เรามีผิวประเภทไหน ? 5 ประเภทของผิว Skin Type พร้อมวิธีตรวจสอบง่ายๆ
เสียเงินซื้อสกินแคร์ตัวที่ใครๆ ก็ว่าดีไปเยอะ แต่พอเราใช้จริงๆ กลับไม่เห็นผล ซ้ำยังทำให้ผิวหน้าของเรามีปัญหามากขึ้นด้วย การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวของเรานั้นอาศัยการอ่านรีวิวอย่างเดียวไม่ได้ผลค่ะ เพราะการเลือกสกินแคร์ให้ถูกกับผิวของเรานั้น ก่อนอื่นเลยก็คือตัวเราเองต้องรู้จักสภาพผิวก่อนค่ะ
สกินแคร์ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีผิวที่ดีก็จริง แต่หากเราเลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ต่อให้เป็นสกินแคร์ที่แพงขนาดไหนก็ไม่สามารถช่วยให้ผิวของเราดีขึ้นได้ค่ะ เพราะหากสกินแคร์ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราแล้ว นอกจากจะให้ผลลัพธ์ได้ไม่เต็มที่ ยังอาจจะก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาก็ได้ เช่น ถ้าเกิดเราเป็นคนผิวแห้งแล้วไปใช้สกินแคร์สำหรับคนผิวมัน เมื่อเราใช้ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าหน้าแห้งมากกว่าเดิม และถ้ายังฝืนใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสิวอักเสบและกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นก็เป็นได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเรารู้จักสภาพผิวของเราเสียก่อนค่ะ
3 วิธีตรวจสอบสภาพผิว
1. ล้างหน้าด้วย Soap-Free
soap-free คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ปราศจากสารจำพวกไขสบู่ โดยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้จะมีค่า PH ที่ใกล้เคียงกับผิวธรรมชาติ เช่น 5.5 และนอกจากนี้ยังต้องไม่มีสาร SLS (sodium lauryl sulfate) ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองได้ , Glycerin เป็นสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และ Myristic Acid สารที่ทำให้เกิดฟองซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน
2. อยู่ในอุณหภูมิห้อง
หลังจากที่ล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้เราซับหน้าให้แห้ง จากนั้นก็ให้อยู่ในห้องที่ไม่เปิดแอร์หรืออยู้ในห้องที่มีอากาศร้อนเกินไป
3. ซับหน้าด้วยกระดาษซับมัน
เมื่ออยู่ในห้องจนครบ 1 ชั่วโมง ให้เราสังเกตบริเวณใบหน้าว่ารู้สึกอย่างไร พร้อมทั้งซับหน้าด้วยกระดาษซับมันหรือทิชชู่ โดยซับบริเวณ T-Zone และบริเวณ C-Zone จากนั้นให้สังเกตความมันที่ติดอยู่บนกระดาษค่ะ
5 ประเภทของผิว (Skin Type)
หลังจากที่ล้างหน้าไปแล้ว 1 ชั่วโมง และลองใช้กระดาษซับมัน ซับบริเวณ T-Zone และ C-Zone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถสังเกต Skin Type ของตัวเองได้ ดังนี้ค่ะ
1. ผิวปกติ (Normal skin)
สำหรับคนที่มีผิวปกติ จะไม่มีความมันติดอยู่ที่กระดาษเลยค่ะ รวมถึงยังรู้สึกปกติที่ผิวหน้า ไม่แห้งตึงและไม่รู้สึกว่ามีน้ำมันที่ผิวด้วย
2. ผิวมัน (Oily skin)
สำหรับสาวๆ ที่มีผิวมัน หลังจากล้างหน้าครบ 1 ชั่วโมงแล้วจะรู้สึกมัน เงา รวมถึงเมื่อใช้กระดาษซับมัน จะพบว่ามีน้ำมันติดที่กระดาษทั้งบริเวณ T-Zone และ C-Zone ค่ะ
3. ผิวผสม (Combination skin)
สาวๆ ที่มีผิวผสมก็สามารถตรวจสอบได้โดยการใช้กระดาษซับมันเช่นเดียวกันค่ะ โดยสาวๆ กลุ่มนี้จะรู้สึกว่ามีผิวมัน เงา บริเวณ T-Zone ส่วนในบริเวณ C-Zone นั้นจะไม่มีน้ำมันอยู่ค่ะ
4. ผิวแห้ง (Dry skin)
กลุ่มสาวๆ ที่มีผิวแห้ง นอกจากจะไม่มีน้ำมันติดที่กระดาษซับมันแล้ว ยังอาจจะมีอาการแห้ง ตึง รวมถึงยังอาจจะมีผิวลอกและอาการคันด้วยค่ะ
5. ผิวบอบบาง (Sensitive skin)
สุดท้ายคือกลุ่มของสาวๆ ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่ายนั่นเองค่ะ สาวๆ กลุ่มนี้จะไม่มีน้ำมันติดที่กระดาษซับมันเลยทั้งบริเวณ T-Zone และ C-Zone แต่จะมีความรู้สึกแสบร้อน คัน รวมถึงมีอาการผิวแดงและระคายเคืองด้วยค่ะ
สำหรับสาวๆ ที่สงสัยว่า T-Zone และ C-Zone คือบริเวณไหนของใบหน้า เราก็จะอธิบายให้ฟังแบบนี้ค่ะ บริเวณ T-Zone ก็คือช่วงหน้าผาก จมูกและคาง ซึ่งเป็นบริเวณที่เหมือนตัว T ค่ะ ส่วนบริเวณ C-Zone ก็คือแก้มทั้ง 2 ข้าง และบริเวณแนวกรามนั่นเองค่ะ
เมื่อสาวๆ รู้ Skin Type หรือประเภทของผิวของตัวเองแล้ว จากนี้เราก็สามารถเลือกสกินแคร์ได้ตรงกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น รวมถึงเราก็จะสามารถใช้สกินแคร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นด้วยค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
8 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่คนผิวบอบบางแพ้ง่ายควรระวัง ยิ่งใช้ยิ่งแพ้ หาสาเหตุไม่ได้ซักที นี่คือคำตอบ!
คู่กันดีกว่า! จับคู่สกินแคร์ 11 ตัว ใช้ด้วยกันแล้วดี เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงผิวได้มากกว่าเดิม