6 เคล็ดลับ เผาผลาญไขมันหน้าท้องขณะนอนหลับ ช่วยลดน้ำหนัก หุ่นกระชับ
ไขมันหน้าท้อง เป็นไขมันที่สาว ๆ หลายคนต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าลดได้ยากมาก ๆ เพราะไขมันบริเวณหน้าท้องนั้นต่อให้ออกกำลังหรือควบคุมอาหารนานขนาดไหนก็ไม่ค่อยจะลดลง
ความดื้อรั้นของเจ้าไขมันหน้าท้องที่ละลายหายไปได้ยากแม้ออกกำลังกายอย่างเข้มงวด เกิดจากการที่เซลล์ไขมันส่วนใหญ่ในบริเวณอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ การจะกำจัดให้หมดไปได้จำเป็นที่จะต้องอาศัยความมีระเบียบวินัยในการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่นอกเหนือจากนั้นเราก็ยังสามารถใช้เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเผาผลาญได้ และต่อไปนี้คือ 6 เคล็ดลับในการช่วยเผาผลาญไขมันหน้าท้อง แม้แต่ในตอนที่เรากำลังหลับสนิทอยู่ ร่างกายก็สามารถลดไขมันได้ค่ะ
ไขมันหน้าท้อง มีกี่ประเภท
ไขมันหน้าท้องเป็นไขมันที่มีชื่อเรียกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไขมันรอบเอว ไขมันที่พุง ซึ่งต่อให้เป็นชื่อไหนก็แสดงให้เห็นถึงการสะสมไขมันที่บริเวณหน้าท้อง แต่ถึงแม้จะเป็นไขมันบริเวณหน้าท้องก็มีหลายประเภท โดยหลัก ๆ จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ไขมันบริเวณใต้ผิวหนัง
ไขมันลักษณะนี้จะสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อสะสมในปริมาณมากก็จะทำให้พุงยื่น หน้าท้องยื่นออกมาตามความหนาของไขมัน
ไขมันในช่องท้อง
ไขมันจะชนิดนี้จะอยู่ลึกกว่าชั้นใต้ผิวหนัง โดยส่วนมากจะอยู่รอบ ๆ อวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งหากเรามีไจมันชนิดนี้เยอะก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายประเภท ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การกำจัดไขมันชนิดนี้จำเป็นที่จะต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
6 เคล็ดลับ ช่วยเผาผลาญไขมันหน้าท้องขณะนอนหลับ
1. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่มีคุณภาพอย่างน้อย 7 - 8 ชั่วโมง สามารถช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างราบลื่น เพราะการนอนหลับส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกายและระบบเผาผลาญ และมีผลต่อพฤติกรรมของเราอย่างการทานอาหารและการออกกำลังกาย ถ้าไม่ได้นอนหลับสนิทและเพียงพอ ไขมันหน้าท้องก็จะลดลงได้ยาก แต่หากเรานอนหลับได้ดีในตอนกลางคืน โอกาสที่ร่างกายจะเผาผลาญไขมันในช่องท้องก็จะมีมากขึ้น และทำให้หน้าท้องของเราแบนราบได้เร็วมากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อเราตื่นนอน ระบบเผาผลาญในร่างกายก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฮอร์โมนเกรลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราหิวก็จะลดน้อยลง ช่วยลดระดับคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้น
2. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพไม่เพียงแค่ควรนอนให้ได้ครบตามจำนวนชั่วโมง แต่การนอนหลับที่ดียังสามารถช่วยเพิ่มเมลาโทนินได้อีกด้วย ฮอร์โมนชนิดนี้เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเสริมประสิทธิิภาพการเผาผลาญแคลอรี่ ช่วยเปลี่ยนไขมันแข็งให้กลายเป็นไขมันที่เผาผลาญได้ง่าย การนอนหลับด้วยการปิดไฟให้สนิท นอนในเสื้อผ้าที่สบายและนอนในห้องที่มีอุณหภูมิเหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มเมลาโทนิน และช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้
3. เพิ่มโปรตีนและไฟเบอร์
โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่สำคัญ หากเรากำลังพยายามจะลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อ เราก็ควรกินโปรตีนให้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อร่างกาย โปรตีนมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดความร้อน ช่วยให้อิ่มได้นานขึ้น และช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีและไขมันได้มากขึ้น
4. กินอาหารที่ช่วยเผาผลาญไขมัน
อาหารที่ช่วยเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล คืออาหารที่มีไขมันดี อย่างเช่น น้ำมันมะกอก ถั่ว เมล็ดพืช อะโวคาโด ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ที่สามารถช่วยลดการอักเสบ และช่วยเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้
5. หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์อย่างเด็ดขาด รวมถึงพยายามลดการกินอาหารแปรรูปด้วย เพราะไขมันทรานส์ไม่เพียงแต่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไขมันชนิดนี้ยังดึงไขมันจากส่วนอื่น ๆ ในร่างกายไปยังบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย
6. ลองทำ HIIT
HIIT คือรูปแบบการออกกำลังที่มีความเข้มข้นสูง ข้อดีของการออกกำลังประเภทนี้ไม่เพียงแต่จะใช้เวลาน้อยแต่ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นด้วย ซึ่งการเผาผลาญแคลอรี่จากการทำ HIIT ก็จะช่วยเผาผลาญไขมันในบริเวณช่องท้องได้อีกด้วย และนอกจากนี้ยังช่วยเผาผลาญไขมันในช่วงที่ร่างกายกำลังพักผ่อนได้อีกด้วย สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ HIIT คือร่างกายของเราจะเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น ถึงแม้จะออกกำลังเสร็จไปแล้วหลายชั่วโมง
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 เทคนิคลดพุง ลดเอว บอกลาหน้าท้องยื่น ไม่ต้องอดข้าว ไม่ต้องออกกำลังหนัก
- 4 วิธีลดพุงแบบง่าย ๆ หน้าท้องแบนราบ ไม่มีห่วงยางรอบเอว