รีเซต

6 เทคนิคดูแลผมทำสี บำรุงผมหลังทำสี ให้สีผมติดทน สวยสุขภาพดี

6 เทคนิคดูแลผมทำสี บำรุงผมหลังทำสี ให้สีผมติดทน สวยสุขภาพดี
faiinatnista
4 พฤษภาคม 2565 ( 11:00 )
9.7K

     “การทำสีผม” นับว่าเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันที่สามารถช่วยให้เราดูโดเด่นได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งผมที่ผ่านการทำสีมานั้น หากไม่ได้รับการบำรุงอย่างถูกต้องมักจะพบปัญหาต่างๆ เช่น สีซีดจาง หลุดไว ผมแห้งเสีย แตกปลาย หยาบกระด้าง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ขาดและหลุดร่วงได้ง่าย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) จึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผม แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ มาแนะ “เทคนิคการดูแลผมทำสี ให้สวยสุขภาพดี และคงสีผมให้ยาวนาน”

 

 

     แพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผม กล่าวถึงเทคนิคการดูแลผมทำสี ให้สวยสุขภาพดี และคงสีผมให้ยาวนานว่า “การทำสีผมถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเปลี่ยนช่วยเปลี่ยนบุคลิกให้ดูน่าสนใจมากขึ้น ปัจจุบันมีน้ำยาเปลี่ยนสีให้เลือกหลากหลายแบบ หลายหลายยี่ห้อ ในน้ำยาเปลี่ยนสีผมจะประกอบด้วยสารเคมีสำหรับกัดสี และย้อมสีผมประกอบด้วยสาร ‘ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์’ (Hydrogen Peroxide), ‘พีพีดี’ (PPD; Para-Phenylene Diamine) และแอมโมเนีย (Ammonia) สารเหล่านี้จะไปขจัดเม็ดสีตามธรรมชาติ หรือ ‘เมลานิน’ (Melanin) เพื่อทำให้เส้นผมมีสีที่อ่อนลง และทำให้สีใหม่ติดเส้นผมได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกันสารเคมีเหล่านี้ก็ส่งผลต่อเส้นผมและหนังศีรษะ โดยก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบหนังศีรษะ เส้นผมแข็งกระด้าง ชี้ฟู ขาดร่วง และรากผมอ่อนแอได้ น้ำยาเปลี่ยนสีผมสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

  • แบบชั่วคราว (Temporary hair dyes) ทำให้สีติดชั่วคราว ไม่คงทน สามารถล้างสีออกได้ด้วยการสระผมด้วยแชมพูเพียง 1-2 ครั้ง น้ำยาเปลี่ยนสีผมชนิดนี้จะใช้สีที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ โดยเม็ดสีจะติดอยู่บนผิวของเส้นผมเท่านั้น ไม่ซึมเข้าไปชั้นในของ Cortex เส้นผม เช่น คัลเลอร์ รินส์ (Color rinse), ดินสอทาสีผม (Hair crayons) และสีพ่นเส้นผม (Color sprays) เป็นต้น
  • แบบกึ่งถาวร (Semi-permanent hair dyes) มีส่วนประกอบของสีที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมลึกเข้าติดถึงชั้น Cortex ของเส้นผม โดยเกาะจับกับ Keratin ในเส้นผมได้ สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% และสีจะมีความคงทนได้นาน 3 - 5 สัปดาห์ เช่น แชมพูย้อมสีผม, โลชั่น และโฟมย้อมสีผม เป็นต้น
  • แบบถาวร (Permanent hair dyes) สีประเภทนี้จะติดผมในเส้นผมค่อนข้างคงทนนานหลายเดือน สามารถปกปิดผมขาวได้ รวมถึงสามารถย้อมสีใหม่ได้ เม็ดสีมีความคงทนต่อการสระโดยไม่ทำให้สีลอก แต่ก็ส่งผม เสียต่อเส้นผมมากกว่าประเภทอื่นๆ ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ไม่ควรมีปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้นเกินกว่า 6% และต้องทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง

 

 

วิธีดูแลผมทำสี ให้สวยดูดีอยู่เสมอ

1. ควรเตรียมผมให้พร้อมก่อนการทำสี

     ด้วยการทำแฮร์ทรีตเมนต์ อบไอน้ำ หมักครีมบำรุงผม ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำสีผม หากเส้นผมเรามีสุขภาพดี แข็งแรง เมื่อเราไปทำสีผม สีก็จะติดง่าย และติดทนนาน

2. สระผมด้วยแชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ

     นอกจากสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมสีซีดจางหรือหลุดไว ช่วยให้สีผมเปล่งประกายและคงทน พร้อมยังช่วยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนผมชั้นใน

3. เพิ่มการบำรุงผมเป็นพิเศษ

     เพราะเส้นผมที่ผ่านการทำสีมักเจอกับปัญหาความอ่อนแอและแห้งแตกปลาย ต้องได้รับการบำรุงเป็นพิเศษด้วยการทำทรีตเม้นต์สำหรับเส้นผมอย่างการใช้แฮร์มาส์ก สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และใช้เซรั่มบำรุงเส้นผมหรือวิตามินเป็นประจำ เพื่อซ่อมแซมเส้นผมจากภายในให้กลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดี

4. ลดการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม

     อย่าลืมว่าเส้นผมที่ผ่านการฟอกสีย่อมอ่อนแอกว่าปกติ ดังนั้นก่อนจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน จะต้องฉีดสเปรย์กันความร้อนก่อนทุกครั้ง และไม่ควรใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้ผมแห้งเสียมากกว่าเดิม หากเป็นไปได้ก็ควรใช้ลมเย็นเป่าผมจะดีที่สุด

5. พักฟื้นเส้นผม

     ควรปล่อยให้ผมได้ฟื้นฟูตัวเองบ้าง อย่างน้อยที่สุดคือ 1 เดือน เพื่อให้เวลาผมกลับมาแข็งแรงมากพอ และมีความพร้อมที่จะทำสีหรือทำเคมีได้อีกครั้ง

6. รับประทานอาหารบำรุงเส้นผม

     อาหารบำรุงเส้นผม เช่น ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว นมสด ชีส โยเกิร์ต ปลาแซลมอน ไข่ หอยนางรม และหอยแมลงภู่ นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานวิตามินจำพวกไบโอติน วิตามินบี วิตามินเอ แร่ธาตุสังกะสี หรือแร่ธาตุเหล็ก เพื่อเสริมความแข็งแรงให้เส้นผมได้

 

     แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีรายงานการวิจัยที่ระบุได้อย่างชัดเจนว่า การย้อมผมบ่อยครั้งแค่ไหนถึงจะเป็นอันตรายต่อร่างกายจริงๆ แต่มีงานวิจัยในต่างประเทศให้ข้อมูลว่าโดยเฉลี่ยแล้วสามารถทำสีผมได้มากสุดปีละ 9 ครั้ง แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็ไม่ควรทำสีผมบ่อยจนเกินไป เพื่อลดการรบกวนหนังศีรษะ ลดการทำลายเส้นผม และเพื่อให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของรากผมให้แข็งแรงเป็นปกติ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : 

  • ธัญ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม และแพทย์หญิงภัทรา ภิญโญภาวศุทธิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเส้นผม

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง