เช็กด่วน! อาการปวดท้องประจำเดือน ที่บอกว่าควรพบแพทย์

อาการปวดท้องประจำเดือนหรือที่เรียกว่า "ปวดท้องเมนส์" เป็นอาการที่ผู้หญิงหลายคนเคยพบเจอในช่วงมีประจำเดือน ซึ่งอาการปวดนี้เกิดจากการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกเพื่อขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา โดยทั่วไปการปวดท้องเมนส์เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงหลายคน แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกรณีที่อาการปวดท้องประจำเดือนนั้นกลายเป็นอาการผิดปกติที่ต้องใส่ใจและเข้าพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
ถึงแม้อาการปวดท้องประจำเดือนจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนเคยประสบ แต่บางครั้งอาการปวดก็อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่ต้องใส่ใจและปรึกษาแพทย์ ในวันนี้เราจะพาทำความเข้าใจว่าอาการปวดแบบใดที่ถือว่าปกติและแบบไหนที่ผิดปกติ เพื่อสุขภาพที่ดี
อาการปวดท้องประจำเดือนที่ปกติ
อาการปวดท้องในช่วงมีประจำเดือนมักเกิดจากการบีบตัวของมดลูกเพื่อขับเยื่อบุโพรงมดลูกร่วมกับสารโพรสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่พบในผู้หญิงส่วนใหญ่ โดยลักษณะอาการที่ปกติ ได้แก่
- ปวดรุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง มีลักษณะปวดหน่วงหรือปวดบีบตัว
- ปวดบริเวณท้องน้อย อาจลามไปที่หลังส่วนล่างหรือสะโพก
- เริ่มปวดก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน หรือในช่วง 1-3 วันแรกของรอบเดือน
- มีอาการร่วมเช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือปวดหลังเล็กน้อย
- อาการปวดลดลงใน 2-3 วันหลังจากเริ่มมีประจำเดือน
อาการปวดท้องประจำเดือนที่ผิดปกติ
หากอาการปวดท้องประจำเดือนมีลักษณะดังต่อไปนี้ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะผิดปกติ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเนื้องอกมดลูก
- ปวดท้องรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่สามารถลุกขึ้นหรือทำงานได้
- อาการปวดท้องรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกเดือน
- ยาแก้ปวดทั่วไปไม่ช่วยบรรเทาอาการ
- ปวดท้องพร้อมมีไข้สูง หรือมีตกขาวผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็นหรือลักษณะผิดสี
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียรุนแรงร่วมด้วย
- ปวดท้องน้อยรุนแรงในช่วงที่ไม่ใช่รอบเดือน หรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
วิธีดูแลและจัดการอาการปวดเบื้องต้น
สำหรับอาการปวดท้องประจำเดือนที่ไม่ได้รุนแรง อาจบรรเทาได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- ประคบร้อนบริเวณท้องน้อยเพื่อลดอาการปวด
- พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด
- ใช้ยาแก้ปวดประเภทไอบูโพรเฟนหรือพาราเซตามอลตามคำแนะนำ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีลักษณะผิดปกติ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นเรื่องปกติในผู้หญิงส่วนใหญ่ แต่หากมีอาการปวดรุนแรงผิดปกติ หรือมีอาการแทรกซ้อนร่วม ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพื่อป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้![]()
สิทธิประโยชน์แนะนำ
