10 สัญญาณเตือนเบาหวานและความดันสูง ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

โรคเบาหวาน และ โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่พบได้บ่อยในคนไทย และมักเกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก ทั้งสองโรคนี้ส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ไต ตา และระบบประสาท หากไม่รู้ทันตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น โรคหัวใจวาย ไตวาย หรือเส้นเลือดในสมองตีบ
การรู้จัก สัญญาณเตือนเบาหวานและความดันสูง จะช่วยให้คุณสามารถเข้ารับการตรวจและดูแลสุขภาพได้อย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงของโรคร้ายในอนาคต
สัญญาณเตือนโรคเบาหวานและความดันสูงที่ควรรู้
หากร่างกายเริ่มมีความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าเพิกเฉย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของ “โรคเบาหวาน” หรือ “โรคความดันโลหิตสูง” หากมีอาการหลายข้อร่วมกัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพโดยละเอียด
สัญญาณเตือนจากโรคเบาหวาน (น้ำตาลในเลือดสูง)
ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน – ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
กระหายน้ำ คอแห้งบ่อย – เกิดจากการสูญเสียน้ำมาก
หิวบ่อย กินเก่งแต่น้ำหนักลด – เพราะน้ำตาลไม่เข้าสู่เซลล์ ร่างกายจึงเผาผลาญไขมันและกล้ามเนื้อแทน
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย – เซลล์ขาดพลังงาน แม้จะนอนหลับเพียงพอ
แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย – ภูมิคุ้มกันและการไหลเวียนเลือดลดลงเมื่อระดับน้ำตาลสูง
สัญญาณเตือนจากโรคความดันโลหิตสูง
ปวดหัวท้ายทอย โดยเฉพาะตอนเช้า – พบบ่อยในผู้ที่มีความดันสูงมาก
วิงเวียน มึนงง หน้ามืด – มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความดันหรือหลอดเลือดสมอง
ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด – หลอดเลือดเล็กบริเวณจอประสาทตาถูกทำลาย
เหนื่อยง่าย หายใจถี่ – หัวใจทำงานหนักขึ้นจากความดันสูง
ชาปลายมือ ปลายเท้า – เส้นประสาทถูกทำลาย หากมีเบาหวานและความดันร่วม จะเพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดตีบตัน
🧠 Tip: หากพบอาการเหล่านี้เพียง 1–2 ข้อ ควรเฝ้าระวัง แต่หากมีหลายข้อร่วมกัน ควรรีบพบแพทย์ทันที
ทำไมเบาหวานและความดันถึงมักเกิดขึ้นพร้อมกัน
โรคเบาหวาน และ โรคความดันโลหิตสูง มักเกิดร่วมกัน เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงต่อเนื่องทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบ เมื่อหลอดเลือดยืดหยุ่นน้อยลง หัวใจต้องสูบฉีดเลือดแรงขึ้น ความดันจึงสูงตามมา นอกจากนี้ ทั้งสองโรคยังมี “ปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน” ได้แก่
น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
ขาดการออกกำลังกาย
การบริโภคอาหารรสหวาน มัน เค็ม
ความเครียดสะสม
พฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ไม่ใส่ใจสุขภาพ
การดูแลป้องกันหนึ่งโรคจึงมักช่วยลดความเสี่ยงของอีกโรคได้ไปพร้อมกัน
วิธีดูแลและป้องกันเบาหวาน ความดันสูงเบื้องต้น
การปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคได้อย่างมาก
1. ควบคุมอาหาร
ลดน้ำตาล แป้งขัดขาว และอาหารเค็ม
เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ
3. ควบคุมน้ำหนัก
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
ลดภาระหัวใจและหลอดเลือด
4. พักผ่อนและลดความเครียด
นอนวันละ 7–8 ชั่วโมง
หาวิธีผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง เดินเล่น ทำสมาธิ
5. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต
พบแพทย์ประจำปีเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด
หากคุณเริ่มมี สัญญาณเตือนเบาหวานและความดันสูง อย่ารอให้สายเกินไป เพราะการตรวจพบและดูแลตั้งแต่ระยะแรก สามารถควบคุมโรคและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 วิธีควบคุมน้ำตาลในเลือด ทำอย่างไรให้น้ำตาลลดเร็ว สุขภาพดี เบาหวานไม่กำเริบ
- 6 ผลไม้ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงต่อโรคร้าย กินได้ทุกวันสุขภาพดี
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้![]()
สิทธิประโยชน์แนะนำ
