บอกหมด! วิธีรักษาสิวแต่ละชนิดให้ได้ผล รักษาตรงจุด หน้าสวย เรียบเนียน ไร้สิว
สาวๆที่เป็นสิวบ่อยๆ แต่ใช้ครีมอะไรแล้วก็ไม่เคยหายเลย วันนี้เรามีวิธีรักษาสิวแต่ละชนิดให้ได้ผลมาฝากกันค่ะ เพราะวิธีที่จะจัดการกับปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือการรักษาอย่างตรงจุดนั่นเองค่ะ เพราะสิวแต่ละประเภทเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันด้วยนะคะ
สิวหัวดำ
สิวหัวดำเกิดจากไขมัน แบคทีเรีย รวมถึงเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งถูกสะสมอยู่ในรูขุมขน เรียกง่ายๆก็คือเป็นสิวอุดตัวหัวเปิดนั่นเองค่ะ โดยจะขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆสีดำบนใบหน้า หรือส่วนอื่นๆของร่างกายได้
วิธีรักษาสิวหัวดำ
- พยายามอย่าแกะสิว
- ใช้ครีมรักษาสิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) อย่างเช่น ดิฟเฟอรีน (Differin)
- เพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรใช้เรตินอลสลับกับครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
- ถ้าเป็นหนักควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาอย่างตรงจุด เพราะสิวแต่ละคนมีความแตกต่างกันค่ะ
สิวหัวขาว
ถ้าสิวหัวดำคือสิวหัวเปิด สิวหัวขาวก็คือสิวหัวปิดนั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆสีขาว และเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอุดตันภายในรูขุมขนคล้ายกับสิวหัวดำ แต่สิ่งที่ต่างกันคือรูขุมขนที่อุดตันนั้นไม่ได้สัมผัสกับอากาศ ทำให้ไม่เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน จึงเห็นเป็นตุ่มสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนังนั่นเองค่ะ
วิธีรักษาสิวหัวขาว
- ควรใช้ครีมที่รักษาสิวประเภทนี้โดยเฉพาะ
- ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide), กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) หรือผลิตภัณฑ์จากซัลเฟอร์ (Sulfur) ซึ่งจะช่วยทำให้สิวแห้ง ส่วนเรตินอล (Retinol) ก็สามารถใช้กับสิวประเภทนี้ได้เช่นกันค่ะ
- หากต้องการรักษาแบบธรรมชาติหรือเลี่ยงการใช้สารเคมีแรงๆสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ให้ใช้ผลิคภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ซึ่งก็คือ น้ำมันที่ถูกสกัดจากส่วนใบของต้นทีทรีนั่นเองค่ะ มีฤทธิ์ในการช่วยฆ่าแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
สิวชนิดตุ่มนูนแดง
สิวชนิดนี้ถือเป็นสิวอักเสบระยะแรกๆ ที่เปลี่ยนมาจากสิวอุดตันนั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีขนาดเล็ก ไม่เกิน 0.5 ซม. และไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บค่ะ สิวชนิดตุ่มนูนแดงนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียมากกว่าจะเป็นฮอร์โมนนะคะ หรือถ้าผิวไม่ได้เกิดการผลัดเซลล์ผิวมานานก็อาจจะทำให้เกิดได้เช่นกันค่ะ แต่ต้องระวังไว้ด้วยนะคะ สิวชนิดนี้อาจทำให้เกิดรอยได้
วิธีรักษาสิวชนิดตุ่มนูนแดง
- ห้ามใช้มือจับสิวชนิดนี้เป็นอันขาด และอย่าบีบด้วยค่ะ เพราะเมื่อบีบจนแตกจะยิ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียยิ่งลามมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดรอยได้ค่ะ
- ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) จะช่วยลดอาการแดงและบวมได้ชั่วคราว
- สิวชนิดนี้ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังจะทำให้มีโอกาสในการหายได้มากกว่าค่ะ
สิวฮอร์โมน
สิวฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีประจำเดือน การตั้งครรภ์ ช่วงวัยรุ่น ช่วงวัยทอง หรือเกี่ยวข้องกับสุขภาพได้เช่นกัน เพราะเมื่อฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง ต่อมไขมันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ผลิตซีบัมออกมามากขึ้นและเกิดการอุดตันได้ เมื่อมีแบคทีเรียเข้าไปในรูขุมขนอีก จึงทำให้เกิดเป็นสิวได้นั่นเองค่ะ
วิธีรักษาสิวฮอร์โมน
- ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากข้าวโอ๊ต หรือว่านหางจระเข้
- เรตินอล (Retinol) ก็สามารถช่วยได้ค่ะ แถมยังทำให้รอยดำดูจางลงด้วย
- ใช้การรักษาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด หรือ สไปโรโนแลคโตน (Spironolactone) ค่ะ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาด้วยนะคะ เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องและตรงจุดมากกว่า เพราะฮอร์โมนของแต่ละคนมีความแตกต่างกันค่ะ
สิวหัวช้าง หรือ สิวซีสต์
สิวชนิดนี้ถือเป็นสิวอักเสบที่รุนแรงมากค่ะ ยากต่อการรักษาและมักจะทิ้งรอยหรือหลุมสิวไว้บนผิวหนังได้ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ ในสิวหัวช้าง 1 เม็ด จะมีสิวอื่นอยู่มากถึง 2-3 เม็ดเลยทีเดียว เมื่อลองกดลงไปจะแข็งเป็นไตและเจ็บได้ โดยจะพบบริเวณทีโซนค่ะ สิวชนิดนี้เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน กรรมพันธุ์ หรือการใช้ชีวิตต่างๆที่ไม่ถูกสุขลักษณะนั่นเอง
วิธีรักษาสิวหัวช้าง หรือ สิวซีสต์
- ห้ามบีบสิวชนิดนี้เป็นอันขาด เพราะจะยิ่งทำให้อักเสบ เกิดเป็นรอยแผลหรือหลุมสิวได้
- ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) หรือที่รู้จักกันในชื่อแอคคูเทน (Accutane) ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงก่อนใช้นะคะ
- การใช้ก้อนน้ำแข็ง แผ่นแปะสิว หรือเซรั่มบางตัว สามารถช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ
- สิวชนิดนี้ควรไปพบแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุดค่ะ เพราะยากต่อการรักษา
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 12 ไอเท็มถูกและดี ในเซเว่น ใช้แล้วหน้าใส ช่วยลดสิว รักษาสิว!
- 5 วิตามิน กินลดสิว ลดรอย บำรุงผิวหน้าให้ใส สลายสิวให้เกลี้ยง!
- 6 ไอเท็ม ลดรอยสิว รอยดำ เปลี่ยนหน้าสิว ให้ขาวเกลี้ยง แถมใสขึ้น!