รีเซต

อย่าปล่อยให้ร่างพัง! รู้จักผลเสีย และวิธีแก้ ความเครียดเรื้อรัง อันตรายกว่าที่คิด

อย่าปล่อยให้ร่างพัง! รู้จักผลเสีย และวิธีแก้ ความเครียดเรื้อรัง อันตรายกว่าที่คิด
aamyemily
4 ธันวาคม 2568 ( 10:00 )

    ร่างกายพังไม่รู้ตัว! ทำความรู้จัก ผลเสีย และวิธีแก้ ความเครียดเรื้อรัง ที่ต้องระวัง ในยุคปัจจุบันที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน ความเครียด กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่เมื่อความเครียดนั้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 6 สัปดาห์ จะกลายเป็น ความเครียดเรื้อรัง ซึ่งส่งผลกระทบที่รุนแรงและลึกซึ้งต่อทั้งร่างกายและจิตใจอย่างที่เราคาดไม่ถึง

    การจัดการความเครียดเรื้อรังต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างรอบด้าน เพื่อลดการหลั่งคอร์ติซอลและสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ ดังนั้น การรู้จัก ผลเสียและความเครียดเรื้อรัง และหาวิธีจัดการอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

 

 

3 ผลเสีย ความเครียดเรื้อรัง จากภายใน

    ความเครียดเรื้อรังจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน คอร์ติซอล อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่ออยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อทุกระบบในร่างกาย

 

1. ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ : คอร์ติซอลที่สูงจะไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ไม่ดี

  • ทำให้ป่วยบ่อยขึ้น ติดเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น เช่น เป็นหวัดบ่อย และแผลหายช้าลง

 

2. ผลกระทบต่อสมองและสุขภาพจิต

  • สมองทำงานแย่ลง : ความเครียดเรื้อรังทำลายเซลล์สมอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ ทำให้มีปัญหาด้านสมาธิและความจำถดถอย

  • วิตกกังวลเรื้อรัง อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และอาจนำไปสู่ภาวะ Burnout

 

3. ผลกระทบต่อระบบเผาผลาญและรูปร่าง

  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น : คอร์ติซอลจะกระตุ้นให้ร่างกายเก็บสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณช่องท้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน

  • ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารรสหวานและคาร์โบไฮเดรตสูง ปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน

 

5 วิธีแก้ความเครียด เรื้อรังอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมชาติ

1. ฝึกสติและหายใจให้ช้าลง

  • หลักการ: การฝึกสติ (Mindfulness) และการหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ผ่านช่องท้อง เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเปิดใช้งานระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมให้ร่างกายสงบ

  • วิธีปฏิบัติ: ลองกำหนดเวลา 5 นาทีต่อวันเพื่อหายใจเข้าลึก 4 วินาที กลั้นไว้ 4 วินาที และหายใจออกช้าๆ 6 วินาที

 

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

  • หลักการ: การออกกำลังกายช่วยลดระดับคอร์ติซอลที่หมุนเวียนในร่างกาย และช่วยให้สมองหลั่งเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา

  • วิธีปฏิบัติ: เน้นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง เช่น การเดินเร็ว, โยคะ, หรือพิลาทิส อย่างน้อย $30$ นาทีต่อวัน

 

3. จัดการการนอนหลับให้มีคุณภาพ

 

  • หลักการ: การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมและ จัดการคอร์ติซอล ที่สูงในเวลากลางวัน

  • วิธีปฏิบัติ: สร้างสภาพแวดล้อมห้องนอนให้มืดและเย็นสนิท งดการใช้หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ 1 ชั่วโมงก่อนนอน และพยายามเข้านอนให้ตรงเวลา

 

4. ปรับโภชนาการให้เป็นมิตรต่อสมอง

 

  • หลักการ: อาหารบางชนิดช่วยลดการอักเสบและเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารสื่อประสาทที่ดี

  • วิธีปฏิบัติ: เน้นอาหารที่มี โอเมกา-3 (เช่น ปลาแซลมอน), แมกนีเซียม (เช่น ผักใบเขียวเข้ม, ถั่วเปลือกแข็ง), และทาน พรีไบโอติกส์/โพรไบโอติกส์ เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดี (Gut Health) ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับสุขภาพจิต

 

5. กำหนดขอบเขตดิจิทัล

 

  • หลักการ: การรับข่าวสารหรือการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปทำให้เกิดความเครียดและเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น

  • วิธีปฏิบัติ: ลองกำหนดช่วงเวลา "ปลอดหน้าจอ" ในแต่ละวัน เช่น หลัง $21:00$ น. หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์บางช่วง เพื่อให้จิตใจได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

การเริ่มต้นด้วย วิธีแก้ความเครียด ทีละเล็กทีละน้อย จะช่วยให้คุณกลับมาควบคุมระดับคอร์ติซอล และสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ให้แข็งแกร่งขึ้นได้ครับ/ค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี