7 สกินแคร์เกาหลีและญี่ปุ่น ตัวดังยอดฮิตปี 2025 ช่วยผิวกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์!

     สกินแคร์จากเกาหลี (K-Beauty) และญี่ปุ่น (J-Beauty) ในปี 2025 ก็ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยค่ะ ด้วยเทรนด์การดูแลผิวที่เน้นความกระจ่างใส สุขภาพดี และอ่อนเยาว์ ทำให้ผลิตภัณฑ์จากสองประเทศนี้ครองใจผู้ใช้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ใจเรื่องการบำรุงผิวและต้องการเลือกสกินแคร์ที่มีคุณภาพสูง ในวันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 สกินแคร์ยอดนิยมที่จัดว่าเป็นตัวดังตัวฮิตในไทย พร้อมข้อมูลรีวิวและราคาโดยประมาณ

     ทั้งสกินแคร์จากเกาหลีและญี่ปุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน K-Beauty ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมส่วนผสมใหม่ ๆ และเท็กซ์เจอร์ที่บางเบา ซึมเร็ว ส่วน J-Beauty เน้นความเรียบง่าย ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน หากสาว ๆ กำลังมองหาสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ลองมาดูว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 ตัวนี้มีอะไรที่ตอบโจทย์ได้บ้าง

7 สกินแคร์เกาหลี สกินแคร์ญี่ปุ่น ปี 2025

1. Amorepacific Vintage Single Extract Essence

     เอสเซนส์จากชาเขียวหมักเข้มข้นที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและกระจ่างใส อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

จุดเด่น:

• มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจากชาเขียวหมัก

• ช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดเลือนริ้วรอย

• ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

• ราคาโดยประมาณ: 5,500 บาท

2. Sulwhasoo First Care Activating Serum 

     เซรั่มตัวดังจากเกาหลีที่ช่วยปรับสมดุลผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของสมุนไพรเกาหลีที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี

จุดเด่น:

• มีส่วนผสมของสมุนไพรเกาหลีที่ช่วยฟื้นฟูผิว

• ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งและแข็งแรงขึ้น

• เหมาะสำหรับใช้เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว

• ราคาโดยประมาณ: 3,200 บาท

3. SK-II Facial Treatment Essence

     เอสเซนส์จากญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของ Pitera™ เอกสิทธิ์เฉพาะของ SK-II ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

จุดเด่น:

• อุดมไปด้วย Pitera™ ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว

• ลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอย

• เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่ต้องการความกระจ่างใส

• ราคาโดยประมาณ: 7,000 บาท

4. Hada Labo Gokujyun Premium Lotion 

     โลชั่นไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้นจากญี่ปุ่นที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและขาดน้ำ

จุดเด่น:

• มีไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้นถึง 5 ชนิด

• ให้ความชุ่มชื้นล้ำลึกโดยไม่ทำให้ผิวมัน

• เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง

• ราคาโดยประมาณ: 520 บาท

5. DHC Deep Cleansing Oil

     คลีนซิ่งออยล์ยอดฮิตจากญี่ปุ่นที่ช่วยลบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม

จุดเด่น:

• ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึก

• มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกที่ช่วยบำรุงผิว

• ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังใช้

• ราคาโดยประมาณ: 880 บาท

6. ROHTO Melano CC Intensive Anti-Spot Essence

     เอสเซนส์วิตามินซีเข้มข้นที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิว พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จุดเด่น:

• มีวิตามินซีเข้มข้นที่ช่วยลดจุดด่างดำ

• ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

• เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยสิวและผิวหมองคล้ำ

• ราคาโดยประมาณ: 480 บาท

7. Beauty of Joseon Glow Serum

     เซรั่มจากเกาหลีที่มีส่วนผสมของโสมและเมือกหอยทาก ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและเพิ่มความกระจ่างใส พร้อมลดเลือนริ้วรอยและให้ความชุ่มชื้น

จุดเด่น:

• มีส่วนผสมของโสมที่ช่วยฟื้นฟูผิว

• ให้ความชุ่มชื้นและช่วยลดเลือนริ้วรอย

• เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่ต้องการความกระจ่างใส

• ราคาโดยประมาณ: 950 บาท

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 7 ครีมทาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2025 ใช้ตัวไหนดี ดูแลผิวหน้า ผิวสุขภาพดีขึ้น !
• รวม 5 สกินแคร์ฟื้นฟู Skin Barrier เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวสวยแข็งแรง