3 เทคนิคแก้ระบบเผาผลาญพัง..โยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) แล้ว ทำอย่างไร?
ระบบเผาผลาญ คือวิธีการที่ร่างกายใช้เผาผลาญพลังงานหรือเผาผลาญแคลอรี่จากอาหารที่เรากินเข้าไปค่ะ ในบางรายที่อดอาหารเพื่อต้องการที่จะลดความอ้วนเร็วๆ นั้น ส่งผลอย่างมากกับระบบเผาผลาญของเรา เนื่องจากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเน้นการอดอาหารเพื่อการลดความอ้วน ร่างกายก็จะมองว่าเรากำลังเข้าสู่ภาวะอดอยาก และร่างกายก็จะจำกัดระบบเผาผลาญไม่ให้เผาผลาญพลังงานมากจนเกินไป เพื่อต้องการสะสมพลังงานไว้ใช้ในยามที่จำเป็น ซึ่งหากเราอดอาหารจนร่างกายเข้าสู่สภาวะนี้แล้ว นอกจากน้ำหนักของเราจะคงที่ไม่ลดลงแล้ว หากเรากลับมากินอาหารร่างกายก็จะเข้าสู่สภาวะโยโย่ทันที เนื่องจากระบบเผาผลาญของเราพังไปแล้วนั่นเองค่ะ
ซึ่งวิธีการกู้ระบบเผาผลาญที่พังนั้น บอกเลยว่าไม่ใช่ว่าจะใช้เวลาแค่วันหรือสองวันก็กลับมาดีเหมือนเดิมได้ ในบางรายต้องใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้นเพื่อที่จะกู้ระบบเผาผลาญให้กลับมาดีเหมือนเดิม ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการคง ระบบเผาผลาญ ให้ทำงานได้อย่างดีและต่อเนื่องนั้น ก็คือการตั้งใจลดความอ้วนอย่างถูกวิธี ไม่ต้องจำกัดอาหารมากจนเกินไป แต่เป็นการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดการกินน้ำตาล จำกัดการกินแป้งให้พอดีกับพลังงานที่เราจะต้องใช้ในแต่ละวันจะดีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เผลอลดความอ้วนผิดวิธีจนระบบเผาผลาญนั้นพังไปหมดแล้ว เรามีวิธีกู้ระบบเผาผลาญให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้ ตามนี้ค่ะ
3 เทคนิคแก้ระบบเผาผลาญพัง
1. เน้นการเพิ่มกล้ามเนื้อแต่ไม่ลดไขมัน
อย่างแรกที่ควรทำหลังจากที่ระบบเผาผลาญของเรานั้นพังไปแล้วนั่นคือการเปลี่ยนวิธีลดความอ้วนก่อนค่ะ การลดความอ้วนโดยการยิ่งอดอาหารเพิ่มยิ่งมีแต่จะทำให้ร่างกายของเราแย่ลง ซึ่งการที่จะกู้ระบบเผาผลาญให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้นั้น ควรเน้นไปที่การมุ่งเพิ่มกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย ซึ่งวิธีการเพิ่มกล้ามเนื้อนั้นควรทำคู่กันทั้งการออกกำลังกายและการเลือกกินอาหารค่ะ อย่าลืมว่ากล้ามเนื้อของเรามีส่วนอย่างมากในการดึงพลังงานจากไขมันไปใช้ การมุ่งเพิ่มกล้ามเนื้อสำหรับคนที่ระบบเผาผลาญพังควรให้ความสนใจกับไขมันควบคู่ไปด้วย นั่นคือเราจำเป็นจะต้องกินอาหารประเภทไขมันให้พอดีกับการสร้างกล้ามในร่างกาย วิธีการง่ายๆ คือเน้นการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง คู่ไปกับการกินอาหารประเภทโปรตีน ไขมันดีและแป้งประเภทไม่ขัดขาวค่ะ
2. อย่ากลัวการกินอาหารประเภทไขมันและคาร์โบไฮเดรต
ในการที่จะฟื้นฟูระบบเผาผลาญให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้นั้น การเลือกกินอาหารถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากเลยล่ะค่ะ โดยหลักการในการกินนั้นควรกินโปรตีนให้ได้ประมาณ 2 เท่าของน้ำหนักตัว ยกตัวอย่างเช่น หากเราหนัก 60 กิโล เราควรกินโปรตีนให้ได้ 120 กรัม/วัน เนื่องจากโปรตีนนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การกินไขมันก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่างกายมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการออกกำลังกายด้วยค่ะ แต่เราควรเลือกกินไขมันดีค่ะ โดยหลักการกินไขมันง่ายๆ คือน้ำหนักตัว 1 กิโล/ไขมัน 1 กรัม และอาหารอย่างสุดท้ายที่คนระบบเผาผลาญพังควรกินไม่แพ้กันก็คือคาร์โบไฮเดรตค่ะ เพราะคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งนั้นมีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อของเราเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่เราออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่งแล้ว เราควรกินแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท กล้วย เพื่อที่ร่างกายจะได้นำแป้งมาใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อต่อไป อย่างไรก็ตามอาหารประเภทแป้งในท้องตลาดบ้านเรามักจะมีน้ำตาลปนอยู่ เราจึงควรต้องเลือกกินในปริมาณที่พอดีเพื่อที่จะได้ไม่รับน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการค่ะ
3. เน้นการออกกำลังด้วยเวทเทรนนิ่งแต่ห้ามทิ้งคาร์ดิโอ
อย่างสุดท้ายแต่สำคัญอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟู ระบบเผาผลาญ ให้กลับมาดีเหมือนเดิมนั่นก็คือการให้เวลากับการออกกำลังกายค่ะ โดยกลุ่มคนที่ต้องการกู้ระบบเผาผลาญของตัวเองนั้นควรเน้นการออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งเป็นหลักแต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรละทิ้งการออกกำลังแบบคาร์ดิโอค่ะ โดยการออกกำลังแบบคาร์ดิโอนั้นควรอยู่ที่ 150 นาที/สัปดาห์ ไม่ควรมากจนเกินกว่านี้ เพราะการออกกำลังแบบคาร์ดิโอนั้นเน้นการกำจัดไขมันออกจากร่างกาย ซึ่งคนที่ต้องการฟื้นฟูระบบเผาผลาญยังจำเป็นที่จะต้องมีไขมันอยู่ในร่างกายพอสมควรค่ะ การออกกำลังกายด้วยการเล่นเวทจึงค่อนข้างจะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มากกว่า
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 พฤติกรรมยามเช้า ที่จะทำให้ระบบเผาผลาญคุณดีขึ้น
- 3 วิธีปรับระบบเผาผลาญให้ได้ผล ลดน้ำหนักได้ไม่ค้าง ไม่โยโย่