5 วิธีดูแลดวงตาแบบง่ายๆ ช่วยให้ห่างไกลโรคต้อกระจก
โรคต้อกระจก คือภาวะการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตา โดยเลนส์ตาที่ปกติจะมีลักษณะใสจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นขุ่นขึ้น ส่งผลทำให้แสงไม่สามารถเข้าไปในตาได้ ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นไม่ชัดและตามัว ซึ่งโรคนี้สามารถพบได้มากในคนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปค่ะ แต่ถึงจะพบมากในผู้สูงอายุ ปัจจุบันกลุ่มคนที่อายุน้อยก็สามารถพบได้เช่นกัน
การมองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน มองเห็นสีผิดปกติ เห็นฝ้าขาวบริเวณกลางรูม่านตารวมถึงตาสู้แสงสว่างไม่ได้ ถือเป็นอาการของโรคต้อกระจกค่ะ โดยหนึ่งในวิธีรักษาก็สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดค่ะ แต่ก่อนที่จะเป็นมากจนต้องมาพบแพทย์ เราก็สามารถดูแลดวงตาแบบง่าย ๆ ได้ เพื่อเป็นการช่วยถนอมดวงตา จะได้ห่างไกลจากโรคนี้ค่ะ
5 วิธีดูแลดวงตา ป้องกันโรคต้อกระจก
1. สวมแว่นกันแดดเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง
ในแสงแดดนั้นมีรังสีอัลตร้าไวโอเลตซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายดวงตาของเราได้และสามารถทำให้เลนส์ตาของเราเสื่อมได้เร็วกว่าปกติด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและถนอมดวงตา เวลาที่เราจำเป็นจะต้องอยู่กลางแจ้งก็ให้สวมแว่นกันแดดที่สามารถช่วยกรองแสง UV ใช้วิธีกางร่มหรือจะใช้วิธีใส่หมวกเพื่อป้องกันแสงก็ได้ค่ะ
2. พักสายตาเป็นระยะ
หากเราจำเป็นจะต้องใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ อย่างเช่นการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การเล่นมือถือนาน ๆ เราจำเป็นที่จะต้องมีการพักสายตาเป็นระยะ ๆ ค่ะ โดยเราอาจจะใช้วิธีมองไปไกล ๆ สัก 1 - 2 นาที เพื่อเป็นการเปลี่ยนโฟกัสของดวงตา หรือจะใช้วิธีหลับตาสักครู่เพื่อเป็นการพักสายตาก็ได้ค่ะ
- ระวังจอประสาทตาเสื่อม!! 5 เคล็ดลับถนอมสายตาจากการเล่นมือถือ คอมพิวเตอร์
- 8 วิธีดูแลสายตา บำรุงสายตา ช่วงอยู่บ้าน เพ่งแต่หน้าจอมือถือกับคอมทุกวัน ต้องดูแล!
3. กินอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา
อาหารที่ช่วยบำรุงดวงตาหรืออาหารที่ช่วยบำรุงสายตาคืออาหารที่มีเบต้าแคโรทีนรวมถึงอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูงค่ะ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้สามารถที่จะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ช่วยถนอมสายตาและบำรุงดวงตาให้สุขภาพดีได้
- 6 อาหารเบต้าแคโรทีนสูง โปรวิตามินเอ ต้านอนุมูลอิสระ มะเร็ง บำรุงผิว สายตา
- 6 อาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูง บำรุงดวงตา ถนอมสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
4. ไม่ซื้อยากินเอง
ไม่ควรซื้อยามากินเองอย่างเด็ดขาดค่ะ โดยเฉพาะยาลูกกลอน ยาสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อหรือแม้แต่อาหารเสริม แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะยาเหล่านี้อาจมีสเตียรอยด์แฝงอยู่ การที่เรากินยาเหล่านี้ติดต่อกันนาน ๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายรับสารสเตียรอยด์ตามไปด้วย ซึ่งสเตียรอยด์สามารถส่งผลทำให้เลนส์ตาเสื่อมได้และทำให้เกิดโรคต้อกระจกได้เร็วขึ้นค่ะ
5. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรต้องได้รับการตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปีค่ะ เพราะหากเกิดความผิดปกติใด ๆ ต่อดวงตา คุณหมอก็จะได้ทราบปัญหาได้เร็วและวางแผนรักษาได้เร็ว ทำให้โรคไม่ลุกลามค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 4 วิธีป้องกันโรคต้อกระจก สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง
- 5 อาหารบำรุงดวงตาให้สดใส ไม่โทรม ไม่ขุ่นมัว คลายความอ่อนล้าจากการใช้สายตานาน