รีเซต

รีวิวครีมกันแดด 5 ตัวดัง ปี 2021-2022 ตัวไหนใช้แล้วดี ยังใช้อยู่ ตัวไหนไม่ได้ไปต่อ

รีวิวครีมกันแดด 5 ตัวดัง ปี 2021-2022 ตัวไหนใช้แล้วดี ยังใช้อยู่ ตัวไหนไม่ได้ไปต่อ
pommypom
18 มีนาคม 2564 ( 15:00 )
5.5K

     มีใครกำลังมองหาครีมกันแดดที่ใช้แล้วดีอยู่มั้ยคะ? เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กว่าจะเจอครีมกันแดดที่ใช่ก็ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานเหมือนกัน วันนี้เราก็เลยจะมารีวิวครีมกันแดด 5 ตัวดังที่เราใช้เองค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนผิวผสมบวกกับผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย แถมยังเป็นสาวผิวแทนอีก เราจึงค่อนข้างเรื่องเยอะในการเลือกครีมกันแดดให้ตัวเองนิดนึง

 

 

     ครีมกันแดดสำหรับเราจะต้องไม่ขาวเกินไปจนทำให้หน้าเราลอย แล้วก็ต้องไม่มีส่วนผสมที่ทำให้แพ้อย่างน้ำหอมและแอลกอฮอล์ด้วย ที่สำคัญจะต้องช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ได้จริงๆ เพราะสำหรับเราแล้วครีมกันแดดถือว่าสำคัญมากๆค่ะ ถ้าใครไม่อยากผิวเสีย ผิวหมองคล้ำ เป็นสิว มีริ้วรอย ฝ้า และดูแก่กว่าวัย ต้องใช้ทุกวันเลย แม้ว่าจะอยู่บ้านเราก็ใช้ค่ะ เพราะมันรู้สึกสบายใจว่าผิวของเราได้รับการปกป้องแล้ว

     และด้วยความที่ซีเรียสเรื่องครีมกันแดดมากแบบนี้ เราจึงได้ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับครีมกันแดดอยู่พอสมควรค่ะ ทำให้เรารู้ว่า เราจะดูที่ค่า SPF อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูที่ส่วนผสมด้วย ดังนั้นครีมกันแดดที่ดีสำหรับเราจะต้องเป็นแบบ Physical Sunscreens เพราะจะสามารถช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ได้ดีกว่าแบบ Chemical Sunscreens ค่ะ โดยวิธีสังเกตก็คือให้เช็คที่ส่วนผสมว่ามี Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide อยู่ด้วยมั้ย เพราะ 2 ตัวนี้ถือเป็นตัวช่วยป้องกันรังสี UV เลย!

 

1. รีวิวครีมกันแดด : Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++

     ตัวนี้เราเห็นว่าเค้าเป็นตัวฮิตตัวดังที่หลายๆคนแนะนำกัน เราก็เลยอยากลองใช้บ้าง แต่พอใช้แล้ว เราว่าเรายังไม่ค่อยเลิฟเท่าไหร่ค่ะ เพราะด้วยความที่เราเป็นคนผิวแทน เราจึงกลัวในเรื่องของหน้าขาววอกมากเป็นพิเศษ ซึ่งตัวนี้ใช้แล้วทำให้หน้าเราดูลอยค่ะ รวมถึงตัวนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์อีก แล้วเราเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายมากๆ ตัวนี้จึงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ ซึ่งข้อดีของเค้าก็มีแค่ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะหน้า แล้วก็มีส่วนผสมที่สามารถช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ทั้ง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide อยู่เท่านั้นค่ะ

  • ความชอบ : 7/10 (หักคะแนน ทำให้หน้าลอย, มีส่วนผสมของน้ำหอม และแอลกอฮอล์)
  • ราคาประมาณ 899 บาท (ขนาด 60 ml)

 

 

2. รีวิวครีมกันแดด : Smith Total Sunscreen SPF50+ PA+++

     ตัวต่อมาตัวนี้เป็นครีมกันแดดของหมอโอ๊คที่ดังมากๆเหมือนกันค่ะ บางคนบอกว่าใช้ดี แต่สำหรับเรา เราว่าเราก็ยังไม่ค่อยชอบอีกเช่นกันค่ะ แม้ว่าตัวนี้จะมีข้อดีมากกว่า Anessa อย่างการที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายแบบเราจึงสบายใจได้เลย แถมเค้ายังมีส่วนผสมทั้ง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่สามารถช่วยป้องกันรังสี UVA/UVB ได้จริงอีก แต่เราว่าเนื้อครีมค่อนข้างเกลี่ยยากค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนผิวผสมด้วย ตรงผิวส่วนที่แห้งรู้สึกได้เลยว่าค่อนข้างเกลี่ยยาก แล้วเนื้อครีมเป็นขุยๆออกมาด้วย แถมยังอุดตันอีก รวมถึงยังทำให้หน้าดูลอยด้วย ตัวนี้ก็ไม่เวิร์คสำหรับเราเหมือนกัน ก็เลยไม่ซื้อต่อค่ะ 

  • ความชอบ : 7/10 (หักคะแนน ทำให้หน้าลอย, เป็นขุย, อุดตัน)
  • ราคาประมาณ 760 บาท (ขนาด 30 ml)

 

 

3. รีวิวครีมกันแดด : Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

     ตัวนี้เกือบจะดีแล้วค่ะ แม้ว่าเค้าจะมีส่วนผสมของ Titanium Dioxide เพียงอย่างเดียว ไม่มี Zinc Oxide ด้วย แต่ก็มั่นใจได้ว่าสามารถช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ได้ไม่แพ้กัน แถมเนื้อครีมยังเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าอีกด้วย แต่มันก็ยังติดอยู่ตรงที่ใช้แล้วทำให้หน้าดูลอยเล็กน้อยค่ะ (แต่ก็ไม่ถึงกับลอยแบบ Anessa และ Smith นะคะ) และแม้ว่าตัวนี้จะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่เค้ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่ะ ดังนั้นผิวแพ้ง่ายแบบเราจึงไม่กล้าใช้ต่อค่ะ 

  • ความชอบ : 8/10 (หักคะแนน ทำให้หน้าลอย, มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์)
  • ราคาประมาณ 1,500 บาท (ขนาด 30 ml)

 

 

4. รีวิวครีมกันแดด : SUPERGOOP! PLAY Everyday Lotion SPF 50 with Sunflower Extract

     มาถึงครีมกันแดดสุดฮิตอย่าง SUPERGOOP! แบรนด์นี้ที่เริ่มดังในไทยก็คงจะเป็นเพราะคุณก้อย รัชวินใช้ตอนวิ่งตากแดดแต่ผิวเค้าก็ยังดูดีอยู่ หลายคนจึงใช้ตามค่ะ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าใช้แล้วดีมากจริงๆ เราชอบมากค่ะ ซึ่งตัวที่เราใช้เป็นรุ่น PLAY Everyday Lotion พูดเลยว่าตัวนี้เหมาะกับผิวแทนแบบเรามากๆ เพราะไม่มีสี ใช้แล้วไม่ทำให้หน้าลอยเลยค่ะ แถมยังเกลี่ยง่าย เหมือนทาครีมบำรุงเลย แต่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่อาจจะทำให้ผิวดูมันเล็กน้อย บวกกับส่วนผสมที่เค้าใช้จะไม่มี Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide แต่จะเป็น Avobenzone แทนค่ะ ดังนั้นครีมกันแดดตัวนี้จึงถือเป็น Chemical Sunscreens ไม่ใช่ Physical Sunscreens นั่นเอง แม้ว่าจะช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ได้เหมือนๆกัน แต่ถ้าเป็น Physical Sunscreens จะช่วยปกป้องได้ดีกว่าค่ะ ซึ่งเราเห็นว่าเค้ามีอีกรุ่นอย่างตัว Mattescreen ที่มีส่วนผสมทั้ง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เลย เราว่าเราก็จะซื้อหลอดนี้ใช้ค่ะถ้าไม่มาเจอตัวต่อไปซะก่อน ซึ่งถ้าเทียบในเรื่องของราคาตัว Mattescreen 45 ml อยู่ที่ 1,480 บาท ตัวต่อไปที่จะพูดถึงคุ้มกว่ามากค่ะ

  • ความชอบ : 9/10 (หักคะแนน ไม่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide)
  • ราคาประมาณ 790 บาท (ขนาด 71 ml)

 

 

5. รีวิวครีมกันแดด : MizuMi UV WATER DEFENSE SPF50+ PA++++

     ครีมกันแดดตัวที่ใช้แล้วดี ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ แล้วก็จะซื้อต่อด้วย ก็คือครีมกันแดดตัวดังของ MizuMi ตัวนี้เลยค่ะ เราเห็นหลายๆคนใช้แล้วบอกว่าดี ตอนแรกๆเราก็ไม่ได้สนใจอยากจะซื้อตามเท่าไหร่ เพราะเคยซื้อตามคนนู้นคนนี้ แล้วพอใช้เองมันก็ไม่ค่อยเวิร์คสำหรับเราเลย แต่ในที่สุดก็ซื้อมาลองจนได้ เพราะตอนนั้นเหมือนเค้า Sale อยู่แล้วถูกมากๆค่ะ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร ปรากฏว่าใช้แล้วเข้ากับผิวเรามากแบบไม่น่าเชื่อเลย ซึ่งตัวนี้ใช้แล้วไม่ทำให้หน้าเราลอย เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้ผิวแห้งเกินแล้วก็ไม่ทำให้หน้ามันเกินด้วย เราใช้ตัวนี้แล้วไม่ได้แต่งหน้า ยังมีคนทักว่าผิวดูเนียนเหมือนทารองพื้นบางๆมาเลย เราว่าเค้าเหมือนช่วยเบลอผิวให้เราด้วยเล็กน้อยค่ะ ที่สำคัญยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์อีก ใช้แล้วไม่แพ้และไม่เป็นสิวเลย บวกกับยังมีส่วนผสมของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ทั้ง 2 ตัวเลยด้วย ทำให้มั่นใจได้เลยว่าสามารถช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่ๆ และที่เราเลือกใช้หลอดสีส้ม ไม่ใช่หลอดสีฟ้าตัวที่หลายๆคนฮิตกัน ก็เพราะว่าตัวนี้กันน้ำได้ค่ะ เราเลยไม่ต้องกังวลว่าถ้าเหงื่อออก ตัวครีมกันแดดก็ยังช่วยปกป้อง UV ได้อยู่นั่นเอง เรียกได้ว่าตัวนี้ตอบโจทย์ครีมกันแดดที่เราตามหาสุดๆค่ะ 

  • ความชอบ : 10/10 ไม่หัก!
  • ราคาประมาณ 890 บาท (ขนาด 30 g)

 

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง