รีเซต

6 สารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหนัง อาหารผิว ช่วยบำรุงให้สุขภาพดี มีน้ำมีนวล

6 สารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหนัง อาหารผิว ช่วยบำรุงให้สุขภาพดี มีน้ำมีนวล
BeauMonde
11 ธันวาคม 2565 ( 14:45 )
11.3K

     หนึ่งในความงามของผู้หญิงนั้นก็คือการมีผิวที่ดี ซึ่งผิวที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นผิวที่ขาว แต่ผิวหนังที่ดีควรเป็นผิวหนังที่แข็งแรง ชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล และการที่จะมีผิวที่ดีได้นั้นก็ต้องมาจากการที่ร่างกายได้รับสารอาหารบำรุงผิวอย่างเพียงพอ

     ผิวทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันเชื้อโรคที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม แสงอัลตราไวโอเลต และการบาดเจ็บต่าง ๆ หากร่างกายขาดสารอาหาร อาการแรก ๆ ก็มักจะปรากฏให้เห็นบนผิวของเรา แต่หากเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้ผิวสามารถคงความชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวของเราสดชื่นและมีชีวิตชีวาได้ 

 

เคล็ดลับบำรุงผิวอื่น ๆ

     อาหารมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพผิวเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว จากข้อมูลของ National Institutes of Health หากเราต้องการที่จะมีสุขภาพผิวที่เปล่งปลั่งมากขึ้น เราควรต้องดูแลผิวเพิ่มขึ้น ดังนี้ :

  • อาบน้ำอุ่น ๆ หรืออาบน้ำเย็น และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและอย่าลืมใช้ครีมกันแดดระหว่างวัน
  • รักษาผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  • ลดความเครียด
  • นอนหลับให้สนิทอย่างเพียงพอ

 

 

6 อาหารผิว สารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหนัง

 

1. โปรตีน

 

 

     โปรตีนเป็นธาตุอาหารหลัก ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนมากกว่า 20 ชนิดที่ใช้ในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกายของเรา รวมถึงกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นผม และผิวหนัง โปรตีนเป็นสารอาหารพื้นฐานที่จำเป็นในการส่งเสริมและรักษาความยืดหยุ่นของผิว โดยร่างกายจะเปลี่ยนโปรตีนเป็นกรดอะมิโนและสารอาหารอื่น ๆ เช่น เคราตินและคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิว

     เคราติน (Keratin) เป็นโปรตีนที่พบในชั้นนอกของผิวหนัง สารอาหารชนิดนี้จะช่วยให้เซลล์ผิวหนังแข็งแรง โดยจะคอยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ในขณะที่คอลลาเจน (Collagen)  เป็นสารที่ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและอ่อนนุ่มเมื่อเราอายุมากขึ้น ซึ่งส่งผลไปถึงการมีริ้วรอยน้อยลง ทั้งริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมขอองผิวและริ้วรอยจากความเครียด 

     อาหารที่กระตุ้นการสร้างเคราติน เช่น โปรตีนจากสัตว์ ถั่ว และถั่วเปลือกแข็ง ส่วนอาหารที่มีคอลลาเจนสูง เช่น น้ำซุปกระดูก ไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล ถั่วชิกพี พริกหยวก และวอลนัท

 

 

2. วิตามินซี

 

 

     แม้ว่าโดยทั่วไปวิตามินซีจะเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน แต่วิตามินซีก็มีประโยชน์ต่อผิวของเราในหลาย ๆ ด้านเช่นกัน วิตามินชนิดนี้ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับอายุ สามารถช่วยคงความเปล่งปลั่งไว้ได้เมื่อเราอายุมากขึ้น

     วิตามินซีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อสู้กับความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอและป้องกันริ้วรอย รวมถึงรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากอายุ สาเหตุที่วิตามินซีมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยบำรุงผผิว นั่นก็เพราะวิตามินซีมีบทบาทในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าคอลลาเจนนั้นมีส่วนทำให้ผิวมีโครงสร้างที่เต่งตึง 

     การที่ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนโดยการได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น เนื่องจากเราจะสูญเสียคอลลาเจนตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดาว ผลไม้รสเปรี้ยว และมะเขือเทศ

 

 

3. กรดไขมันโอเมก้า-3

 

 

     กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนชนิดหนึ่งที่พบในอาหาร เช่น ปลาแซลมอน วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์ กรดไขมันดีชนิดนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากคุณสมบัติในการปกป้องหัวใจและสมอง แต่นอกจากนี้ก็ยังมีบทบาทในการบำรุงสุขภาพผิวได้อีกด้วย

     โอเมก้า 3 มีส่วนเชื่อมโยงกับการป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงแดด และมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น เป็นประโยชน์ต่อการซ่อมแซมผิวและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้ และนอกจากปลาเซลมอนจะมีไขมันโอเมก้า 3 สูง ก็ยังมีอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงอื่น ๆ อีกเช่น น้ำมันมะกอก เมล็ดเจีย และอะโวคาโด

 

 

4. วิตามินอี

 

 

     วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันและจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง วิตามินอีสามารถช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย เช่นเดียวกับวิตามินซี วิตามินอีมีบทบาทอย่างมากต่อสุขภาพผิวของเรา เพราะมันสามารถช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย และยังเชื่อมโยงไปถึงการป้องกันมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

     คุณสมบัติในการช่วยต้านอนุมูลอิสระของวิตามินอี สามารถช่วยชะลอความชราของผิวและลดรอยดำ รอยแดง รวมถึงลดความหมองคล้ำ และยิ่งไปกว่านั้นวิตามินดีจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินซี อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น อัลมอนด์ ฟักทอง ผักใบเขียวอย่างเช่น คะน้า บลอกโคลี่ และผักโขม

 

 

5. วิตามินเอ

 

 

     เรตินอลหรือกรดเรติโนอิก (หรือที่เรียกว่าวิตามินเอ) เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการมองเห็น การเจริญเติบโตของเซลล์ การสืบพันธุ์ และภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวถูกทำลาย

     เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของสารแคโรทีนอยด์และถือเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของผิวจากการสัมผัสแสงแดดมากเกินไป เมื่อแคโรทีนอยด์ถูกดูดซึม จะสะสมในชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด (หนังกำพร้า) ซึ่งสารชนิดนี้สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้โดยตรง อาหารที่มีวิตามินเอสูงเช่น ผักกระหล่ำปลี มันเทศ แคนตาลูป และพริกแดง

 

 

6. ซีลีเนียม

 

 

     โดยปกติร่างกายต้องการซีลีเนียมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุชนิดนี้ก็ยังคงจำเป็นต่อต่อมไทรอยด์ การปกป้อง DNA และปกป้องเซลล์ ซีลีเนียมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทในการช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังแร่ธาตุซีลีเนียมยังช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินอีซึ่งช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี อาหารที่มีซีลีเนียมสูงเช่น ถั่วบราซิล วอลนัท ทูน่า เมล็ดธัญพืช และข้าวกล้อง

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง