นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก นอนเยอะแต่ยังง่วง สัญญาณเสี่ยงของสุขภาพ
รู้ไหมว่า คนไทยต้องเผชิญกับภาวะนอนไม่หลับคิดเป็น 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ จากข้อมูลปี 2563 พบว่า คนไทย 40% หรือ 19 ล้านคน มีปัญหาเรื่องการนอนโดยเฉพาะคนทำงานและวัยใกล้เกษียณ อีกทั้งชีวิตช่วงนี้ หลายคนคงจะเจอปัญหารุมเร้า ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน เช่น งานเครียด คิดมาก ทำให้นอนไม่หลับ บางคืนสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะในหัววนเวียนคิดวนไปวนมา แม้ในวันพักผ่อนที่อยากชาร์จพลังยาวๆ หลับทั้งวัน พอนอนเยอะแต่ยังง่วง รู้สึกไม่สดชื่นและอ่อนเพลีย วนเป็นลูปชีวิตซ้ำเดิมจนชิน แต่หลายคนกลับมองข้ามแล้วคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่รู้ไหมคะ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเสี่ยงของสุขภาพ ปล่อยเอาไว้นานร่างกายจะมีผลเสียต่อสุขภาพที่ตามมาอีกมาก
ผลเสียของการนอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก
ปัญหานอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก นอนเยอะแต่ยังง่วง ล้วนสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพ โดยสำหรับผลเสียที่เกิดกับร่างกายที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่
- รู้สึกอ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าได้ตลอดทั้งวัน
- ขอบตาดำ หน้าตาโทรม ผิวพรรณหมองคล้ำไม่สดใส
- ไม่มีสมาธิ ลดประสิทธิภาพในการเรียนและการทำงาน
- เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
- มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ
สำหรับผลเสียต่อสภาพจิตใจก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน และหลาย ๆ ครั้งเรามักไม่รู้ตัวว่าสาเหตุจริง ๆ แล้วมาจากการนอน เช่น
- ฉุนเฉียวเหวี่ยงวีน โกรธง่าย เรื่องเล็กน้อยก็ทำให้หงุดหงิดได้
- ส่งผลให้เกิดภาวะวิตกกังวล
- เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคซึมเศร้า
นอนไม่หลับทำอย่างไรดี… วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ
การนอนไม่หลับ นอนหลับๆ ตื่นๆ หลับไม่สนิท หรือนอนเยอะแต่ยังอ่อนเพลีย เป็นสัญญาณเสี่ยงของสุขภาพที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม แต่หากเราค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ก็จะช่วยให้ร่างกายนอนหลับได้สนิทขึ้น เช่น
1. ควรเข้านอนให้เป็นเวลา ตื่นตามตารางเดิม และไม่ควรนอนเกิน 4 ทุ่ม
2. ไม่ควรรับประทานอาหารช่วงก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง ป้องกันโรคกรดไหลย้อน ที่มีผลต่อการนอนหลับ
3. งดเล่นมือถือหรือทำงานก่อนนอน เพื่อหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากจอ ควรเลือกที่จะอ่านหนังสือมากกว่า
4. นั่งสมาธิ ยืดเส้นยืดสายหรือเล่นโยคะเบาๆ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย
5. สภาพแวดล้อมเวลานอนก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรอยู่ในพื้นที่เงียบสงบ มืดสนิท ให้ร่างกายรับรู้ว่าถึงเวลาเข้านอน ปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนอย่างแท้จริง พยายามทำสมองให้ปลอดโปร่ง แล้วหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย
แต่กว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนได้นั้นต้องใช้เวลา เราจึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมองหาตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยให้การนอนหลับสนิทเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ คนไทยได้รู้จักกับ "เมลาโทนีน" ตัวช่วยให้หลับสบาย แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีตัวช่วยอื่นอีกที่ช่วยเรื่องการนอนหลับได้เช่นกัน พร้อมทั้งบำรุงสมอง และยังดูแลร่างกาย ได้พร้อมๆ กันไปด้วย
อย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยเรื่องการนอนหลับ "เมมพลัส" (Memplus) ที่มีส่วนผสมสำคัญ ช่วยในการนอนอย่างมีคุณภาพ ทั้ง แอล-ธีอะนีน สารสกัดธรรมชาติจากใบชาเขียว ที่นักวิจัยญี่ปุ่นค้นพบคุณสมบัติช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยให้พักผ่อนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี สารสำคัญจากเบอร์รี่ ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ MK Wellness ช่วยในเรื่องของความจำ และสมอง และ วิตามินรวม 9 ชนิด ที่มีวิตามินสำคัญเช่น วิตามินบี 12 ส่วนช่วยในการทำงานของระบบสมองและประสาท วิตามินซีและวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ที่ช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย
เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยในการนอนหลับ จากคนที่ข่มตานอนทุกคืน ก็ช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้นตั้งแต่คืนแรก พอเข้าคืนที่ 2 ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวจนนอนหลับได้นานขึ้น จากที่เคยตื่นกลางดึกก็กลายเป็นค่ำคืนแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง แถมตอนเช้าตื่นมา ก็รู้สึกสมองโล่ง สดใส ไม่เพลียระหว่างวัน พร้อมเริ่มต้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
"เมมพลัส" (Memplus) มี 2 ขนาด แบบกล่อง 5 ซอง (10 เม็ด) ราคา 220 บาท และแบบขวด (60 เม็ด) ราคา 1,200 บาท ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นช่วงแนะนำราคาพิเศษลดเหลือเพียง 169 บาท และ 799 บาท เท่านั้น
ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและซื้อได้ทาง
- Line Official @mkwellness
- www.mkwellnessmarket.com
- ร้านอาหารในเครือ MK ทุกสาขา (ได้แก่ MK Restaurant, MK Gold, MK Live, Yayoi, bizzy box และ Le petit)
เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนอน และเสริมด้วย "เมมพลัส" ก็จะช่วยพลัสคุณภาพการนอนให้สมองเข้าโหมดพักอย่างแท้จริง ตื่นเช้ามาสดใส พร้อมลุยได้ในทุกวัน!