Mixed Berry Greek Yogurt Pie อร่อยง่าย ไม่ต้องกลัวอ้วน By เต็งหนึ่ง
สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน ผมเต็งหนึ่งเองนะครับ ไม่ต้องแปลกใจไปครับ ผมไม่ได้มาร้องเพลงหรือว่าแสดงละครนะครับ บอกตรงๆผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันนะเนี่ย มือไม้เย็นไปหมด ที่ได้มาทักทายกันแบบนี้ หลายๆคนคงจะพอผ่านตามาบ้าง ว่าผมหันมาสนใจการทำขนมอย่างจริงจัง จุดเริ่มต้นของผมกับขนมคงเริ่มต้นจากการชอบกินก่อนนี่แหละครับ พอกินแล้วก็อยากรู้ว่าเค้าทำยังไง พอรู้แล้วว่าเค้าทำยังไงก็เริ่มลงมือปฏิบัติมันก็เลยเป็นความผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีเราก็หลงรักการทำขนมเป็นชีวิตจิตใจไปแล้ว ผมก็เลยตัดสินใจไปเป็นนักเรียนเชฟอยู่ที่ เลอ กอร์ดองเบลอ ซะเลย
คราวนี้ผมก็เลยจะอาสาหาพาเพื่อนๆชาว Women Society ไปทำขนมกันครับ หวังว่าบทความของผมจะเป็นประโยชน์ให้กับพ่อครัว แม่ครัวรุ่นใหม่ ไม่มากก็น้อยนะครับ ผิดพลาดประการใด ก็อย่าดุเชฟฝึกหัดคนนี้เลยนะครับ ถือซะว่า เราได้เรียนรู้ไปด้วยกันแล้วกันเนอะ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีข้อแนะนำ หรือว่าอยากให้ผมหาสูตรขนมอะไรก็สามารถแนะนำมาได้เลยนะครับ ผมยินดีรับฟังมากๆเลย ถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
ถ้าเรานึกถึงขนมที่ทำง่ายๆ ไม่ต้องมีเตาอบก็สามารถทำเองได้ อย่าง “ Blueberry cheese pie ” คงถูกใจใครหลายๆคนนะครับ ซึ่งผมเองก็ชอบทานเหมือนกัน เคยลองทำทานเองอยู่หลายครั้ง และผมก็เชื่อว่ามีอีกหลายๆคนที่อยากทานบ่อยๆแต่กลัวอ้วน ผมเลยอยากลองปรับเปลี่ยนสูตร เผื่อว่าจะช่วยได้ เลยลองหาสูตรจนไปเจอหนังสือทำอาหารของ Martha Stewart ซึ่งมีการปรับสูตรนิดหน่อยโดยการใช้ Greek Yogurt เข้ามาแทนชีส รับลองว่าสูตรนี้อร่อยด้วย ไม่อ้วนด้วยนะครับ
สิ่งที่ต้องเตรียม
แคร๊กเกอร์
สตรอเบอร์รี่ หรือ บลูเบอร์รี่ (สามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบ)
เนยชนิดเค็ม
ครีมชีส 225 กรัม
กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย
น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
น้ำผึ้ง
วิธีการทำฐานของพาย
1. อุ่นเตาอบ ไว้ที่อุณหภูมิ 350 F. [ 176 C.]
2. เริ่มต้นทำฐานของพายด้วยการนำแคร๊กเกอร์มาใส่ในถุงพลาสติก และบดให้ละเอียด เอาให้แค่พอสมควรไม่ต้องถึงกับละเอียดมาก (ความชอบส่วนตัว ให้มีความหยาบนิดๆ เนื้อสัมผัสดีกว่าเยอะ อิอิ) หรือถ้าใครไม่อยากเหนื่อยก็ใช้เครื่องปั่นได้เลยครับ
3. จากนั้นนำเนยชนิดเค็มมาผสมให้เข้ากัน ใส่แคร๊กเกอร์ที่บดมีความชุ่มเนยและเกาะตัวกัน (แนะนำให้ละลายเนยในไมโครเวฟก่อน ประมาณ 30 วินาที หรือพอให้เนยละลาย ระวังอย่าให้เนยสุกจนเกินไป)
4. จากนั้นนำแคร๊กเกอร์ผสมเนยชนิดเค็มมากรุลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ กดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานของพาย และนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 15 นาที หลังจากนำออกมาจากตู้เย็นแล้ว ให้นำไปอบประมาณ 10 นาที การอบจะทำให้มีสีที่สวย และทำให้ฐานของพายเกิดความแน่นมากขึ้นอีกด้วย ( แต่ถ้าใครไม่มีเตาอบหรือไม่อยากอบก็สามารถแช่ตู้เย็นให้ฐานเกาะตัวกันก็ไม่ต้องอบได้เช่นกัน )
เรามาทำส่วนของครีสชีสกันต่อเลยดีกว่าครับ
1. นำครีมชีสลงในชามผสม ( สำหรับใครที่กลัวว่าครีมชีสจะทำให้อ้วนอยู่ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นแบบ low fat ได้เลย หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รสชาติแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ราคาสูงกว่าสูตรธรรมดาพอสมควร ) ใช้ไม้พายตีใข่หรือใครมีเครื่องสามารถใช้ได้เลยนะครับ ขยี้ให้ครีมชีสแตกออกจากกัน
2. ค่อยๆใส่กรีกโยเกิร์ตลงไป ตามด้วยน้ำตาล และกลิ่นวานิลลา ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ด้วยความเร็วปานกลางถึงต่ำ ลองชิมดูว่าได้รสชาติที่ชอบหรือยัง สามารถเติมน้ำตาลลงไปเพิ่มได้ เพราะกรีกโยเกิร์ตมีความเปรี๊ยวตามธรรมชาติอยู่แล้ว
3. นำครีสชีสที่ได้ไปเทลงในฐานพายที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 6 ชม. ถึง 1 วัน จนครีมชีสของเราเซ็ทตัวกันเป็นรูปร่าง
หลังจากเรานำครีมชีสพายออกจากตู้เย็นแล้ว ก่อนรับประทานนำผลไม้สดมาวางและราดด้วยน้ำผึ้ง ก็เป็นอันเสร็จครับ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เต็งหนึ่ง
Instagram : @Teng1
Youtube : https://www.youtube.com/user/teng1number1
Facebook : http://www.facebook.com/teng1number1
ติดตาม women.truelife.com ได้อีกช่องทางที่
we are women’s best friend คลิกที่ http://women.truelife.com