5 ข้อผิดพลาดในการคุมอาหาร ทำอย่างไรให้สำเร็จ ลดน้ำหนักได้แบบไม่เครียด

     หลาย ๆ ครั้งผู้ที่เริ่มลดน้ำหนักใหม่ ๆ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการคุมอาหารค่ะ และก็มีหลายคนเลยทีเดียวที่ทำไม่สำเร็จ ซึ่งนั่นก็อาจจะเพราะว่ามีข้อผิดพลาดในการทำอยู่ค่ะ 

     การลดน้ำหนักหรือการคุมน้ำหนักนั้นประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ ๆ นั่นก็คือการคุมอาหารและการออกกำลังกาย บางคนนั้นสามารถบังคับให้ตัวเองออกกำลังกายได้แต่กลายเป็นว่ามีปัญหากับการคุมอาหารค่ะ เพราะการคุมอาหารนั้นถือเป็นการเปลี่ยนนิสัยตัวเองในการเลือกกิน อาหารบางอย่างเราเคยกินได้แต่พอตั้งใจจะคุมอาหารแล้วกลับต้องงดหรือลดไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเครียดและตบะแตกได้ในที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็มี 5 ข้อผิดพลาดที่ทำให้คุมอาหารไม่สำเร็จ มาให้สาว ๆ ได้ลองเช็คลิสต์กันค่ะ ใครที่กำลังมีข้อผิดพลาดแบบนี้อยู่ ต้องรีบแก้ด่วน ๆ เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในการคุมอาหารและลดน้ำหนักค่ะ

5 ข้อผิดพลาดในการคุมอาหาร

1. ตั้งเป้าหมายแต่ไม่เริ่มทำ

     บางคนตั้งเป้าหมายไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำสักทีเพราะมีข้ออ้างมากมายค่ะ อย่างบางคนก็อ้างว่าต้องทำงานหนักไม่มีเวลาทำอาหารกินเอง ทำให้ไม่สามารถเริ่มคุมอาหารได้สักที หรือบางคนก็มีข้ออ้างว่าทำงานเหนื่อยทำให้ไม่อยากจะออกกำลังกาย ซึ่งแบบนี้ก็จะทำให้เราไม่สามารถลดน้ำหนักได้ค่ะ แต่หากเราลองเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การจิบน้ำเพิ่มขึ้นตอนที่นั่งทำงาน การเพิ่มสลัดลงในมื้ออาหารนอกบ้าน หรือการลองขยับร่างกายเบา ๆ วันละ 5 - 10 นาที แบบนี้ก็จะช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้และยังเป็นการค่อย ๆ ฝึกนิสัยในการคุมอาหารและออกกำลังได้อีกด้วยค่ะ

2. สุดโต่งมากเกินไป

     ในตอนเริ่มต้นของการเริ่มคุมอาหารนั้น หลาย ๆ คนก็มักจะมีไฟค่ะ บางคนไฟแรงน่าดูจนถึงขั้นตั้งเป้าแบบสุดโต่ง เช่น จะไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลย หรือบางคนก็ตั้งใจว่าจะออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งการคุมอาหารแบบสุดโต่งมาก ๆ เป็นการทำให้ร่างกายเครียดจนเกินไปและทำให้ท้อได้ในระยะยาวค่ะ เพราะการลดน้ำหนักนั้นต้องใช้เวลา เมื่อเราคุมอาหารอย่างเคร่งเครียดแต่ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง อย่างการคุมอาหารอย่างหนักมา 1 อาทิตย์แต่น้ำหนักไม่ลดลงตามที่คาดหวังไว้ อย่างนี้ก็จะทำให้เราหมดกำลังใจและล้มเลิกไปในที่สุดค่ะ

3. วิธีการในการคุมอาหารไม่ชัดเจน

     เราอาจจะตั้งความหวังไว้ว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโล โดยการกินผักเพิ่มขึ้นและดื่มน้ำมากขึ้น แต่เราอาจจะไม่ได้กำหนดวิธีในการกินผักเพิ่มและดื่มน้ำเพิ่มซึ่งก็อาจจะทำให้เราไม่มีวิธีในการทำที่ชัดเจนและทำให้เราไม่สามารถปฎิบัติได้จริงค่ะ แต่หากเราลองกำหนดวิธีการให้ชัดเจนไปเลย เช่น จะกินผักเพิ่มขึ้นมื้อละ 2 ถ้วย และดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนและหลังการกินอาหารทุกครั้ง แบบนี้ก็จะช่วยให้เราสามารถทำตามได้และประสบความสำเร็จในการคุมอาหารได้มากขึ้นค่ะ

4. งดอาหารที่ชอบทั้งหมด

     การเคร่งครัดในการคุมอาหารเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรหักโหมจนเกินไป เพราะการคุมอาหารนั้นเป็นการทำในระยะยาวและไม่ใช่เพื่อการทรมานตัวเอง ดังนั้นหากเรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราคุมอาหารได้ดีแล้ว เราก็สามารถผ่อนคลายได้เล็กน้อยด้วยการกินอาหารที่ชอบสัก 1 มื้อ เช่น บางคนสามารถคุมอาหารอย่างคร่งครัดมาได้ 6 วัน ก็อาจจะให้รางวัลตัวเอง 1 วันได้กินอาหารที่ชอบบ้าง อย่างนี้ก็จะช่วยให้เราไม่เครียดจนเกินไปและสามารถคุมอาหารได้นานค่ะ

5. ลดปริมาณอาหารมากเกินไป

     ทั้งการกินน้อยลงหรือการรับแคลอรี่น้อยลงมาก ๆ หากเราคุมอาหารด้วยวิธีนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ รวมถึงยังสามารถทำให้เราตบะแตกได้ในสักวันค่ะ การลดปริมาณอาหารหรือการกินน้อยลงนั้นจะทำให้เราหิว ซึ่งเสี่ยงกับการที่เราจะทนไม่ไหวและเผลอกินอาหารมากเกินไปเนื่องจากอดมานาน ยังไม่นับว่าในบางคนเลือกกินอาหารที่มีแคลอรี่น้อยเกินไปเพราะหวังจะให้ร่างกายได้ดึงไขมันสะสมออกมาใช้เร็ว ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็อาจจะทำให้เราเกิดโยโย่เอฟเฟคได้ ดังนั้นการคุมอาหารจึงควรคุมทั้งปริมาณและแคลอรี่ด้วย โดยร่างกายควรต้องได้รับสารอาหารที่จำเป็นทั้งโปรตีน ไขมันดี คาร์โบไฮเดรต วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ รวมถึงต้องได้รับแคลอรี่ที่เพียงพอค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 4 เทคนิคลดน้ำหนักให้ได้ผล แม้ติดน้ำหวานและน้ำอัดลม
• 3 วิธี เริ่มต้นลดน้ำหนักง่ายๆ ด้วยตัวเอง แค่ทำตามนี้ก็ผอมได้แบบไม่ทรมาน