ไอเดียเจ๋ง! งานแต่ง DIY สไตล์ Carnival เนรมิตงานแต่งด้วยตัวเอง ใครๆ ก็ทำได้! Part 2
ก่อนหน้านี้ Women Society ได้นำไอเดียการจัดงานแต่งสุดเจ๋ง ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจัดการ DIY ด้วยตนเอง ทั้งการออกแบบโลโก้ภายในงาน การ์ดเชิญ แบ็กดรอบเวที รวมถึงหนังสั้นพรีเซนท์เทชั่นสุดน่ารัก มาฝากกันไปแล้ว (ใครยังไม่ได้ดู ไปดูกันที่นี่เลย! –> ไอเดียเจ๋ง! งานแต่ง DIY สไตล์ Carnival เนรมิตงานแต่งด้วยตัวเอง ใครๆ ก็ทำได้! Part 1) แน่นอนว่าเรื่องราวการจัดงานของบ่าวสาวคู่นี้ยังไม่จบเพียงแค่นั้นค่ะ เพราะคุณ chinjung_rabbit ยังได้เล่าประสบการณ์ในส่วนของการจ้างไว้เพียบอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาไอเดีย รวมถึงเทคนิคในการจัดงานแต่งแบบประหยัดงบ บอกเลยว่า ห้ามพลาด! ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปอ่านกันต่อเลยค่า
รีวิวงานแต่ง DIY สไตล์ Carnival ของเจ้าสาวแสนถึก “ยัยจ้ำม่ำ” และ เจ้าบ่าวสุดเกรียน “นายหนวด”
เริ่มแรกนะคะหลังจากได้สถานที่และออแกไนซ์งานเช้าแล้ว เรามาดูเรื่องอาหารค่ะ เนื่องจากสถานที่ของสยามสมาคม จุแขกได้ไม่เยอะมาก เราจึงไม่อยากให้แขกแออัด เลยจัดอาหารแบบ Cocktail เพราะประหยัดพื้นที่กว่า และเข้ากับบรรยากาศในสวนดี สำหรับ Catering งานเย็นเราติดต่อไปหลายเจ้ามากค่ะ โดยเริ่มจาก Contact ที่สยามสมาคมให้ไว้ สุดท้ายเรามาจบที่ร้านจิตต์ประภัสสรค่ะ เนื่องจากก่อนหน้าที่เราจะจองเราแอบแวะไปลองทานอาหาร เราว่ารสชาติโอเค ที่สำคัญเรื่องราคาเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ แล้วที่นี่จะถูกกว่าและได้อาหารที่หลากหลายมากกว่า (ราคาที่เราจองตอนนั้น เราไม่เอาของตกแต่งเลย เอาเฉพาะอาหารรวมเครื่องดื่มราคา 290 บาท/ท่าน)
เริ่มแรกเราโทรติดต่องานกับพี่ไหม ติดต่องานกับที่นี่ต้องทำใจร่มๆนิดนึงนะคะ ที่นี่งานเค้าเยอะค่ะ บางทีไม่สะดวกคุย หรือถ้านัดกันข้างนอกอาจจะลำบาก เราอาจจะต้องไปหาเองที่ร้านเพื่อคุยงานค่ะ แรกๆเราหงุดหงิดใจพอสมควรนะคะ เพราะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเลยที่ต้องขับรถไปหาเค้าเพราะอยู่คนละฝั่งกับบ้านเราเลย แถมคุยงานทางไลน์บางทีก็ไม่ค่อยตอบต้องคอยทวงถาม แต่สุดท้าย 2 เดือนก่อนงาน เราได้มีโอกาสมาคุยสรุปงานกันที่สยามสมาคม เรารู้สึกดีกับเค้ามากขึ้นค่ะ เรารู้สึกว่าเค้าให้คำแนะนำเราได้ดีเรื่องการจัดงาน และเรื่องอาหาร
วันงานจริงเราก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ร้านจิตต์ประภัสสรมาเตรียมงานให้ตั้งแต่ช่วงบ่าย เค้าจัดโต๊ะให้เราออกมาได้ดีมากค่ะ ทำให้งานดูไม่อึดอัด มีพื้นที่ให้แขกนั่งพอสมควร และมีพื้นที่ว่างให้มาสนุกกันเต็มที่ ของที่เราขอให้เค้าจัดเตรียมให้ เค้าเอามาให้เราครบทุกอย่างเลยค่ะทั้งดอกไม้ พวงมาลัย ขาตั้งกรอบรูป แถมโต๊ะของชำร่วยที่เราขอให้ช่วยปูผ้าให้ก็ได้ตามที่บอกค่ะ สำหรับเรื่องอาหารยอมรับอีกรอบค่ะว่าไม่มีโอกาสได้กินเลย แต่เราก็ไม่ได้ยินคำบ่นจากแขกนะคะ ส่วนใหญ่จะบอกว่าโอเคค่ะ
เสร็จจากเรื่องอาหาร เรามาต่อกันเรื่องช่างถ่ายภาพค่ะ เรื่องช่างภาพเรามีตัวเลือกในใจไม่กี่ที่ค่ะ เพราะเรามีสไตล์ภาพที่เราชอบอยู่ในใจแล้ว โดยช่างภาพงานเช้ากับงานเย็นเราจ้างคนละที่กันค่ะ มาเริ่มที่งานเย็นก่อนค่ะ เราใช้บริการของ Fahever Photography เราเลือกที่นี่เพราะเราเป็นเพื่อนกับคุณบีม (ภรรยาคุณฟ้า ช่างถ่ายภาพ) ใน facebook เราเลยได้มีโอกาสติดตามผลงานเค้ามาเรื่อยๆ โดยตลอด เรารู้สึกว่าแค่ได้ติดตามชีวิตเค้าผ่าน facebook ก็รู้สึกว่าเค้าเป็นคนน่ารักกันมากเลย และผลงานที่เห็นคือชอบมากค่ะ เค้าถ่ายทอดเรื่องราวผ่านรูปภาพออกมาได้มีชีวิตชีวามากค่ะ รู้สึกสัมผัสได้กับโมเม้นท์ที่ถ่ายทอดออกมา เห็นแล้วยิ้มมีความสุข รู้สึกเลยว่าต้องที่นี่เท่านั้น พอเราไปเจรจาตกลงกับเจ้าบ่าวได้ เราเลยไปคุยติดต่อกับคุณบีมค่ะ เราจองเกือบข้ามปีเลยค่ะรีบมากกลัวไม่ได้คิว เพราะที่นี่งานเค้าแน่นนะ ถ้าอยากได้คิวต้องรีบตัดสินใจจองเลย ระหว่างช่วงเตรียมงานเราได้มีโอกาสไปแวะทักทาย ขอคำปรึกษานู้นนี่นั่นบ้างเกี่ยวกับเรื่องงานแต่ง คุณบีมก็น่ารักมากค่ะตอบให้ทุกเรื่องเลย (คุณบีมเองก็รับเป็นพิธีกรงานแต่งงานด้วยนะ)
ก่อนวันงานประมาณ 2-3 วัน คุณบีมจะติดต่อมาเพื่อสอบถามรายละเอียดและขอ Script เพื่อจะได้รู้คิว และวันงานคุณบีม คุณฟ้าและทีมงานมาถึงกันไวมากค่ะ มาก่อนเวลาเพื่อมาเก็บภาพช่วงเราแต่งหน้า และเก็บบรรยากาศงานในส่วนต่างๆก่อนงานเริ่ม และคุณบีมจะมาบรีฟงานกับเราและเจ้าบ่าว เรื่องมุมถ่าย เรื่องจังหวะ ก่อนงานเริ่มด้วยค่ะ สบายใจได้เลยไม่ต้องกลัวพลาด ช่วงเวลางานเค้าทำงานกันเต็มที่มากค่ะ พยายามถ่ายเก็บมุมสวยๆให้เราตลอดงาน และสิ่งสำคัญคือเป็นช่างภาพอารมณ์ดีค่ะ ยิ้มแย้มกันตลอดงาน เราสบายใจมากค่ะ ตอนนี้เราได้ภาพมาแล้วค่ะ ขอบอกว่าฟินมากค่ะ ถ้าเพื่อนๆคนไหนมองหาช่างภาพงานคุณภาพอยู่ เราก็จะแนะนำที่นี่แหละค่ะ Fahever Photography
https://www.facebook.com/Faheverphotography/?fref=ts
สำหรับช่างภาพงานเช้า ตอนแรกเราคุยกันกับเจ้าบ่าวค่ะว่าจะให้เพื่อนมาช่วยถ่ายให้ง่ายๆ แต่พอคิดไปคิดมาเราอยากให้เพื่อนได้มาร่วมงานกันมากกว่า เลยพยายามมองหาช่างภาพในราคาเบาๆค่ะ เพราะงบเริ่มบาน 555 เราเลยไปหาจากเว็บไซต์นึง จะมีช่างภาพมาโพสโปรไฟล์ทิ้งไว้มากมายค่ะ เราก็ไล่ๆดู จนมาเจอน้องไม้ twelve o’clock studio ราคาน่าสนใจมากหลักพันต้นๆ แถมได้ช่างภาพ 2 คน คือเราได้พูดคุยกับน้องเค้า น้องเค้าเพิ่งเรียนจบไม่นาน ตอนแรกเราก็ลังเลนะคะเพราะว่าดูแล้วน้องเค้าจะเน้นถ่ายรูปรับปริญญาเยอะกว่า แต่เราคุยกับเจ้าบ่าวแล้วคิดว่าลองดูละกัน ก่อนหน้าวันงานน้องทักไลน์มานัดแนะเวลาอีกรอบ
วันจริงน้องมาถึงไวค่ะ เราแต่งหน้ายังไม่เสร็จเลยเห็นน้องโผล่มาแว้บๆ แล้ว วันงานน้องๆมากัน 3 คนมาช่วยกันถ่าย น้องๆน่ารักกันมากค่ะ ตั้งใจทำงานดี เราเคยไปงานแต่งหลายงาน บางงานรู้สึกช่างภาพจะเข้ามาถ่ายรูปจนรบกวนพิธีการ ทำให้สะดุด หรือบางครั้งยืนบังกันหน้าเวทีเพื่อพยายามจะถ่ายรูปบ่าวสาวจนแขกมองไม่เห็นพิธีการ แต่สำหรับน้องๆ เรารู้สึกว่าทำได้ดีนะคะ น้องพยายามหามุมถ่ายของตัวเองโดยไม่รบกวนงาน จนบางทีเราก็เอ๊ะช่างภาพหายไปไหนไม่เห็นเดินผ่านไปผ่านมา 5555 หันมาอีกทีน้องจะแอบอยู่ตามช่อง ตามมุมเดินไปเดินมาค่ะแต่ไม่เดินตัดหน้า หลังจบงานน้องก็ทยอยส่งรูปตัวอย่างมาให้ดูค่ะ เราโอเคกับรูปนะคะ แต่อาจจะไม่ได้ฟินเท่าจ้างช่างภาพมืออาชีพนะคะ แต่โดยรวมได้ภาพพิธีการครบถ้วน แต่มุมมองภาพและการเรื่องการถ่ายอาจจะมีสะดุดบ้างบางรูป น้องๆ ประสบการณ์ยังน้อยกันอยู่ค่ะ ต้องให้โอกาสน้องๆ ได้ฝึกมือกันเยอะๆ นะคะ
https://www.facebook.com/onelinep.th/?fref=ts
สำหรับ pre-wedding เราใช้บริการของ Iris wedding studio ค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะให้เพื่อนถ่ายให้แนว street fashion แต่ดูค่าใช้จ่ายแล้ว ไหนจะต้องเช่าชุด หาช่างแต่งหน้าเอง ราคาไม่ถูกอย่างที่คิด เลยกลับมาลองหา package pre-wedding ที่ไม่แพงค่ะ ก็มาเจอของที่นี่ package ต่ำสุดคือ 9,900 บาท เจ้าบ่าวไปต่อลองราคาขอแค่ไฟล์ภาพอย่างเดียวอย่างอื่นไม่เอาเพราะกะจะมาอัดรูปเอง ตอนนั้นทางร้านโอเคลดราคาให้อีกหน่อยเราก็เลยตกลง สำหรับที่นี่มีหลายสาขาค่ะเราเลือกใช้บริการสาขาบางแค เพราะใกล้บ้านสุด ร้านจะอยู่ในหมู่บ้านแต่หาไม่ยากมากค่ะ เรื่องชุดของที่นี่สภาพไม่ค่อยใหม่ค่ะ ชุดมีให้เลือกไม่หลากหลายเท่าที่ควร แต่ก็พอมีชุดสวยๆ อยู่ค่ะ
วันจริงที่เรานัดถ่ายรูปเรามาถึงตามเวลา แต่ว่าทีมงานเลทนิดหน่อยค่ะเราต้องนั่งรอในรถอยู่พักนึงเพราะเข้าร้านไม่ได้ 555 เรื่องแต่งหน้าที่นี่ช่างแต่งหน้าดูอัธยาศัยดีนะคะ แต่แต่งหน้าอาจจะยังไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ แล้วเค้าแต่งหน้าเราเร็วมากค่ะ รู้สึกว่าไม่ค่อยละเอียด พอถึงเวลาถ่ายเราเลือกไปถ่ายที่สวนสยามค่ะ เพราะธีมงานเราเป็น carnival เลยอยากได้อารมณ์ถ่ายกับม้าหมุน ถ่ายในสวนสนุก ทีมงานที่ไปกับเราจะมีช่างแต่งหน้าคอยซับหน้าเปลี่ยนทรงผมให้ มีพี่ costume คอยดูแลเรื่องเสื้อผ้า และช่างภาพถ่ายภาพให้เรา
วันนั้นเราบอกตรงๆ ค่ะว่าอึดอัดมากเลย พี่ช่างภาพดูเนือยๆ ถ่ายให้เราไม่เต็มที่เท่าที่ควร ดูอยากรีบกลับบ้านมากค่ะ 555 แถมชอบสั่งให้ทำท่าเดิมๆ ซึ่งบางทีไม่ค่อยเข้ากับรูปเท่าไหร่ รู้สึกเสียดายนิดๆ ที่ขับรถไปตั้งไกล แต่ได้ถ่ายรูปไม่เต็มที่แล้วก็ยังไม่ได้ภาพได้ตามที่คิดเท่าไหร่ เจ้าบ่าวต้องพยายามเดินหามุมเอง พยายามเรียกเค้าให้ถ่ายให้ แต่พี่ช่างแต่งหน้าและ costume น่ารักดีค่ะ คอยเฝ้ากระเป๋าแบกกระเป๋าเดินตามกางร่มให้ มาขอมือถือเราเองเพื่อไปช่วยถ่ายรูปให้ มาแอบเรียกเราเพื่อถ่ายในมือถือให้ด้วย ดูขยันกว่าช่างภาพมากค่ะ ><” ประมาณ 2 อาทิตย์หลังถ่ายภาพเค้าโทรมาเรียกให้เราไปรับไฟล์รูป ตอนได้ไฟล์ภาพมาก็มองหน้ากันเองกับเจ้าบ่าวค่ะ คือรูปส่วนใหญ่เราว่าเฉยๆ ค่ะ ไม่ถึงกับแย่นะคะแต่ยังไม่ถูกใจ
และนี่เป็น 3 รูปที่เจ้าบ่าวเอามาแต่งภาพเพิ่มเพื่อเอาใส่กรอบตั้งในงานค่ะ ^^
จบเรื่องช่างภาพแล้ว เรามาต่อที่เรื่องความสวยความงามกันค่ะ เริ่มจากเรื่องชุดแต่งงาน เราหาข้อมูลเยอะมากค่ะ ร้านไหนเค้าว่าดีเราจดไว้หมดกะว่าจะไล่ตระเวนไปทีละร้าน จริงๆ เราได้ร้านในใจแล้วนะคะกะว่าเช่ากับที่นี่แน่ๆ แต่แผนเราล่มค่ะ เพราะมีวันนึงพี่ที่ทำงานมาชวนเราไปดูชุดแต่งงานร้านนึงแถวแจ้งวัฒนะ พี่เค้าขับรถผ่านทุกวันเค้าว่าชุดสวยดี เลยตัดสินใจลองไปดู เพราะเค้าพูดถึงบ่อยมาก ร้านนั้นคือร้าน You and me โดยร้านนี้มีพี่สิงโตเป็นเจ้าของร้านค่ะ
วันแรกที่เราไปถึงพี่เค้าต้อนรับเราดีมากค่ะ วันนั้นพี่เค้าขนชุดมาให้ลองเยอะมากค่ะ ขอลองชุดไหนได้หมด และช่วยแนะนำเราเต็มที่แบบไม่มีหวงชุดเลย อยากให้เราได้ลองชุดที่พอใจที่สุด สุดท้ายแล้ววันนั้นเราตัดสินใจจองชุดกับที่นี่เลย เพราะเราสอบถามราคา package แล้วรู้สึกว่ารับราคาได้ ตอนนั้นเราซื้อ package ราคา 29,999 บาท ได้ 4 ชุด เช้าและเย็น ช่วงเวลาระหว่างที่เตรียมงานแต่งพี่สิงโตจะมีชุดใหม่ๆมาอัพเดตให้ดู ถ้าเราสนใจก็สามารถเข้าไปขอลอง ขอเปลี่ยนชุดได้ค่ะ ระหว่างช่วงเตรียมงานเราไม่ได้เข้าไปที่ร้านเลย เพราะเรารู้สึกพอใจกับชุดที่จองอยู่แล้ว เราก็ตามดูชุดใหม่ๆจากใน facebook ตลอดนะคะ จนไปเจอชุดสูทเจ้าบ่าวตัดใหม่สีเข้าธีมกับงานเรามากคือสีน้ำเงิน เราเลยชวนเจ้าบ่าวไปลอง สรุปสุดท้ายเราขอพี่สิงโตเปลี่ยน 3 ชุดค่ะ ชุดงานเย็นเจ้าบ่าว และชุดเช้า-เย็นของเราค่ะ
ซึ่งจากที่เราไปดูมาหลายๆร้านนะคะ ราคาก็หลากหลายค่ะ คุณภาพก็หลากหลาย เราว่าร้าน You and me งานเค้ามีคุณภาพมากนะคะ การตัดเย็น แบบเสื้อ เนื้อผ้าคือเป็นของดีจริงๆค่ะ ถ้าไปตามในเมืองคงราคาสูงกว่านี้แน่นอน แล้วเค้าเก็บรายละเอียดชุดได้ดีมากค่ะ วันที่ไป fitting ชุดครั้งสุดท้ายคือแก้ชุดจนพอดีถูกใจเราจริงๆค่ะ สรุปแล้วเราได้ชุดพี่สิงโตงานเย็นมือหนึ่ง และชุดเจ้าบ่าวงานเย็นที่ตัดใหม่ รวมๆแล้วราคาเช่าเดี่ยวสูงกว่าที่เราซื้อ package อีกค่ะ สำหรับใครที่มองหาชุดงานแต่งคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง เราแนะนำร้านนี้นะคะ ไม่ผิดหวังจริงๆ ทั้งคุณภาพและบริการค่ะ
https://www.facebook.com/youandmeluxury/?fref=ts
มาต่อเรื่องชุดกันต่อค่ะ คราวนี้เป็นชุดของเพื่อนเจ้าสาว สำหรับงานเช้าเจ้าสาวอยากให้เพื่อนๆมาเป็นแม่หญิงใส่สไบสวยๆกันค่ะ เราจัดการเช่าชุดให้เพื่อนใส่เองค่ะ สำหรับร้านเช่าชุดเราหาหลายร้านมากค่ะ ราคาเช่ากับแบบไม่ต่างกันมาก แต่เราเลือกตามความพอใจค่ะ 555 เราใช้บริการของร้าน Dresstiny อยู่แถวบางพลัด พอดีพี่สาวเราเค้าใช้บริการที่นี่บ่อย เราเลือกคิดว่าร้านนี้ล่ะคุยง่ายดี ที่นี่มีชุดให้เลือกเยอะนะคะ ทั้งชุดไทย ชุดราตรี เราจัดการเลือกสีเลือกแบบในเฟสบุ๊คก่อน แล้วค่อยนัดเพื่อนไปลองที่ร้าน ซึ่งร้านที่นี่จะแคบหน่อยนะคะ ถ้ามากันหลายคนอาจจะล้นร้านได้ ต้องผลัดๆกันเข้าไปลอง บริการของที่นี่โอเคค่ะ พนักงานน่ารักตลกดีค่ะ ที่นี่มีเครื่องประดับให้พร้อมเลยนะคะ สะดวกสบายมากค่ะไม่ต้องไปหาเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/Dresstiny/?fref=ts
จบจากเรื่องชุดเรามาพูดกันถึงเรื่องแหวนค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ไกลตัวสำหรับเรามาก เพราะถ้าไม่แต่งงานเราคงยังไม่คิดจะซื้อใส่เอง แหวนแต่งงานนี้เราเน้นราคาไม่ต้องแพงมาก เพชรไม่ต้องใหญ่ เน้นใส่ติดนิ้ว และที่สำคัญขอร้านที่เชื่อถือได้ แต่ดูจากประสบการณ์แล้วเราคงต้องไปเสี่ยงดวงเอา เพราะถ้าไปปรึกษาผู้ใหญ่เกรงว่าจะไม่ได้แหวนวงเล็กๆอย่างที่ต้องการ เราเลยลองไล่หาจาก google จนวันนึงเราไปเจอกระทู้ pantip มีคนมาตั้งกระทู้อธิบายเกี่ยวกับการดูเพชร บรรยายไว้ละเอียดมากอ่านไปอ่านมาถึงรู้ว่า เค้ามาจากร้านเพชรวลัยวรรณ ตรงมาบุญครอง ซึ่งเราดูแล้วเรารู้สึกว่าเอาวะ ร้านนี้แหละ ดูน่าเชื่อถือดี ราคาก็ไม่แรง แถมมีแบบที่ถูกใจ ซึ่งวันที่ไปที่ร้านเราได้ไปเจอกับคุณเตย คุณเตยน่ารักมากเป็นกันเอง พยายามช่วยอธิบายการดูเพชรให้กับเรา แถมหาแบบและราคาที่ถูกใจให้ ที่สำคัญไม่พยายามยัดเยียดขายของ เรารู้สึกสบายใจมาก และวันนั้นได้เจอคุณแม่คุณเตยด้วย น่ารักเป็นกันเองจริงๆ แถมช่วยลดราคาให้อีกต่างหาก เราเลยได้แหวนคู่จากร้านนี้มาแบบสบายใจสุดๆ
https://www.facebook.com/onegems/
ต่อมาเรื่องช่างแต่งหน้าค่ะ ช่างแต่งหน้าเป็นอะไรที่หนักใจเรามากจริงๆ เพราะอยากสวยที่สุดในวันนั้น แต่ช่างดังๆสมัยนี้ราคาเหยียบหมื่นทั้งนั้น เราสู้ราคาไม่ไหว ช่างที่ราคากลางๆที่เราแอบเล็งไว้คิวก็ไม่ว่าง ตอนนั้นเคว้งเหมือนกันเพราะเราไม่อยากเสี่ยงเรื่องหน้า แต่เราก็ไม่มีทางเลือกเลยต้องเสี่ยงดวงไปไล่หาตามใน facebook ก็หาไปเรื่อยๆจนไปเจอช่างคนนึงคือ คุณเจน janyjane makeup ค่ะ เราไม่รู้จักคุณเจนมาก่อนเลย แต่เราดูผลงานที่ผ่านมาเราดูแล้วโอเค แล้วเค้าค่อนข้างมีผลงานแต่งหน้าเจ้าสาวมาเยอะ เลยเบาใจลงเพราะเค้าดูมีประสบการณ์พอสมควร เลยลองสอบถามราคาซึ่งได้ถูกกว่าที่คิด ตอนนั้นเราได้คิวละ 6,000 บาทค่ะ เราเลยตกลงจองทั้งเช้า-เย็นเลยค่ะ ระหว่างนั้นเราก็มีปรึกษาคุณเจนเรื่องทรงผม คุณเจนก็จะช่วยดู ให้คำแนะนำ อันไหนไม่เหมาะเค้าก็จะบอกตรงๆ
สำหรับวันงานจริงคุณเจนมาตรงเวลามากค่ะนัดตี 4 ก็มาตรงเป๊ะ วันนั้นเค้าแต่งหน้าเพื่อนเจ้าสาวก่อน ตอนเราไปถึงเพื่อนเราแต่งใกล้เสร็จละค่ะ เรารู้สึกว่าเค้าแต่งหน้าได้สวยมาก เพื่อนเราสวยวิ้งเลยค่ะ พอมาถึงคิวเราคุณเจนแต่งหน้าได้ละเอียดมากค่ะ ลงหน้าให้เราเนียนกริบเลย เรามีปัญหาเรื่องจมูกมันง่ายคุณเจนก็จะเก็บรายละเอียดให้ค่ะ เรื่องตาของเจ้าสาวขอบอกว่าเด้งมากค่ะ คุณเจนติดขนตาให้หลายชั้นมากแล้วก่อนติดคุณเจนจะเลือกแล้วเลือกอีก เราเห็นคุณเจนตัดขนตามาทาบแล้วไม่เหมาะกับเราเค้าก็ทิ้งเลยนะคะ ไม่ได้พยายามเอามาติดให้เราต่อ
เรื่องทรงผมงานเช้าคุณเจนก็ออกแบบให้เราได้เหมาะกับเรามากค่ะ ในส่วนของงานเย็น คุณเจนจะให้เราไปอาบน้ำล้างหน้าสระผมใหม่ให้หมดก่อนค่อยมาเจอเค้าตามเวลานัด งานเย็นเราแต่งหน้าสไตล์หวานๆ ฟรุ้งฟริ้งค่ะ ทรงผมเราหาแบบมาให้ คุณเจนก็ทำออกมาได้ใกล้เคียงมากค่ะ มีเตรียมดอกไม้ดอกเล็กๆ มาแซมผมให้เราด้วย วันนั้นทั้งวันมีแต่คนชมว่าเจ้าสาวสวยมาก แต่งหน้าสวยมากค่ะ รู้สึกปลื้มใจมากจริงๆ ค่ะ เรื่องเครื่องสำอางคุณเจนใช้ของมีดีมีคุณภาพค่ะ จบจากงานแต่งเรา เพื่อนเราก็จ้างคุณเจนไปแต่งหน้าที่งานเค้าเหมือนกัน เราก็ยังตามไปขอแต่งหน้าด้วยเลยค่ะ คือติดใจฝีมือจริงๆ
https://www.facebook.com/janyjanemakeup06/?fref=ts
ภายในงานเรายังมีการจ้างในส่วนของบู๊ทเกมเพิ่มเติม เนื่องจากเราอยากให้แขกมาร่วมงานมีกิจกรรม ได้มีส่วนร่วมกับงานนอกเหนือจากการมาร่วมพิธี ตอนแรกเราลองหากันหลายเจ้ามาก จนมาตกลงปลงใจกับ Popcorn Event ซึ่งที่นี่มีบริการหลากหลายมากค่ะ ทั้งอาหารว่าง ขนมและบู๊ทเกมส์ เราเลือกใช้บริการในส่วนของเกมส์ยิงปืน กับปาลูกโป่ง เราว่ามันเล่นง่ายและสนุกดีค่ะ ในส่วนของกินเราเพิ่มบู๊ทป๊อปคอร์น ให้แขกทานเล่นระหว่างที่เราฉายหนังสั้นค่ะ สำหรับวันงาน แขกสนุกกันมากค่ะ น้องที่มาประจำบู๊ทก็น่ารักกันมากๆ เลยค่ะ
สำหรับของรางวัลที่เราใช้แจกเราต้องหามาเองนะคะ แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะเราได้มีโอกาสเข้าไปเล่นเกมส์ชิงรางวัลของชำร่วย 100 ชิ้นกับเพจ Hilmyna Thailand (ปัจจุบันคือ factory premium) ซึ่งเค้ารับทำของชำร่วยงานแต่งงาน เราได้รางวัลเป็นที่เก็บหูฟังค่ะ ซึ่งเค้าจะออกแบบให้เค้ากับธีมงานของเรา แม้ว่าจะเป็นของรางวัลที่ได้ฟรี และเราไม่ได้ซื้อของเค้าเพิ่มเติม แต่เค้าเต็มใจบริการมากค่ะ แก้แบบให้เราจนเราพอใจที่สุด และวันงานเค้ามาตั้งโต๊ะช่วยแจกของรางวัลให้กับแขกในงานด้วยค่ะ น่ารักกันมากจริงๆ สินค้าเค้าน่ารักน่าใช้หลายอย่างมากค่ะ
https://www.facebook.com/Factorypremium/
โฉมหน้าเจ้าของเพจค่ะ
นอกจากบู๊ทเกมแล้ว ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือเสียงดนตรีภายในงาน ตอนแรกเรากับเจ้าบ่าวกะจะประหยัดงบด้วยการเปิดซีดีเล่นเพลงเอา แต่เราเสียดายบรรยากาศในสวน เรามองว่าถ้ามีวงดนตรีอะคูสติกมาเล่นสดๆน่าจะได้บรรยากาศมากกว่า เราเลยเริ่มหาวงดนตรีราคาไม่แรงมาก จนวันนึงเรากับเจ้าบ่าวได้ไปเดินเลนที่เสนาเฟส วันนั้นที่ห้างมีงาน และมีวงดนตรีมาเล่น เรากับเจ้าบ่าวก็ก็เลยยืนฟังกันซักพัก ปรากฏว่าถูกใจ รู้สึกว่าเพราะ เลยเดินไปติดต่อมือกีตาร์หลังเวที ชื่อคุณดร๊าฟ พอได้คุยกันแล้วตกลงราคากันได้ลงตัวก็เลยตัดสินใจให้คุณดร๊าฟมาเล่นในงาน ซึ่งเราขอว่าเป็นนักร้องผู้หญิง ซึ่งในวงวันนั้นจะมีแซ็กโซโฟนด้วย
วันงานมีแต่คนชมว่าวงดนตรีเล่นเพราะมาก และสนุก ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่าคุณดร๊าฟเป็นมือกีตาร์ให้กับวง Coconut Sunday
อันนี้เป็นเพลงที่กำลังดังในขณะนี้ค่ะ https://www.facebook.com/coconutsunday/posts/1065095110191754
สำหรับรายละเอียดงานในส่วนอืนๆเราอาจจะไม่ได้พูดถึงนะคะ เพราะมันมีรายละเอียดยิบย่อยอีกที่เราคงบรรยายไม่หมด
แต่ทั้งนี้เราและเจ้าบ่าวภูมิใจและดีใจมากค่ะที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการจัดการงานแต่งงานของเราอย่างเต็มที่ ได้ลงมือทำอะไรเองหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำ
สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกๆ คนที่มาร่วมงาน และมามีส่วนร่วมในการจัดการของเราทั้งสองคน ถ้าไม่ได้หลายๆ คนมาช่วยเป็นทั้งกำลังแรงและกำลังใจ งานแต่งงานครั้งนี้คงประสบความสำเร็จไปไม่ได้
สุดท้ายนี้ใครมีอะไรอยากสอบถามเกี่ยวกับการจัดงานแต่งในส่วนต่างๆ หลังไมค์มาถามๆได้นะคะ ยินดีช่วยในทุกๆ เรื่องเท่าที่จะช่วยได้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ขอทิ้งท้ายด้วยรูปบรรยากาศในงานก่อนจบกระทู้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก chinjung_rabbit เจ้าของกระทู้ใน Pantip.com และ Mustache Studio
ติดตาม women.truelife.com ได้ที่
We are women’s best friend.