8 เคล็ดลับดูแลผมทำสี สีผมติดทน ไม่เฟด ไม่แห้งเสีย
ถึงแม้ว่าร้านเสริมสวยจะเป็นสถานที่ที่สามารถย้อมผมและเปลี่ยนสีผมของเราให้สวยได้อย่างใจต้องการก็จริง แต่การรักษาสีผมของเราให้สวยงามและติดทน รวมถึงการบำรุงให้เส้นผมยังมีสุขภาพดี คือหน้าที่ของเราที่จะต้องทำค่ะ
หลังจากการทำสีผมในแต่ละครั้ง เส้นผมของเราจะต้องการการดูแลอย่างมาก เพราะการทำสีคือการใช้สารเคมีแทรกซึมเข้าไปในเส้นผม และอาจทำให้ผมของเราแห้งเสียและแตกหักง่าย เพื่อให้สีผมที่ทำมาติดทนนาน สีไม่เฟด และเพื่อช่วยให้เส้นผมของเราแข็งแรง ไม่แห้งเสีย วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการดูแลผมทำสี ที่ทุกคนสามารถทำตามง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง เคล็ดลับเหล่านี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย !!
8 เคล็ดลับดูแลผมทำสี
1. สระผมที่ผ่านการทำสีให้น้อยลง
การสระผมที่ทำสีบ่อย ๆ จะทำให้สีย้อมหลุดออกและสีจางลงได้ค่ะ นอกจากนี้การสระผมบ่อย ๆ จะทำให้ผมขาดน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผมแห้ง หมองคล้ำ และไม่มีชีวิตชีวา เพื่อเป็นการป้องกันก็ให้เราสระผมให้น้อยครั้งลง และห้ามสระผมหลังทำสีอย่างน้อย 72 ชั่วโมง มิฉะนั้นสีจะจางได้ง่ายค่ะ
2. ใช้ดรายแชมพู (Dry Shampoo)
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ควรสระผมบ่อย เพื่อคงสีผมให้อยู่ได้นาน แต่เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องสุขอนามัยได้ ดังนั้นในบางวันก็ให้สลับไปใช้ดรายแชมพูบ้างค่ะ เพื่อจะได้ช่วยดูดซับไขมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่สะสมอยู่บนเส้นผมของเรา วิธีนี้ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและคราบไขมัน โดยไม่ทำให้สีผมของเราหลุดออกเนื่องจากการสระผมบ่อย ๆ ค่ะ
3. หลีกเลี่ยงการใช้อุณหภูมิสูง
พยายามเลือกอาบน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น เพราะการอาบน้ำร้อนอาจทำให้ผมเสียและสีซีดจางได้ รวมไปการใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงด้วยความร้อน เช่น ที่หนีบผม เครื่องม้วนผม และเครื่องเป่าผม ก็พยายามอย่าใช้ความร้อนสูงค่ะ เพราะเกราะป้องกันผมด้านนอกจะเสียไปเมื่อสัมผัสกับความร้อนและทำให้สีย้อมหลุดออกได้ง่าย รวมถึงให้พยายามใช้เซรั่มหรือสเปรย์ป้องกันผมร้อนทุกครั้งที่ต้องจัดแต่งทรง
4. ใช้แชมพูปกป้องสีผม
แชมพูแต่ละประเภทมีส่วนสำคัญในการช่วยรักษาสีผมของเราไม่ให้เฟดได้ค่ะ พยายามเลือกใช้แชมพูสูตรพิเศษสำหรับผมทำสี ก็จะช่วยปกป้องเส้นผมของเรา รวมทั้งช่วยปรับสมดุลค่า pH ตามธรรมชาติได้ด้วย แชมพูสำหรับผมทำสีจะปลอดภัยต่อสีผม และจะช่วยรักษาสีผมของเราทำให้ไม่ซีดจางเร็ว รวมถึงยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยบำรุง ฟื้นฟูและช่วยซ่อมแซมเส้นผม พยายามหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมที่รุนแรง เช่น ซัลเฟตและแอลกอฮอล์ เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะดึงสีและความชื้นออกจากเส้นผมของเราได้
5. ใช้ทรีตเมนต์ปรับสภาพ
เพื่อความเงางามเป็นพิเศษ ให้ปรนนิบัติผมที่ทำสีสัปดาห์ละครั้งเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึก เพราะผลข้างเคียงที่มาพร้อมกับการทำสีผม ก็คือโปรตีนในเส้นผมของเราจะถูกทำลาย เมื่อปล่อยไปสักพักผมจะเริ่มเสียและหลุดร่วงได้ วิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ ก็คือการบำรุงเส้นผมด้วยโปรตีน ซึ่งเราสามารถหาได้จากการใช้ทรีทเมนต์หรือการมาสก์ผมค่ะ
6. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบบไม่ต้องล้างออก
ทรีตเมนต์หรืออาหารผมแบบไม่ต้องล้างออก มักจะประกอบด้วยซิลิโคนที่สามารถสร้างชั้นเคลือบเพื่อป้องกันเส้นผม ข้อดีคือสามารถช่วยลดความเสียหายจากแสงแดดและความร้อน ช่วยลดความผมชี้ฟูหลังการฟอกสีและทำสี นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปกป้องเส้นผมของเราจากความเสียหายที่เกิดจากเมื่อเราใช้เครื่องมือจัดแต่งทรงด้วยความร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบบไม่ต้องล้างออกยังช่วยให้ผมของเรามีสีกระจ่างขึ้น และสามารถช่วยปกป้องเส้นผมจากสิ่งสกปรกและสารตกค้าง รวมถึงมลพิษต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
7. หลีกเลี่ยงคลอรีน
คลอรีนในสระว่ายน้ำสามารถทำให้สีผมของเราหลุดและทำให้ผมอ่อนแอได้ คนที่ทำสีผมควรต้องระวังก่อนที่จะลงเล่นน้ำค่ะ สำหรับการป้องกันเบื้องต้นก็ให้พยายามสวมหมวกว่ายน้ำที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำสัมผัสกับเส้นผม และนอกจากนี้ก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์แบบไม่ต้องล้างออกหรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้เคลือบเส้นผมก่อนลงสระ เพื่อที่จะได้ช่วยกั้นระหว่างน้ำคลอรีนกับเส้นผมของเราให้สัมผัสกันได้น้อยที่สุด และนอกจากคลอรีนที่เราต้องระวังแล้ว น้ำทะเลก็ต้องระวังเช่นกันค่ะ
8. พยายามตัดแต่งทรงผมบ้าง
พยายามเล็มปลายผมทุก 6-8 สัปดาห์ เนื่องจากผมของเรามีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายหลังการทำสีได้ การเล็มปลายผมมีความสำคัญต่อการช่วยรักษาสุขภาพของเส้นผม และช่วยป้องกันการแตกปลาย ชี้ฟู รวมถึงการแตกหักของเส้นผม ดังนั้นอีกวิธีที่ดีที่ช่วยให้ผมทำสีของเราดูมีสุขภาพดี ก็คือการตัดหรือเล็มปลายผมเป็นประจำ ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องตัดให้สั้น เพียงแค่เล็มออกไปบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ปลายผมชี้ฟูค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 แชมพูสำหรับผมทำสี ช่วยล็อกสีผมให้คงที่ ผมสวยไม่กลัวพัง
- รวม 6 สูตรหมักผมจากของใกล้ตัว แก้ผมเสียที่เกิดจากการดัด ยืด ทำสี