รีเซต

5 วิธีช่วยระงับกลิ่นตัว ดับกลิ่นเหงื่อให้หาย ตัวสะอาด หมดปัญหากวนใจ

5 วิธีช่วยระงับกลิ่นตัว ดับกลิ่นเหงื่อให้หาย ตัวสะอาด หมดปัญหากวนใจ
Beau_Monde
7 กันยายน 2564 ( 14:02 )
725

     กลิ่นตัว ถือเป็นเรื่องที่สร้างผลกระทบต่อตัวเองและคนรอบข้างได้ค่ะ หลัก ๆ เลยก็คือกระทบถึงความมั่นใจในการเข้าสังคมหรือว่าการอยู่ร่วมกับคนอื่น ปัญหากลิ่นตัวจึงเป็นปัญหาสำคัญของหลาย ๆ คนและควรที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างจริงจัง

     กลิ่นตัวสามารถแยกออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือกลิ่นตัวซึ่งเกิดจากต่อมกลิ่นและกลิ่นตัวที่มาจากกลิ่นเหงื่อ โดยกลิ่นตัวที่มาจากต่อมกลิ่น คือการที่ร่างกายสร้างฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เราเรียกว่าฟีโรโมนออกมาค่ะ ซึ่งก็จะมีกลิ่นเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคนนั้นมีแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้นก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นที่เพิ่มมากขึ้นได้ เพราะว่าแบคทีเรียจะไปทำให้สารฟีโรโมนเปลี่ยนเป็นกรดไขมันซึ่งมีกลิ่นรุนแรงค่ะ โดยกลิ่นก็จะมีจำนวนมากที่บริเวณรักแร้และบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งจะไม่เหมือนกับต่อมเหงื่อที่มีทั่วร่างกาย โดยกลิ่นเหงื่อจะเกิดจากการที่ต่อมเหงื่อทํางานเยอะบวกกับการมีแบคทีเรียที่ไปย่อยสลายผิวหนังกำพร้าทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อได้ค่ะ อย่างเช่น การที่เราเท้าเหม็น เพราะเท้ามีเหงื่อเยอะ มีความอับชื้นและแบคทีเรียก็ไปย่อยสลายผิวหนังบริเวณนั้นและทำให้เกิดกลิ่นได้ ซึ่งการที่จะระงับกลิ่นตัวและกลิ่นเหงื่อได้นั้น ก็สามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

 

 

5 วิธีช่วยระงับกลิ่นตัว ดับกลิ่นเหงื่อ

 

1. ใช้โรลออน

     โรลออนที่ขายอยู่ตามท้องตลาดของเราจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ  คือโรลออนที่มีสารระงับกลิ่นและโรลออนที่มีสารระงับเหงื่อ โดยโรลออนระงับเหงื่อจะใช้สารในกลุ่มอลูมิเนียมคลอไรด์ ทำหน้าที่ไปอุดที่ต่อมของเหงื่อ ทำให้เหงื่อไม่ออกค่ะ ซึ่งเมื่อเหงื่อออกน้อยก็ทำให้ความชื้นแฉะน้อย แบคทีเรียก็จะทำงานได้น้อยและทำให้กลิ่นลดลงได้ ส่วนโรลออนอีกประเภทคือโรลออนที่มีสารระงับกลิ่น กลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการลดเหงื่อ แต่จะเป็นลักษณะเหมือนน้ำหอมค่ะ ซึ่งจะให้กลิ่นหอมและยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังให้ลดจำนวนลง สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้และมีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นมาด้วย

 

2. สบู่ฆ่าเชื้อ

     แบคทีเรียที่มาพร้อมกับเหงื่อนั้น จะเข้าไปย่อยสลายผิวหนังกำพร้าและทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวขึ้นมาได้ หน้าที่ของสบู่ฆ่าเชื้อ จะสามารถเข้าไปกำจัดแบคทีเรียบางส่วน ทำให้แบคทีเรียมีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งเมื่อแบคทีเรียลดน้อยลงก็จะทำให้กลิ่นตัวลดลงไปด้วยค่ะ

 

3. ลดการอาหารที่มีกลิ่น

     อาหารจะมีผลโดยตรงกับต่อมเหงื่อของเราค่ะ หากเราทานอาหารที่มีกลิ่นค่อนข้างแรงก็จะทำให้เหงื่อของเรามีกลิ่นฉุนได้ โดยอาหารที่มีกลิ่นแรงเช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศจำนวนมาก รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาเพนนิซิลิน ก็สามารถที่จะทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อได้เช่นกัน นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือว่าภาวะเบาหวาน ภาวะพวกนี้สามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งหากจะลดกลิ่นตัวที่เกิดจากภาวะเหล่านี้ต้องรักษาสุขอนามัยที่ดี อาบน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง และอาจจะใช้สบู่ที่เป็นสบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็ได้ค่ะ

 

4. ฉีดโบท็อก

     ในปัจจุบันเราสามารถฉีดโบท็อกที่บริเวณรักแร้ซึ่งทำให้เหงื่อลดน้อยลงได้ค่ะ แต่ว่าการฉีดโบท็อกนี้จะอยู่เพียงแค่ประมาณ 6 เดือนจากนั้นก็จะกลับมาเป็นปกติ โดยการฉีดโบท็อกจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นนะคะ เพราะว่าต้องฉีดในปริมาณที่เหมาะสม ถ้าฉีดมากเกินไปก็อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ 

 

5. ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

     หากพยายามาหมดทุดทางแล้วแต่กลิ่นตัวยังไม่ดีขึ้น ควรจะต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าที่บริเวณผิวหนังมีแบคทีเรียจำนวนมากหรือไม่ ซึ่งส่วนมากแพทย์ก็จะแนะนำให้ใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทาที่บริเวณผิวหนัง แต่หากใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทาแล้วไม่ดีขึ้นก็อาจจะมีการใช้ยากินซึ่งก็เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่นกัน โดยทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยาหรือว่าอาจจะเกิดผลข้างเคียงของการใช้ยาได้ และนอกจากจะใช้ยาทาและยากินเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้ว เรายังสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการผ่าตัดต่อมกลิ่นออกไปหรือผ่าตัดเส้นประสาทที่มาควบคุมต่อมกลิ่นนั้นออกก็ได้ค่ะ

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง