขภาพผู้หญิง ประจำแอปฯ หมอดี มีคำแนะนำดีๆ มาฝาก ว่าควรหลีกเลี่ยงอย่างไร ไม่ให้มีอาการคันน้องสาว  และหากมีอาการคันน้องสาวแล้ว ต้องดูแลรักษาอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง

 

 

🔎 อาการคันบ่งบอกอะไร มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ❓

     😧 การเพิ่มจำนวนของเชื้อราในช่องคลอดที่มากกว่าปกติ จะส่งผลให้เกิดอาการคัน แสบ และอาจมีตกขาวลักษณะเป็นก้อนไหลออกมาจากช่องคลอดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้บ่งบอกว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา ผู้หญิงส่วนมากที่มีอาการคันบริเวณน้องสาว มักจะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา อาจจะมาจากการซักกางเกงในโดยที่ตากไม่แห้งสนิท ทำให้อับชื้น หรืออาจเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน

     🥶 คันน้องสาว พร้อมมีตกขาวที่กลิ่นเหม็น เกิดจากความไม่สมดุลกันของแบคทีเรียชนิดที่ดีและไม่ดีซึ่งอยู่ภายในช่องคลอด อาจเสี่ยงต่อการมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้

     😱 คันช่องคลอด มีอาการแสบขณะปัสสาวะ และมีตกขาวที่เป็นสีเหลืองหรือเขียว ถ้ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกัน อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

     ⚠ อาการคันน้องสาว อาจจะเกิดจากการเป็นโรคผิวหนังบางชนิด เช่น การอักเสบที่มักเกิดกับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หรือโรคหืด ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือตกสะเก็ด ที่มาพร้อมกับอาการคัน กรณีนี้นอกจากจะคันบริเวณน้องสาวแล้ว(คันภายนอก) อาการคันอาจลุกลามไปยังช่องคลอดได้อีกด้วย

     กรณีที่คันน้องสาว มีผื่นแดง พร้อมกับตกสะเก็ด เสี่ยงต่อโรคสะเก็ดเงิน ที่มักจะมีอาการคันและตกสะเก็ดที่บริเวณอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น หนังศีรษะ ข้อพับ

     🩸 อาการคันช่องคลอด มีเลือดออก รู้สึกเจ็บบริเวณปากช่องคลอด และมักพบแผลหรือลักษณะของผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากช่องคลอด แต่ในบางรายที่เป็นโรคมะเร็งปากช่องคลอด ก็ไม่พบอาการใดๆ เลย รวมทั้งไม่มีอาการคันด้วย จึงแนะนำให้ตรวจภายในเป็นประจำ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ขณะที่มะเร็งยังไม่ลุกลาม ก็อาจรักษาให้หายขาดได้

     👩‍🦳  เรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้เกิดอาการคันน้องสาวได้เช่นกัน เพราะอายุเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิง โดยเฉพาะอายุที่เริ่มเข้าสู่วัยทอง เมื่อหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิงก็จะลดลง ส่งผลให้ช่องคลอดแห้งกว่าเดิม จนอาจทำให้มีอาการคันเกิดขึ้นได้ ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคันรุนแรงหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ควรปรึกษาแพทย์

 

 

🔎 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงอาการ “คัน” ❓

     ✋ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อเลี่ยงอาการ “คัน” ทำได้หลายวิธี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการป้องกันสาเหตุของการเกิดอาการคัน เช่น

     👙 เปลี่ยนชุดชั้นใน (โดยเฉพาะกางเกงใน) ทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงผงซักฟอก แล้วเปลี่ยนมาใช้สบู่ที่อ่อนโยนในการซักทำความสะอาดชุดชั้นในแทน

     🏊‍♀ ในกรณีที่ว่ายน้ำ หรือออกกำลังกายจนมีเหงื่อ ควรเปลี่ยนชุดชั้นในทันทีที่ทำกิจกรรมเสร็จ

     💩 ตระหนักถึงพฤติกรรมทำความสะอาดตอนขับถ่าย การเช็ดล้างทำความสะอาดหลังถ่ายอุจจาระ ให้ล้างหรือเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง

     😉 ล้างจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำอุ่นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว แต่ไม่ควรล้างมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน เพราะอาจทำให้ช่องคลอดแห้ง

     😘 ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการคันจะหายไป

     ✅ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับน้องสาว ใช้ผ้าอนามัย กระดาษชำระ สบู่ แบบที่ไม่ผสมน้ำหอมจะดีที่สุด เมื่อมีอาการคันควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เช่น สเปรย์ หรืออุปกรณ์สวนล้างช่องคลอด

 

 

     “ คันน้องสาว ไม่ต้องอาย รีบรักษาให้หายดีกว่า ก่อนเสี่ยงโรค อาการลุกลาม ” พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออนไลน์  ในแผนก สุขภาพผู้หญิง ได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ หมอดี

 

📲 ดาวน์โหลดแอปฯ คลิก  https://mordee.app.link/mordee

🙈 สามารถเลือกปรึกษาคุณหมอแบบไม่เปิดเผยใบหน้าได้ ด้วยการโทรคุย หรือพิมพ์แชต ช่วยลดความเขินอาย ที่สำคัญไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่ต้องรอนาน ปรึกษาหมอได้แบบเป็นส่วนตัวสุดๆ ในวันและเวลาที่คุณสะดวก

🩺  รับคำปรึกษาจาก พ.ญ.บุษรัญญา พุทธธะนะพิทักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แผนก สุขภาพผู้หญิง ผ่านแอปฯ หมอดี ได้ง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอน

  1. ดาวน์โหลดแอปฯหมอดี (MorDee) หรือคลิกที่ลิงก์ https://mordee.app.link/6grJOklEqpb จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน
  2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯพิมพ์ชื่อหมอในช่องค้นหาว่า บุษรัญญา พุทธธะนะพิทักษ์ แล้วกดเลือกหมอ หรือเลือกปรึกษาแพทย์ ในแผนกสุขภาพผู้หญิง
  3. ทำนัดหมายโดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอลโทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือเลือกเคลมประกัน หรือหรอกโค้ดส่วนลด(ถ้ามี)
  4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯเพื่อทำการปรึกษาหมอ เมื่อถึงเวลานัดหมาย
  5. รอสรุปผลการปรึกษาจากหมอ พร้อมใบสั่งยา(หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้

 

💬 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @mordeeapp

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง