9 เคล็ดลับกำจัดอาการกรดไหลย้อน แค่ปรับพฤติกรรม ก็หายได้
โรคกรดไหลย้อนอาจจะดูเหมือนไม่ได้อันตรายอะไรมาก แต่ว่าถ้าเกิดเป็นเรื้อรังก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนของทางเดินอาหารได้ค่ะ หากอาการของกรดไหลย้อนรุนแรงมากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดแผลในหลอดอาหารได้ เมื่อเป็นแผลนานๆ แล้วก็เป็นมาก แผลใหญ่ขึ้น ก็ทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งที่ทางเดินอาหารได้
ดังนั้นก่อนที่โรคกรดไหลย้อนจะลุกลามไปมากกว่านี้ เราจึงควรป้องกันหรือรักษาให้อาการต่างๆ หายไป ซึ่งสำหรับใครที่กำลังทรมานกับอาการของโรคกรดไหลย้อน วันนี้เรามี 9 เคล็ดลับที่ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้มาฝากกันค่ะ
9 เคล็ดลับกำจัดอาการกรดไหลย้อน
1. ลดน้ำหนัก
ปัญหาน้ำหนักเกิน ถือเป็นสาเหตุแรกๆ ที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนค่ะ การที่เรามีน้ำหนักตัวเกิน อ้วนสะสมหรือลงพุง จะทำให้มีความดันในช่องท้องสูงขึ้น พอความดันในช่องท้องสูงขึ้นก็จะทำให้กระเพาะอาหารแคบลง และทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นในข้อแรกของวิธีการป้องกันอาการกรดไหลย้อนนี้ก็คือการลดน้ำหนักค่ะ
2. ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี
ในบางครั้ง เราก็อาจจะได้ยินมาว่าคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนนั้นให้ออกกำลังกาย เพราะจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้ แต่การออกกำลังกายในบางคนกลับทำให้มีอาการมากขึ้น นั่นก็เพราะเรากำลังออกกำลังอย่างผิดวิธีและเลือกการออกกำลังที่ไม่เหมาะกับโรคค่ะ การออกกำลังกายที่เพิ่มความดันในช่องท้อง เช่น การวิดพื้น การยกน้ำหนัก การเล่นเวทที่หนักมากๆ แบบนี้ จะทำให้อาการกรดไหลย้อนมากขึ้น เพราะเวลาที่เราออกแรงหรือมีการกลั้นหายใจ จะทำให้มีความดันในช่องท้องมากขึ้น ซึ่งความดันนี้จะบีบให้กระเพาะหดตัวลง น้ำย่อยก็จะขึ้นมายังหลอดอาหาร เราจะรู้สึกแสบร้อนหน้าอกค่ะ หากต้องการออกกำลังก็เปลี่ยนไปเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้งหรือเล่นเวทเบาๆ หรือเลือกท่าออกกำลังที่ไม่ก้มหน้ามากเกินไป ไม่โค้งตัวมากเกินไป อาการกรดไหลย้อนก็จะไม่มาถามหาค่ะ
3. เลิกบุหรี่
สิ่งที่กระตุ้นให้อาการกรดไหลย้อนมีมากขึ้น ก็คือการสูบบุหรี่นั่นเองค่ะ พยายามค่อยๆ ลดปริมาณการสูบบุหรี่ลง เช่น หากเราสูบวันละ 10 มวน เดือนหน้าก็เหลือซัก 8 มวน ค่อยๆ ลดไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังสูบอยู่จนเราสามารถลดเหลือวันละม้วน และสุดท้ายก็หยุดสูบไปเลย จะทำให้เราไม่เครียดหากต้องเลิกบุหรี่ รวมถึงทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ
4. งดแอลกอฮอล์
นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นให้อาการกรดไหลย้อนเป็นมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้เรานอนดึก กินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ พฤติกรรมแบบนี้ยิ่งกระตุ้นให้อาการกรดไหลย้อนไม่จบไม่สิ้น เริ่มลดแอลกอฮอล์เป็นอย่างแรก ก็จะทำให้อาการกรดไหลย้อนลดลงอย่างรวดเร็วค่ะ
5. อาหารทอดและอาหารมัน
อาหารทอด อาหารมัน จะทำให้เรามีอาการกรดไหลย้อนมากขึ้น มีภาวะท้องอืดมากขึ้น ย่อยยาก น้ำกรดไหลย้อนออกมาที่บริเวณทรวงอกมากขึ้นนะคะ เพราะฉะนั้นการงดอาหารทอดอาหารมัน จะส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนลดลง รวมทั้งน้ำหนักโดยรวมของเราก็จะลดลงเช่นเดียวกัน เมื่อน้ำหนักลดลงอาการกรดไหลย้อนก็ยิ่งลดลงมากขึ้นค่ะ
6. แบ่งทานอาหารมื้อเล็กๆ
อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยลดกรดไหลย้อนได้คือการแบ่งทานอาหารมื้อเล็กๆ แต่ทานบ่อยๆ เพราะอาการกรดไหลย้อนจะยิ่งเป็นมากขึ้นเมื่อกระเพาะเต็มไปด้วยอาหารค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่ในกระเพาะของเราไม่ค่อยมีอาหาร น้ำย่อยก็จะอยู่ในกระเพาะไม่ไหลย้อนขึ้นมาที่บริเวณทรวงอกหรือบริเวณหลอดอาหารของเราค่ะ
7. นอนให้ศรีษะสูง
เลือกหมอนที่สูงขึ้นหรือเพิ่มหมอนเพื่อให้เวลานอนศรีษะของเราสูงขึ้นค่ะ โดยให้สูงสักประมาณ 6 นิ้วหรือประมาณสัก 20 องศา เพราะการที่เรานอนศรีษะสูง จะทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารได้ยากค่ะ อาการก็จะลดลง รวมถึงการนอนให้ตรงเวลาด้วย ก็จะทำให้อาการกรดไหลย้อนลดลงได้เหมือนกัน
8. ไม่นอนหลังทานอาหาร
ข้อนี้สำคัญมากๆ ค่ะ กระเพาะอาหารของเราต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารประมาณ 2 - 4 ชั่วโมง ยิ่งถ้าเป็นอาหารมื้อใหญ่ๆ ต้องมีการย่อยอย่างน้อยๆ 4 ชั่วโมง เมื่อเราทานอาหารมื้อเย็นหรือมื้อดึกแล้วรีบเข้านอนเลย ยังไม่ทันได้ย่อยอาหาร อาหารเหล่านั้นก็จะขย้อนขึ้นมาที่หน้าอกของเรา เราก็จะรู้สึกแสบร้อนหน้าอกค่ะ
9. ไม่ใส่เสื้อที่รัดแน่น
เสื้อหรือเข็มขัดที่รัดจนเกินไป จะรัดหน้าท้องจนเกิดความดันในช่องท้องมากขึ้น เมื่อมันบีบรัดมากๆ ก็จะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร เราก็จะรู้สึกแสบร้อนกลางหน้าอกและอาการกรดไหลย้อนก็จะเป็นมากขึ้นได้ค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
4 อาการโรคกรดไหลย้อน เป็นแล้วอันตราย กลายเป็นโรคเรื้อรัง
7 อาหาร ช่วยลดอาการกรดไหลย้อน ไม่แสบร้อนกลางหน้าอก
5 อาหารห้ามกินเมื่อเป็น กรดไหลย้อน อยากหายขาด..ต้องหลีกเลี่ยง