“ขมิ้นชัน” ของขวัญจากธรรมชาติ รักษาโรคได้สารพัด ใช้ยับยั้งเซลล์มะเร็งในผู้หญิง
“ขมิ้นชัน” ถือเป็นขุมทรัพย์ในดินแห่งเอเชีย ซึ่งมีคุณประโยชน์อเนกอนันต์ นอกจากจะนิยมใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหารอันโอชะแล้ว ยังถือเป็นสมุนไพรโบราณที่คนเอเชียนำมาใช้เป็นยารักษาโรคและแก้อาการเจ็บปวดต่างๆได้อย่างอัศจรรย์
มีงานวิจัยมากมายจากทั่วโลกค้นพบตรงกันว่า “สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน” มีคุณประโยชน์มากมายสารพัด ตั้งแต่บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยต้านการอักเสบ บรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ปกป้องตับจากสารพิษ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงป้องกันอัลไซเมอร์ และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง ซึ่งเป็นมัจจุราชร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตสตรีไทย
คงไม่เป็นการเกินเลยไป หากจะกล่าวว่า “ขมิ้นชัน” คือของขวัญจากธรรมชาติสำหรับผู้หญิง เนื่องจากสมุนไพรโบราณชนิดนี้มีสรรพคุณในการลดขนาดของเนื้องอกในมดลูก ยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่ ยับยั้งเซลล์มะเร็งปากมดลูก และยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านม
ผลจากงานวิจัยคุณสมบัติของ “ขมิ้นชัน” กับ “การลดขนาดของเนื้องอกในมดลูก” ซึ่งศึกษาในกลุ่มคนไข้เนื้องอกในมดลูก ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 35 คน โดยให้รับประทานขมิ้นชัน 1,200 มก.ต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมทำการวัดขนาดเนื้องอกด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ก่อนการทดสอบ และวัดซ้ำที่ระยะเวลา 3 และ 6 เดือน พบว่า การได้รับขมิ้นชันช่วยลดขนาดของเนื้องอกมดลูกได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่พบผลข้างเคียง
ขณะที่งานวิจัยคุณสมบัติของ “ขมิ้นชัน” กับ “การยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่” ซึ่งศึกษาในหลอดทดลอง พบว่า “สารเคอร์คูมิน” ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งรังไข่ได้ เช่นเดียวกับการศึกษาใน “เซลล์เยื่อบุปากมดลูก” โดยให้สารเคอร์คูมินเข้มข้น 100 ไมโครโมล ในช่วงเวลา 15 นาที ถึง 24 ชั่วโมง ก็พบว่า “สารเคอร์คูมิน” ช่วยลดการลุกลามของเซลล์มะเร็งปากมดลูกระยะแพร่กระจาย และลดการกลายพันธุ์เซลล์เยื่อบุปากมดลูกที่ผิดปกติได้
สำหรับ “ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม” มีรายงานการวิจัยพบว่า “สารเคอร์คูมิน” ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกเต้านมในหลอดทดลอง โดยไปยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติ ก่อนเข้าสู่ระยะสังเคราะห์ดีเอ็นเอ และกลายเป็นมะเร็ง จึงสรุปได้ว่า “เคอร์คูมิน” มีฤทธิ์เป็นสารต้านมะเร็งเต้านมได้
การจะใช้ “ขมิ้นชัน” ในการรักษาโรคและแก้อาการเจ็บปวดต่างๆ ต้องระมัดระวังให้ดี เนื่องจากสารสกัดขมิ้นชันทั่วไปมีข้อจำกัดเรื่องการดูดซึม ที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เพราะมีคุณสมบัติไม่คงตัว ไม่ละลายในทางเดินอาหาร และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ยาก
อย่างไรก็ดี ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่รุดหน้าไปไกล และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีการค้นพบนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของ “ขมิ้นชัน” โดยหนึ่งในนั้นคือ การคิดค้นเทคโนโลยีล่าสุด PNS (Polar and Non-Polar Sandwiching) ด้วยการจัดเรียงโมเลกุลใหม่ ให้เคอร์คูมินอยู่ตรงกลาง แล้วถูกประกบด้วยส่วนที่มีขั้วและไม่มีขั้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายแซนด์วิช ส่งผลให้ “สารสกัดขมิ้นชัน” ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS มีความคงตัวไม่สลายตัวได้ง่าย สามารถละลายในทางเดินอาหารได้ดี และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น
มีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการดูดซึม เมื่อรับประทานในปริมาณที่เท่ากัน พบว่า สารสกัดขมิ้นชันที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS ดูดซึมได้ดีกว่าสารสกัดขมิ้นชันทั่วไป 10 เท่า และดูดซึมได้ดีกว่าขมิ้นชันที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไฟโตโซม 2.4 เท่า ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันขมิ้นชันสกัด ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในท้องตลาด การผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS สามารถดูดซึมได้ดีกว่า 3.6 เท่า ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอีกขั้นด้วย “Piperine” สารสกัดพริกไทยดำ ช่วยเพิ่มการดูดซึมและชะลอการเผาผลาญสารสกัดขมิ้นชัน ส่งผลให้การทำงานของสารสกัดขมิ้นชันออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความที่คุณอาจสนใจ
5 สัญญาณมะเร็งปากมดลูก รวมถึงวิธีป้องกันตนเอง
5 สัญญาณเตือน มะเร็งลำไส้ รู้ให้ทัน จะป้องกันได้