รีเซต

7 วิธีลดรอยดำและผิวหมองคล้ำ ช่วยฟื้นฟูผิวเสียจากแสงแดดแบบเร่งด่วน

7 วิธีลดรอยดำและผิวหมองคล้ำ ช่วยฟื้นฟูผิวเสียจากแสงแดดแบบเร่งด่วน
BeauMonde
7 มีนาคม 2566 ( 13:33 )
805

     รังสี UV มักเป็นตัวการใหญ่ที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเมลานินมากเกินไปและส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำและมีรอยดำได้ ซึ่งความเสียหายของผิวที่เกิดจากรังสี UV ส่วนมากมักจะไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที แต่จะเป็นลักษณะของปัญหาสะสม ซึ่งกว่าเราจะรู้ตัวก็มีปัญหาผิวหมองคล้ำแล้ว ดังนั้น หากคุณไม่อยากต้องมาคอยระวังว่าปัญหาผิวหมองคล้ำจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ให้ใช้วิธีป้องกันไว้ตั้งแต่แรกจะดีกว่า

     การใช้ครีมกันแดดสามารถช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ส่วนหนึ่ง แต่หากคุณใช้ครีมกันแดดมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีปัญหาผิวหมองคล้ำอยู่เรื่อย ๆ ก็อาจเป็นไปได้ว่าปัญหาผิวหมองคล้ำที่คุณเป็นนั้นมาจากสาเหตุอื่น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ มีดังนี้

 

สาเหตุของปัญหาผิวคล้ำและรอยดำ

 

  • ความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นการแคะ แกะ เกา จนทำให้เกิดการอักเสบ ก็สามารถทำให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินจนทำให้เกิดปัญหาหมองคล้ำ รอยดำรอยแดงและรอยแผลเป็นได้
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุนี้อาจทำให้เกิดฝ้าได้
  • ผื่นที่ผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) หรือแม้แต่โรคสะเก็ดเงิน ก็ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำและรอยดำได้
  • การติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น สิว กลาก เกลื้อน และติดเชื้อราแคนดิดา (Candidiasis) และนอกจากนี้มะเร็งผิวหนังบางชนิดก็สามารถทำให้เกิดเม็ดสีผิวได้เช่นกัน   

 

 

7 วิธีลดรอยดำและผิวหมองคล้ำ

 

1. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล

 

 

     น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล (ACV) มีสารประกอบโพลีฟีนอลที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งสารประกอบเหล่านี้ก็สามารถเป็นประโยชน์ต่อผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยจัดการกับปัญหาผิวคล้ำและปัญหาผิวอื่น ๆ โดยให้ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะให้เข้ากัน ใช้สำลีก้อนชุบส่วนผสมแล้วทาบริเวณผิวหนังที่มีอาการ ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีหรือจนกว่าจะแห้งสนิท แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำ 2 ครั้งต่อวัน

 

2. ว่านหางจระเข้

 

 

     ว่านหางจระเข้มีสารที่เรียกว่า aloin ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น โดยวิธีการใช้ก็คือ ผสมเนื้อว่านหางจระเข้สด 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาลงในชาม นำส่วนผสมที่ได้ทาลงบนผิวหนังที่มีปัญหา ปล่อยให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

 

3. ชาเขียว

 

 

     เอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) เป็นเอนไซม์ที่พบในร่างกายของสิ่งมีชีวิตซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีน้ำตาล สารสกัดจากชาเขียวมีส่วนในการช่วยยับยั้งไทโรซิเนสได้ และอาจมีผลทำให้เม็ดสีลดลง ซึ่งวิธีใช้ชาเขียวในการช่วยลดรอยหมองคล้ำและช่วยลดรอยดำ คือ ใช้น้ำชาเขียวที่ปล่อยให้เย็นตัวดีแล้วทาลงบนบริเวณผิวหนังที่มีอาการ ปล่อยให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด วิธีนี้สามารถทำซ้ำวันละ 2 ครั้งได้

 

4. มะนาว

 

 

     มะนาวถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวได้ เนื่องจากน้ำมะนาวถือเป็นสารฟอกขาวตามธรรมชาติที่มีศักยภาพ โดยให้เราผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ทาส่วนผสมลงบนบริเวณผิวหนังที่มีปัญหา ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น อย่างไรก็ตาม น้ำมะนาวก็ยังถือเป็นกรดที่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวที่บอบบางได้ ดังนั้นควรทดสอบที่บริเวณข้อพับแขนก่อนใช้ นอกจากนี้อย่าลืมทาครีมกันแดดหลังจากทำวิธีนี้ เนื่องจากน้ำมะนาวสามารถทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงได้

 

5. นม

 

 

     นมมีกรดแลคติกซึ่งสามารถใช้ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ นอกจากนี้ยังพบว่ากรดแลคติกยังสามารถช่วยในการรักษาฝ้าได้ด้วย เพียงทานมสดลงบนบริเวณผิวที่มีอาการ ปล่อยให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง

 

6. มะเขือเทศ

 

 

     มะเขือเทศมีสารไลโคปีนที่สามารถช่วยลดปัญหาผิวที่เสียหายจากการทำร้ายของแสงแดด โดยเฉพาะปัญหารอยดำและสีผิวหมองคล้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยให้ผิวหน้าโดนแสงแดดเป็นเวลานาน วิธีการคือให้ฝานมะเขือเทศเป็นแว่น ๆ แล้วถูตามจุดต่าง ๆ ที่มีปัญหา ปล่อยให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำวันละ 2 ครั้ง

 

7. ชาดำ

 

 

     จากผลการศึกษาของ Keimyung University ประเทศเกาหลีพบว่าเมื่อใช้ชาดำกับรอยดำคล้ำบนผิวของสัตว์ทดลองอย่างหนูตะเภา ชาดำสามารถที่จะช่วยยับยั้งการพัฒนาของเมลาโนไซต์และลดการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไปได้ โดยวิธีการใช้คือให้ต้มใบชา 1 ช้อนโต๊ะในน้ำ ปล่อยให้เย็นลงและกรองเอาแต่น้ำ ใช้สำลีก้อนชุบน้ำชาแล้วทาลงบนบริเวณผิวที่มีปัญหา ปล่อยให้แห้งแล้วล้างออก ทำ 2 ครั้งต่อวัน

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี