โรคกินไม่หยุด Binge Eating Disorder คืออะไร ? ... อาการแบบไหนถือว่าเป็นโรค

จากที่มีข่าวว่า “ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช” นักร้องชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนเองกำลังมีอาการป่วยจาก โรคกินไม่หยุด Binge Eating Disorder ซึ่งเป็นโรคที่ผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมการกินของตัวเองได้ ทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก มีปัญหาไขมัน ทั้งไขมันในเส้นเลือดและปัญหาไขมันพอกตับ รวมถึงยังมีภาวะความเศร้าด้วย
หลายคนจึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า โรคกินไม่หยุดคืออะไร มีสาเหตุและอาการอย่างไรบ้าง รวมถึงหลายๆ คนก็มีความสงสัยด้วยว่าตนเองจะเข้าข่ายป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ วันนี้เราได้รวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคกินไม่หยุด หรือโรคหยุดกินไม่ได้มาฝากกันค่ะ
โรคกินไม่หยุดคืออะไร
โรคกินไม่หยุด Binge Eating Disorder (BED) คือ ความผิดปกติของการกินอาหาร โดยผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมในการกินอาหารของตนเองได้ ทำให้เกิดการกินอาหารมากกว่าปกติ รวมถึงยังกินอาหารแม้จะไม่รู้สึกหิวและจะหยุดก็ต่อเมื่อกินอาหารต่อไม่ไหวแล้ว ซึ่งเมื่อกินอาหารไปแล้วก็จะรู้สึกไม่ดีหรือรู้สึกผิดต่อตัวเอง
โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งช่วงอายุที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือช่วงอายุ 20 ตอนต้น การเป็นโรคกินไม่หยุดนี้ สามารถส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้ และยังสามารถส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยได้อีกด้วย
สาเหตุของโรคกินไม่หยุด
สาเหตุของโรคนี้ยังไม่มีแน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น
1. ความผิดปกติในสมองบางอย่าง
ผู้ป่วยอาจมีการตอบสนองต่อสารเคมีในสมองบางชนิด หรือมีการเปลี่ยนแปลงในสมองบางอย่างทำให้การควบคุมตัวเองทำได้ต่ำลง
2. มีการกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ
ผู้ป่วยอาจเคยได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ อาจเคยถูกทำร้าย สูญเสียคนในครอบครัว รวมถึงการขาดความมั่นใจ การวิตกกังวลในรูปร่างของตนเอง
3. เป็นโรคบางชนิด
ผู้ป่วยอาจเป็นโรคทางจิตเวชบางชนิด เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ โรคเครียด หรือมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคกินไม่หยุด
อาการของโรคกินไม่หยุด
อาการของโรคนี้ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ พฤติกรรมการกินของผู้ป่วยรวมถึงสภาวะอารมณ์ของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยผู้ป่วยจะมีอาการที่เห็นได้ชัด ดังนี้
- กินอาหารปริมาณมากกว่าปกติ
- ไม่สามารถควบคุมให้ตนเองหยุดกินได้ แม้ว่าจะอิ่มแล้วก็ตาม
- ผู้ป่วยจะหยุดกินอาหารก็ต่อเมื่อกินไม่ไหว อิ่มจนอึดอัด ไม่สามารถกินอาหารต่อได้แล้ว
- สามารถกินอาหารในปริมาณมากๆ ได้ โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน
- ในบางครั้งผู้ป่วยอาจจะมีพฤติกรรมกักตุนอาหาร
- ผู้ป่วยจะเลือกไปกินอาหารเพียงลำพัง เนื่องจากรู้สึกอับอายกับปริมาณที่ตัวเองกิน
- รู้สึกรังเกียจ ซึมเศร้า หรือรู้สึกผิดหลังกิน
วิธีป้องกันโรคกินไม่หยุด
เราสามารถลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคกินไม่หยุดได้ ด้วยการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคเครียด โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ รวมถึงการปรับปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกาย
- หากิจกรรมทำเพื่อลดความเครียดและเพื่อลดความรู้สึกด้านลบ
- เข้ารับการบำบัด
- ปรึกษาแพทย์เมื่อเกิดสัญญาณของโรค
- ปฏิบัติตตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
เราเป็นโรคกินไม่หยุดใช่หรือไม่
หากคุณแค่กินอาหารมากกว่ามื้อปกติในบางครั้งคราว อย่างเช่น กินอาหารมากกว่าปกติเพราะไปงานเลี้ยงสังสรรค์หรือไปกินอาหารบุฟเฟต์ แบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นโรคกินไม่หยุดแต่อย่างใด
แต่หากคุณคิดว่าพฤติกรรมการกินของคุณอาจจะเข้าข่ายของโรคนี้ สามารถไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องได้ โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะต้องมีพฤติกรรมการกินตามข้างต้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และต้องเป็นติดต่อกัน 3 เดือนขึ้นไป
อ้างอิง
- www.mayoclinic.org/diseases-conditions/binge-eating-disorder
- www.healthline.com/nutrition/binge-eating-disorder
- www.petcharavejhospital.com/Binge-Eating-Disorder
- www.pobpad.com/binge-eating-disorder
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เช็คก่อนจะสาย 9 สัญญาณ โรคซึมเศร้า ตกลงเราเป็นหรือไม่เป็น
- 13 สัญญาณ อาการทางจิต เมื่อเป็นแล้วควรไปพบแพทย์