อาการที่ไม่ควรมองข้าม !! โรคบ้านหมุน เวียนหัว เกิดจากอะไรและวิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการ
ใครที่เคยมีอาการเวียนหัว มึนหัวบ่อย ๆ หรือบางคนที่เวียนหัวมากจนเหมือนบ้านหมุน คงเข้าใจถึงความทรมานนี้เป็นอย่างดี อาการนี้ดูเหมือนเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้ บางคนเกิดอาการนี้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในบางคนก็นานเป็นสัปดาห์ ซึ่งอาการเวียนหัว บ้านหมุนแบบนี้อาจเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้โดยเฉพาะกับคนที่ต้องเดินทางหรือขับรถเป็นประจำ คนที่ทำงานกับเครื่องจักรหรือผู้สูงอายุได้ค่ะ
โดยอาการบ้านหมุนเป็นอาการเวียนหัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ผู้ป่วยรู้สึกว่าบ้านหมุน สิ่งแวดล้อมหมุน รู้สึกว่าสิ่งรอบ ๆ ตัวเรามีการเคลื่อนที่ ส่วนอีกแบบคือ ผู้ป่วยรู้สึกว่าตัวเองมีการหมุน ซึ่งในความเป็นจริงไม่ว่าจะทั้งตัวผู้ป่วยหรือสิ่งแวดล้อมโดยรอบนั้นไม่มีการเคลื่อนที่เลย
สาเหตุของอาการบ้านหมุน
อาการบ้านหมุน เวียนศีรษะแบบนี้ เกิดขึ้นจากหินทรงตัวหรือหินปูนที่เกาะกันในหูชั้นในเกิดการเคลื่อนตัวจากการเสื่อมเมื่อมีอายุมากขึ้น หรืออาจจะมาจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้เช่น ได้รับการกระแทกรุนแรงที่บริเวณศีรษะจนทำให้หินปูนแตกออกเป็นเม็ดเล็ก ๆ แล้วเคลื่อนไปอยู่ในท่อน้ำของหูชั้นใน และเกิดเป็นอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขึ้นมา
หรือเกิดโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โดยสาเหตุการเกิดโรคนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อเป็นแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการได้ยินลดลง มีอาการหูอื้อ ได้ยินเสียงน้อยลง และมีเสียงในหู รวมถึงมีอาการเวียนศีรษะเหมือนบ้านกำลังหมุน ซุ่งหากใครที่มีอาการแบบนี้ก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ
และนอกจากทั้ง 2 โรคที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมีอีกโรคที่ทำให้เกิดอาการบ้นหมุนได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ โรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ ซึ่งโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสจากไข้หวัดแล้วลามไปติดที่เส้นประสาทการทรงตัว โดยอาการของโรคนี้คือ มีอาการบ้านหมุนจนไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตปกติได้เลย
โดยโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน มักเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ซึ่งโรคนี้เกิดได้กับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะวัยกลางคนอายุประมาณ 30 - 70 ปีค่ะ ใครที่รู้สึกเวียนหัวเหมือนบ้านหมุน โดยเฉพาะในช่วงที่คุณกำลังจะเปลี่ยนท่า เช่น กำลังจะลุกขึ้นจากที่นอนหรือขณะก้ม ๆ เงย ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้บ่อย ๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าเราควรจะต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยละเอียดได้แล้ว
วิธีดูแลตนเองเมื่อมีอาการบ้านหมุน
- ระวังในการทำท่าทางที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการได้ เช่น การหันหน้า การสั่นศีรษะเร็ว ๆ การก้มหน้าเงยหน้าอย่างรวดเร็ว หรือการเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว
- พยายามลดความเครียดและความวิตกกังวล
- อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ระวังเรื่องสารก่อภูมิแพ้ ฝุ่นละออง
- เมื่อมีอาการบ้านหมุน ให้ระวังเรื่องการขึ้นบันได ห้ามขับรถและห้ามปีนป่ายที่สูงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- งดชา กาแฟ บุหรี่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
หากใครที่กำลังมีอาการบ้านหมุนแบบนี้ ก็ควรไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อตรวจแยกโรคทางสมองและโรคทางระบบประสาทออกไป หรือควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้นเพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ