7 เทคนิค กินเค้กยังไงไม่ให้อ้วน ฉบับสายหวาน ลดน้ำหนัก ได้ ไม่ต้องอด!
กินเค้กยังไงไม่ให้อ้วน เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากกินของโปรดได้แบบไม่รู้สึกผิด กับ 7 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ทานเค้กและ กินของหวานได้ ควบคู่กับการลดน้ำหนักอย่างสบายใจ โดยที่หุ่นยังเป๊ะปังอยู่
การ ลดน้ำหนัก ไม่ได้หมายความว่าเราต้องตัดขาดจากความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทานเค้กหรือของหวานตลอดไป! ความจริงแล้ว การอดอาหารที่ชอบมากเกินไป อาจทำให้ตบะแตกได้ง่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำค่ะ เพราะกุญแจสำคัญคือการรู้ เทคนิคควบคุมแคลอรี และปรับพฤติกรรมการทานให้ฉลาดขึ้น
7 เทคนิค กินเค้กยังไงไม่ให้อ้วน
1. ใช้หลักการ "IF" เพื่อจัดเวลาทานเค้ก
ทานหลังมื้อหลักทันที : การทานเค้กเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร จะดีกว่าการทานเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ เพราะจะช่วยลดการกระตุ้นระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับการทานตอนท้องว่าง
ทำ IF : หากใครกำลังทำ IF (Intermittent Fasting) หรือแม้แต่ไม่ได้ทำ การกำหนดเวลาทานเค้กก็สำคัญมาก เลือกทานในช่วงเวลาที่ร่างกายจะนำพลังงานไปใช้ต่อ เช่น มื้อกลางวัน หรือช่วงบ่ายที่ต้องใช้สมองทำงาน
2. เลือก "ปริมาณ" และ "คุณภาพ"
ก้าวแรกสู่การ กินเค้กยังไงไม่ให้อ้วน คือการลดปริมาณไขมันและน้ำตาลที่มองไม่เห็น
ชิ้นเล็กแต่รสชาติเข้มข้น : แทนที่จะเลือกเค้กขนาดใหญ่ที่มีครีมเยอะ ให้เลือกเค้กชิ้นเล็ก ๆ ที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น เค้กช็อกโกแลตเข้มข้น บราวนี่เนื้อแน่น เพื่อให้คุณอิ่มเอมใจได้โดยไม่ต้องทานเยอะ
เลี่ยงวิปครีม : หากเป็นไปได้ ให้เลือกเค้กที่มีครีมโปะด้านบนน้อย หรือเลือกทานเนื้อเค้กเป็นหลัก เพราะครีมและฟรอสติ้งมักเต็มไปด้วยน้ำตาลและไขมันทรานส์สูง
3. จับคู่กับเครื่องดื่มที่ "ช่วยชะลอการดูดซึม"
การจับคู่ที่ถูกต้องช่วยให้ร่างกายคุณจัดการกับน้ำตาลได้ดีขึ้น
กาแฟดำ/ชาไม่ใส่น้ำตาล : คาเฟอีนในกาแฟดำช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเล็กน้อย และน้ำจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม ทำให้ทานเค้กช้าลงและลดปริมาณลงได้
น้ำเปล่าก่อน/หลัง : ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วก่อนเริ่มทานและหลังทานเค้กเสร็จ เพื่อลดความอยากน้ำตาลซ้ำๆ
4. เพิ่มโปรตีนและไฟเบอร์ในมื้ออาหารก่อนหน้า
ทานผักและโปรตีนก่อน : ในมื้ออาหารที่วางแผนจะทานเค้กตามมา ให้เน้นการทานผัก ไฟเบอร์สูง และโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ให้เพียงพอก่อน เพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมรับน้ำตาลที่กำลังจะเข้ามา
โปรตีนและไฟเบอร์ ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงและดึงไขมันมาสะสมได้ช้าลง
5. ขยับร่างกาย "หลัง" ทานเค้ก
เดินย่อยเบาๆ : ใช้ "แคลอรีจากเค้ก" ให้เป็นประโยชน์ หลังทานเสร็จ ให้หาเวลาเดินหรือขยับร่างกายเบาๆ ประมาณ 15-20 นาที การเดินจะช่วยให้กล้ามเนื้อดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงาน แทนที่จะปล่อยให้น้ำตาลเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ
เช่น ทำความสะอาดบ้าน เดินขึ้นบันได หรือยืนทำงาน
6. เน้นรสชาติที่ "เปรี้ยว" มากกว่า "หวาน"
เลือกผลไม้จริง : หากเลือกได้ ให้เลือกเค้กที่มีส่วนผสมของผลไม้แท้ๆ เช่น ชีสเค้กมะนาว ทาร์ตเบอร์รี เค้กแครอท เพราะผลไม้เหล่านั้นมีวิตามินและไฟเบอร์ติดมาด้วย
เลี่ยง : เค้กที่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อมกลูโคส หรือน้ำตาลไอซิ่งหนาๆ
7. กฎ 80/20 และความสม่ำเสมอ
กฎ 80/20 : ทานอาหารสุขภาพดี 80% และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทานของที่ชอบ อย่าง เค้ก 20% ของเวลาทั้งหมด เช่น ทานสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
ไม่มีความรู้สึกผิด : การลดน้ำหนักที่ดีคือการสร้างนิสัยที่ยั่งยืน เมื่อทานเค้กแล้ว อย่ารู้สึกผิด! ให้รับรู้ว่าเราได้ให้ความสุขกับตัวเองแล้ว และกลับไปทานอาหารที่มีประโยชน์ในมื้อถัดไปอย่างเคร่งครัด ความสม่ำเสมอในภาพรวมสำคัญกว่าการอดอาหาร 1 วัน
บทความที่คุณอาจสนใจ
