รีเซต

4 วิธีง่ายๆ แก้อาการคันหัว คันหนังศีรษะ แถมช่วยลดผมร่วงด้วย

4 วิธีง่ายๆ แก้อาการคันหัว คันหนังศีรษะ แถมช่วยลดผมร่วงด้วย
Faii_Natnista
16 พฤศจิกายน 2563 ( 16:00 )
64.5K

     คันหัวยิบๆ ไหนจะรังแค ไหนจะผมร่วง! มาบอกลาอาการคันหนังศีรษะและอาการผมร่วง ด้วย 4 วิธีง่ายๆ แก้อาการคันหัว คันหนังศีรษะ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ดีกว่า! เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเบื่อแล้วกับอาการคันหนังศีรษะ ที่นอกจากจะมีทั้งรังแค และทำให้ผมหลุดร่วงแล้ว ยังทำให้บุคลิกเสียอีกด้วย ใครที่อยากแก้อาการคันหนังศีรษะให้หมดไป ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยแก้อาการคันยิบๆ บนหนังศีรษะได้ดีมาให้ลองทำกันแล้ว มาลองทำตามกันเลย!

 

 

สาเหตุของอาการคันหัว คันหนังศีรษะ

1. รังแค

     อาการคันหนังศีรษะส่วนใหญ่นั้นมักเกิดมาจากสาเหตุที่เรียกว่า รังแค ค่ะ โดยรังแคนั้นเกิดจากการผลัดเซลล์ที่ผิดปกติบริเวณหนังศีรษะ ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวนั้นก็เกิดจากการที่หนังศีรษะเราเกิดการระคายเคืองจากมลภาวะ สิ่งสกปรก การได้รับสารเคมีเป็นประจำ หรือแม้แต่การสระผมที่ไม่ดีพอนั่นเอง ยิ่งมีการสะสมของรังแคมาก ก็จะยิ่งไปอุดตันรูขุมขนของเส้นผม ทำให้น้ำมันที่ถูกผลิตจากต่อมไขมันไม่สามารถระบายออกมาได้ ยิ่งทำให้เกิดอาการคันมากขึ้นตามมานั่นเอง

2. หนังศีรษะแห้ง

     ต้องบอกก่อนค่ะว่า รังแคกับอาการหนังศีรษะแห้งนั้นแตกต่างกัน โดยรังแคนั้นเกิดจากการที่หนังศีรษะมีความมัน มีการอุดตันรูขุมขนของเส้นผม ทำให้น้ำมันที่ถูกผลิตจากต่อมไขมันไม่สามารถระบายออกมาได้ จนเกิดเป็นรังแค แต่หนังศีรษะแห้งนั้น เกิดจากการที่หนังศีรษะแห้งเกินกว่าปกติ สาเหตุอาจมาจากสภาพอากาศ หรือการสระผมบ่อยเกินไป ทำให้เกิดอาการคันและมีสะเก็ดสีขาวหลุดลอกออกมาคล้ายๆ รังแค

3. ผิวหนังอักเสบจากการแพ้

     หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกกับหนังศีรษะก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ค่ะ ซึ่งเมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบ จะทำให้หนังศีรษะมัน เกิดผื่นแดง และเป็นสาเหตุที่ทำให้รากผมอ่อนแอต่อมา ซึ่งถ้ามีการอักเสบอย่างต่อเนื่องจะทำให้โพรงเส้นผมลีบ เกิดปัญหารากผมอักเสบและเส้นผมหลุดร่วงตามมาด้วย!

4. ความสกปรกและเหงื่อ

     จริงอยู่ที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน แต่หากใครที่ต้องออกไปเจอมลภาวะ สิ่งสกปรก หรือมีเหงื่อสะสมตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย ก็ควรสระผมให้สะอาดเป็นประจำค่ะ เพราะสิ่งสกปรกและเหงื่อจะทำให้หนังศีรษะมีความมันและเหนียวขึ้น และเมื่อเหงื่อบนหนังศีรษะระเหย อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคืองจนรู้สึกคันได้

5. โรคผิวหนัง

     นอกเหนือจากอาการแพ้และสิ่งสกปรกแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันหนังศีรษะได้บ่อยๆ อีกหนึ่งสาเหตุก็คือโรคผิวหนังนั่นเองค่ะ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน และโรคเซ็บเดิร์ม ก็อาจจะมีอาการคันหนังศีรษะอยู่เป็นประจำ โดยนอกจากอาการคันแล้ว ก็ยังมีผื่นแดง และมีรังแคร่วมด้วย

 

 

วิธีแก้อาการคันหัว คันหนังศีรษะ

1. ลดความมัน ขจัดรังแคด้วยมะกรูด

     มะกรูดถือเป็นไอเทมที่ช่วยบำรุงเส้นผมได้ดีมากๆ ค่ะ และไม่ใช่แค่เรื่องเส้นผมเท่านั้น แต่มะกรูดยังช่วยลดความมัน แก้อาการคัน และขจัดรังแคได้ดีอีกด้วย โดยแนะนำให้นำมะกรูด 1-2 ลูก มาคั้น จากนั้นเอาน้ำมะกรูดมาชโลมศีรษะและเส้นผม หมักทิ้งไว้สัก 1-2 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เท่านี้ก็ช่วยลดความมัน ลดอาการคันหนังศีรษะไปได้เยอะแล้วล่ะค่า

 

2. เพิ่มน้ำมัน ลดอาการหนังศีรษะแห้ง

     หากคุณเป็นคนที่หนังศีรษะแห้ง และมีอาการคันยิบๆ ตลอดเวลา ลองเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะด้วยน้ำมันบำรุงผมดูค่ะ ซึ่งการใช้น้ำมันมะพร้าวก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะได้ง่ายๆ โดยแนะนำให้นำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ไปอุ่นให้ร้อนนิดๆ จากนั้นนำมานวดให้ทั่วศีรษะ 2-3 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้นขึ้น เส้นผมแข็งแรงขึ้นแล้วล่ะค่า

3. เลือกใช้แชมพูสำหรับเด็ก หรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

     สำหรับคนที่มีอาการแพ้และเป็นโรคเกี่ยวกับหนังศีรษะ ก็ควรเลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยนขึ้นค่ะ โดยแชมพูทั่วไปของผู้ใหญ่นั้นมักจะมีสารเคมีและสารสังเคราะห์ผสมอยู่ ฉะนั้นควรเปลี่ยนมาใช้แชมพูสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณน้อย หรือเลือกใช้แชมพูที่สกัดจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ก็จะช่วยลดการสะสมสารเคมีบนหนังศีรษะ ช่วยลดอาการคัน รวมถึงลดปัญหาผมร่วงได้อีกด้วย

 

4. สระผมด้วยน้ำเย็น

     การสระผมด้วยน้ำอุ่น จะทำให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะได้ง่าย ส่งผลให้หนังศีรษะแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และทำให้เกิดอาการคัน หนังศีรษะลอก และผมร่วงตามมา ฉะนั้นจึงควรเปลี่ยนมาสระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิพอเหมาะไม่อุ่นหรือร้อนจนเกินไป ซึ่งน้ำเย็นจะช่วยกักเก็บความชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติไว้บนเส้นผม ทำให้ผมมีความเงางามและสุขภาพดี ไม่แห้งเกินไปนั่นเองค่ะ

 

.........................................

 

อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน

ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!

 

บทความที่เกี่ยวข้อง