เช็กก่อนใช้! Niacinamide ห้ามใช้กับอะไร จับคู่ผิดเสี่ยงผิวเสีย ควรรู้ก่อนหน้าพัง!
สาวๆ สายบิวตี้คงรู้จักกันดีกับ Niacinamide สารสกัดตัวฮิตเป็นมิตรต่อผิว! จนมีคำเคลมออกมาว่า เคลียร์ได้ทุกปัญหาผิว แต่สาวๆ แน่ใจได้อย่างไรคะว่าคำเคลมนี้เป็นจริง ไม่ได้อวยเพื่อเพิ่มยอดขาย? วันนี้เราจึงขอพาสาวๆ มาเช็กก่อนใช้! Niacinamide ห้ามใช้กับอะไร ดีจริงไหม ถ้าจับคู่ผิดเสี่ยงผิวเสียหรือไม่ เชื่อเลยว่าตอนนี้สาวๆ หลายคนคงมีคำถามในใจกันแล้ว ก็ขอบอกเลยค่ะว่าบทความนี้ตอบให้แบบเคลียร์ๆ หมดข้อสงสัยชัวร์! แต่ก่อนจะไขปัญหาข้องใจ ก็ต้องทำความรู้จักกับสารสกัดตัวนี้กันก่อนค่า
Niacinamide คืออะไร?
Niacinamide หรือ Vitamin B3 เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ มีความเสถียรสูง วิตามินตัวนี้ร่างกายของเราสามารถสร้างเองได้จากกรดอะมิโน Tryptophan จากอาหารที่เราทานเข้าไปเช่น เนื้อแดง ตับ อกไก่ ปลา ถั่ว อะโวคาโด ลูกพรุนค่ะ ซึ่งเจ้าวิตามินชนิดนี้เป็นวิตามินจำเป็นที่เราขาดไม่ได้ เพราะเค้านับเป็น Co-enzyme ที่สำคัญกับระบบต่างๆ ในร่างกายอย่างระบบเผาผลาญ ระบบประสาทและการทำงานของสมอง การสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ รวมถึงผิวพรรณของเราด้วย
ประโยชน์ของ Niacinamide ต่อผิว
Niacinamide นับเป็นหนึ่งในสุดยอดวิตามินบำรุงผิวที่เฟรนด์ลีกับทุกสภาพผิว แถมมีประโยชน์ต่อผิวหลายๆ ด้าน สกินแคร์หลายๆ แบรนด์จึงมีสารสกัดตัวนี้เป็นส่วนผสมในอันดับต้นๆ สำหรับใครที่อยากทราบว่า Niacinamide ดีงามกับผิวยังไง ก็เชิญตามมาส่องกันต่อค่ะ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ Ceramide ซึ่งเป็นไขมันธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบของผิวชั้นนอก โดยเซราไมด์ทำหน้าที่เคลือบผิว ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
- ช่วยลดการเกิดสิว ลดสิวอักเสบ ช่วยควบคุมความมัน ปรับสมดุลต่อมไขมันใต้ผิว
- ช่วยลดผื่นภูมิแพ้ที่ผิวหนัง ผื่นกุหลาบ อาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเต่งตึงกระชับ ริ้วรอยลดเลือนลง
- ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว ลดรอยแผลเป็น
คำถามยอดฮิต! Niacinamide กับวิตามินซี ไม่ควรใช้ร่วมกันจริงไหม?
จากกระแสที่ว่า Niacinamide กับวิตามินซีไม่ควรใช้ร่วมกัน แต่ทำไมใน Ingredient ของสกินแคร์หลายแบรนด์ยังใช้ทั้งสองสารสกัดนี้ร่วมกัน ใช้แล้วหน้าจะพังมั้ย? ซึ่งเราขอเฉลยว่า วิตามินซีที่ใช้ร่วมกับ Niacinamide ในสูตรของเค้าจะเป็นกลุ่มอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรและอ่อนโยนต่อผิวกว่าวิตามินซีชนิด Ascorbic Acid / L-Ascorbic Acid ค่ะ จึงใช้ร่วมกันได้ โดยจะให้ผลในแง่ของความกระจ่างใส
ส่วนคำถามที่ว่า วิตามินซีชนิด Ascorbic Acid / L-Ascorbic Acid ใช้ร่วมกับ Niacinamide จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ผิวหมองคล้ำ และระคายเคืองผิวจริงหรือมั่ว? ตอนนี้ยังไม่มีผลวิจัยที่แน่ชัดมารองรับค่ะ ดังนั้นใครที่ใช้สกินแคร์ Niacinamide กับวิตามินซีกลุ่มนี้และเป็นคนละขวดกัน เราขอแนะนำว่า อย่านำมามิกซ์รวมกันจะดีกว่า แต่ให้ใช้วิธีลงทีละชั้น โดยรอจนกว่าสกินแคร์ตัวแรกซึมเข้าสู่ผิวจึงใช้ตัวต่อไป ระยะเวลาห่างอย่างน้อย 15-20 นาที
Niacinamide ทาพร้อม AHAs ได้หรือไม่?
Niacinamide ไม่ควรใช้พร้อมกับ AHAs เพราะการจะทำให้ประสิทธิภาพของ AHAs ลดลง และวิธีการใช้ที่ถูกต้องคือ ใช้ทีละสเตปค่าสาวๆ โดยใช้ Niacinamide ก่อน ทิ้งไว้ 30 นาที ค่อยตามด้วย AHAs หรือถ้าเร่งรีบมากๆ ก็ต้องให้ตัวแรกซึมเข้าสู่ผิวอย่างน้อย 15-20 นาทีก่อนค่อยใช้ตัวต่อไป สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ลองเปลี่ยนเป็นตัวนึงใช้ตอนเช้า อีกตัวทาก่อนนอนนะคะ และอย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนใช้ด้วยน้า
Niacinamide ใช้คู่กับอะไรดี ผิวสวยขึ้น?
คู่จิ้นของ Niacinamide ในส่วนผสมของสกินแคร์ที่ดีงามกับผิวสาวๆ มีอะไรบ้าง ใช้แล้วให้ผลลัพธ์อย่างไร มาเช็กก่อนตำดีกว่า จะได้ไม่เฟล!
Niacinamide + Hyaluronic Acid
ใครที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวแห้งขาดน้ำ อยากได้สกินแคร์บำรุงผิวที่เติมน้ำให้ผิวแบบฉ่ำๆ ใช้แล้วผิวโกลว์ ดูสุขภาพดี และลดริ้วรอยได้ ก็ต้องใช้ Niacinamide ที่โดดเด่นเรื่องการสร้างเซราไมด์คู่กับ Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิวนี่เลยค่ะ ใช้แล้วจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ เต่งตึง ดูกระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น
Niacinamide + Vitamin C
สำหรับสกินแคร์ในสูตรที่มี Niacinamide ผสม Vitamin C คู่นี้จะเด่นเรื่องบูสต์ความสว่างกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ ด้วยคุณสมบัติของวิตามินซีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว กระชับรูขุมขน Niacinamide ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้จุดด่างดำจางลง ไม่เพียงเท่านี้ส่วนผสมทั้งคู่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น และชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์นั่นเองค่า
Niacinamide + Retinol
คู่จิ้นคู่นี้เป็น Anti-aging ที่ออกฤทธิ์ส่งเสริมกันและกัน โดย Retinol หรืออนุพันธ์ Vitamin A เค้าเป็นตัวตึงในการผลัดเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเต่งตึงยืดหยุ่นขึ้น และช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ลดเลือนลง ส่วน Niacinamide จะช่วยลดอาการระคายเคืองจาก Retinol ทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นขึ้น ปัจจุบันมีการนำสารสกัดสองตัวนี้มาปรับใช้ร่วมกันในสูตร เพื่อใช้ในการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดริ้วรอย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยและขาวกระจ่างใสขึ้นค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ