3 เทคนิคดูแล ผิวมันขาดน้ำ เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรดี

   ปัญหา ผิวมันขาดน้ำ สามารถเกิดได้กับทุกสภาพผิวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสาวผิวมันหรือสาวผิวแห้ง ยิ่งโดยเฉพาะสาวๆ ที่ผิวแพ้ง่ายนั้นก็สามารถเกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเราจะทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิวแล้วก็ตาม แต่ปัญหาผิวขาดน้ำนั้นก็ยังไม่ได้หายไป ปัญหาผิวขาดน้ำนั้นสามารถส่งผลกระทบให้กับสาวๆ ได้ทั้งการแต่งหน้าไม่ติดทน หน้ามันเยิ้ม เป็นสิว ใบหน้าไม่กระจ่างใส ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุมาจากการที่ผิวขาดน้ำนั่นเองค่ะ

สาเหตุของผิวมันขาดน้ำ

     สาเหตุหลักๆ ของปัญหาผิวมันขาดน้ำ คือการที่ผิวของเราขาดการบำรุง, ตากแดดโดยไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ป้องกันผิว, อยู่ห้องแอร์เป็นเวลานานๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวแห้ง และการดื่มน้ำน้อยไม่พอกับที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เป็นผลให้ผิวแห้งกร้านและเกิดการขาดน้ำภายใต้ชั้นผิว ถึงแม้ว่าในร่างกายของเราจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 70% และ 1 ใน 3 ของน้ำในร่างกายนั้นอยู่ที่ผิวของเรา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผิวของเราจะชุ่มชื้นอยู่เสมอได้โดยไม่ต้องบำรุงใดๆ ค่ะ     

     ปัญหาผิวขาดน้ำเกิดจากการที่น้ำมาหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวไม่เพียงพอ จึงทำให้ต่อมไขมันต้องผลิตน้ำมันขึ้นมาเพิ่มเพื่อเคลือบผิวไว้ เป็นการชดเชยและเป็นการเก็บความชุ่มชื้นในผิวไว้ให้มากที่สุดค่ะ ส่งผลให้เรามีใบหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน โดยเฉพาะช่วงหน้าผากและจมูก ซึ่งปัญหาที่ตามมาอีกคือรูขุมขนกว้าง ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ใบหน้าโทรมและเป็นสิว ด้วยสาเหตุแบบนี้เองจึงเป็นที่มาของคำว่า ผิวมันขาดน้ำ และทำให้สาวๆ หลายคนเข้าใจผิดไปว่าตัวเองมีผิวมันค่ะ

ผิวมัน และ ผิวขาดน้ำ แตกต่างกันอย่างไร

สำหรับสาวๆ ที่กำลังสงสัยว่าตกลงแล้วเรามีผิวมัน หรือ ผิวมันเพราะขาดน้ำ กันแน่ ลองสังเกตตัวเองง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

: สำหรับสาวผิวมัน

1. ใบหน้าจะมีความมันบริเวณทีโซน (หน้าผากและจมูก) และบางครั้งมีความมันบริเวณแก้มออกมาด้วย สาเหตุมากจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติค่ะ
2. เมื่อลองสัมผัสใบหน้าแล้วยังคงรู้สึกได้ว่าผิวยังชุ่มชื้น ไม่เป็นขุย ไม่แห้งสาก
3. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสาวผิวมันแล้วผิวดูดีขึ้น เห็นผลชัดเจน ผิวมีความมันน้อยลง ผิวดูสุขภาพดีขึ้น เนื่องจากได้รับการบำรุงถูกทาง

: สำหรับสาวผิวมันขาดน้ำ

1. รู้สึกผิวแห้งทั้งๆ ที่มีน้ำมันออกมาเคลือบผิว เมื่อลองสัมผัสใบหน้าแล้วรู้สึกสากมือ และใบหน้ามีทั้งความมันความแห้งสลับกันไป
2. รูขุมขนกว้างเนื่องจากต่อมไขมันต้องผลิตน้ำมันเพื่อเคลือบผิวตลอดเวลา รวมถึงยังมีปัญหาสิวผดและสิวอุดตันร่วมด้วย
3. แต่งหน้าไม่ติด ลงแป้งซ้ำกี่ครั้งหน้าก็ไม่เนียนขึ้น ซ้ำผิวยังลอกเป็นขุย
4. หลังล้างหน้าจะรู้สึกว่าผิวหน้าแห้ง แต่พอไม่นานหน้าก็จะกลับมามันเหมือนเดิม

3 เทคนิคดูแลผิวมันขาดน้ำ

1. ดื่มน้ำมากๆ

     แน่นอนว่าเมื่อเกิดปัญหาผิวขาดน้ำแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการเติมน้ำเข้าในร่างกายด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ เพื่อเป็นการเติมน้ำให้เซลล์ผิวและช่วยลดการขาดน้ำในร่างกาย การดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว คือสิ่งที่สาวๆ ควรทำเป็นอย่างแรกและควรทำเป็นประจำค่ะ

2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

     ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็เหมือนกับตัวช่วยในการเติมน้ำให้ผิวได้เร็วขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสาวๆ ที่มีปัญหาผิวมันขาดน้ำ คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง อย่างเช่น โฟมล้างหน้าที่พอหลังล้างหน้าแล้วรู้สึกแห้งตึง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารก่อระคายเคือง เช่น Alcohol, Vitamin C, AHA, BHA, Retinoids นอกจากนี้ยังควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันด้วย

3. หลีกเลี่ยงการขัดผิว

     การสครับผิว ขัดหน้าและลอกหน้าเป็นประจำ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวของเราขาดน้ำได้ เนื่องจากจะทำให้ผิวระคายเคือง ทางที่ดีคือไม่ควรทำบ่อยๆ เป็นประจำ แต่ให้เปลี่ยนไปเป็นการบำรุงผิวแทนจะดีกว่าค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ


บอกลา ผิวขาดน้ำ ด้วยวิธีดื่มน้ำให้ถูกต้อง ปกป้องผิวสวยชุ่มชื่น

7 เซรั่มและครีมบำรุง สำหรับคนผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ใช้แล้วผิวนุ่ม ชุ่มชื่นสุด!