5 วิธีลดรอยคล้ำรอบดวงตา ลดริ้วรอย ลดถุงใต้ตา เปลี่ยนใต้ตาคล้ำให้กระจ่างใส

   เมื่อเราอายุมากขึ้น บริเวณรอบดวงตาก็จะกักเก็บของเหลวมากขึ้น และยังสูญเสียอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อสุขภาพผิวมากขึ้นด้วย ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย ซึ่งสาเหตุนี้สามารถทำให้เกิดถุงใต้ตาและทำให้สีผิวบริเวณนี้ดูเข้มขึ้นได้ด้วย 

     นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการบวมใต้ตา ได้แก่ อาการแพ้ ปัญหาผิวแห้งและขาดน้ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้เกิดถุงใต้ตาสีเข้มขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากผิวใต้ตาบอบบางมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น ปัญหาใต้ตาสามารถกลายเป็นปัญหาชั่วคราวหรือระยะยาวได้ง่าย แต่ก็ยังมีวิธีที่เราสามารถต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนี้ค่ะ

5 วิธีลดรอยคล้ำรอบดวงตา 

1. ทาครีม

     ผลิตภัณฑ์ทารอบดวงตาที่มีส่วนผสมเรตินอยด์ กรดไฮยาลูโรนิกหรือวิตามินซี มีประโยชน์ในการทำให้ถุงใต้ตามีสีจางลง เรตินอยด์อาจส่งผลต่อระดับเซลล์และทำให้ผิวของเราดูอ่อนกว่าวัย กรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารสำคัญในการลดการแก่ชราของผิวและยังช่วยสร้างความสว่างโดยการเพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนัง

     ในส่วนของวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงประสิทธิภาพที่สามารถปกป้องผิวจากริ้วรอยแห่งวัยและริ้วรอยจากจากแสงแดด ขณะเดียวกันก็ช่วยลดการสร้างเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้ผิวคล้ำขึ้น

2. ใช้ถุงชา 

     หากเราต้องการวิธีแก้ไขง่าย ๆ เพื่อลดอาการบวมและรอยคล้ำ ให้หยิบถุงชาที่มีคาเฟอีน ชงในน้ำร้อนสัก 2 - 3 นาที ปล่อยให้เย็น และปิดตาไว้สัก 3 - 4 นาที คาเฟอีนจะช่วยในเรื่องการหดตัวของหลอดเลือดใต้ผิวหนังรอบดวงตา และทำให้รอยคล้ำรวมถึงความลึกของริ้วรอยลดลง

3. แตงกวาหั่นบาง ๆ

     แตงกวาสามารถลดอาการได้ นั่นเป็นเพราะว่าในแตงกวามีโซเดียมสูง และช่วยดึงน้ำออกจากใต้ผิวหนังได้ นอกจากนี้เมื่อนำไปแช่เย็น แตงกว่าจะทำหน้าที่เหมือนกับถุงน้ำแข็งเล็ก ๆ ที่ช่วยลดอาการบวมในหลอดเลือดเล็ก ๆ ใต้ตา

4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ควัน

     แน่นอนว่าการสูบบุหรี่มาพร้อมกับปัญหาสุขภาพหลายประการที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็สามารถทำลายดวงตาของเราได้ด้วยเช่นกัน ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดตาแห้งซึ่งจะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะขยี้ตาและเกามากขึ้น การสูบบุหรี่ยังทำให้สูญเสียคอลลาเจนเร็วขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาของเราบางลง และหลอดเลือดก็จะเด่นชัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเรามีอาการแพ้ หรือรู้สึกคันบริเวณดวงตา การขยี้ตาด้วยการใช้มือถูดวงตามีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้สารก่อภูมิแพ้เข้าไปในผิวหนังได้และเสี่ยงจะทำให้คันหรือมีอาการแพ้อื่น ๆ มากขึ้น

5. จำกัดอาหารที่มีเกลือและอาหารรสเค็ม

     เมื่อเราได้รับโซเดียมในปริมาณสูง ร่างกายอาจกักเก็บของเหลวไว้ทั่วร่างกาย ซึ่งอาจรวมถึงบริเวณใต้ตาด้วย หากสาเหตุนี้เกิดขึ้นกับเราเป็นประจำ ให้พิจารณาลดปริมาณเกลือและหลีกเลี่ยงการดื่มของเหลวก่อนเข้านอน เพื่อลดปริมาณของเหลวที่คั่งค้างในตอนกลางคืน

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 5 วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ ลดถุงใต้ตาบวม ทำไงดี !!
• 7 ครีมลดถุงใต้ตา ช่วยลดรอยคล้ำและตาบวม ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย