รีเซต

5 วิธีลดฝ้า กระ จุดด่างดํา ทำยังไงให้หน้ากระจาง ขาวใส เป็นธรรมชาติ

5 วิธีลดฝ้า กระ จุดด่างดํา ทำยังไงให้หน้ากระจาง ขาวใส เป็นธรรมชาติ
BeauMonde
4 มกราคม 2566 ( 11:13 )
420

     หากสาว ๆ กำลังเป็นรู้สึกกังวลกับจุดด่างดำและฝ้า ไม่ว่าจะเป็นรอยที่เกิดจากสิวหรือแสงแดด จุดด่างดำและความหมองคล้ำมักเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเกิดจากการที่ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น และเมื่อเกิดจุดด่างดำหรือรอยด่างดำแล้ว การจะทำให้จางหายไปอาจต้องใช้เวลา จุดด่างดำที่สีเข้มกว่าสีผิวธรรมชาติไม่กี่เฉดอาจจะจางลงได้ภายใน 6 - 12 เดือน แต่หากเป็นฝ้าหรือแผลเป็น อาจจะจำเป็นต้องใช้ผิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้สีจางลง

 

4 สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยดำ

 

  • การอักเสบ

     การบาดเจ็บที่ผิวหนัง เช่น สิว  แมลงกัด มีบาดแผล รอยถลอก หรือแม้กระทั่งรอยขีดข่วนและการเสียดสีจากการถูแรง ๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบได้ ซึ่งการอักเสบสามารถทำให้เซลล์ที่ผลิตเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น และทิ้งรอยดำไว้หลังจากอาการบาดเจ็บหายดีแล้ว

 

  • แสงแดด

     รังสี UV จากดวงอาทิตย์จะกระตุ้นการผลิตเมลานินให้เพิ่มขึ้นได้ และนอกจากนี้ผิวหนังที่โดนแสงแดดยังเสื่ยงที่จะเกิดฝ้าและเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย 

 

  • ฮอร์โมนผันผวน

     ฮอร์โมนผันผวนมักเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ และทำให้เกิดฝ้าที่มีลักษณะเป็นหย่อมสีน้ำตาลขึ้นบนใบหน้าได้ แต่นอกจากนี้ฝ้ายังเกิดขึ้นได้จากแสงแดด พันธุกรรม และการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาบางประเภท

 

  • ยาบางประเภทหรือการรักษาทางการแพทย์ 

     รอยด่างดำบนใบหน้าอาจเกิดจากโรคบางอย่าง ความผิดปกติในร่างกาย การยาบางชนิด รวมถึงการรักษาทางการแพทย์บางอย่าง เช่น การใช้ยาเคมีบำบัดบางชนิดก็ยังสามารถทำให้เกิดรอยดำชั่วคราวได้

 

 

5 วิธีลดฝ้า กระ จุดด่างดํา

 

1. ปกป้องผิวจากแสงแดด

     วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันไม่ให้สีผิวเปลี่ยน คือการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้ในวันที่มีเมฆมากหรืออากาศเย็น เพราะรังสียูวีสามารถกระตุ้นให้สีผิวเข้มขึ้นและเกิดจุดด่างดำเข้มขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งระหว่างเวลา 10.00 น. - 14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงแดดแรง รวมถึงให้สวมหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันศีรษะ ผิวหน้า หู และคอ ไม่ให้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง

 

2. รักษาความชุ่มชื้นของผิว

     แม้ว่าเป้าหมายหลักของเราคือการทำให้จุดด่างดำจางลง แต่การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก็มีประสิทธิภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผิวได้เช่นกัน นอกเหนือจากการแก้ปัญหาเรื่องเม็ดสีแล้ว ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์อาจจะต้องมีสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีนหรือกรดไฮยาลูโรนิก หรือในบางทีก็อาจจะเป็นเรตินอลเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีควรต้องช่วยฟื้นฟูลิปิดหรือไขมันของผิวหนังได้ ซึ่งช่วยให้เซลล์ผิวใหม่มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง

 

3. ระวังการแกะสิว เกา และการบาดเจ็บอื่น ๆ

     แม้จะอยากเกาเพราะยุงกัดหรือบีบสิวหัวดำดื้อ ๆ ที่ออกมาให้หมด แต่เราก็ควรนึกถึงคำเตือนไว้ว่า อย่าแกะหรือบีบสิว เพราะการเกา แคะหรือบีบตรงจุดใดจุดหนึ่งบนใบหน้า มีแต่จะเพิ่มการอักเสบที่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนของสีผิวได้ และยิ่งหากเรายุ่งกับมันมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดการอักเสบและเกิดรอยด่างดำรวมถึงแผลเป็นก็จะยิ่งมีมากเท่านั้น 

 

4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญ

     ยิ่งรักษารอยดำได้เร็วเท่าไหร่ รอยด่างดำพวกนี้ก็จะจางหายไปได้ง่ายขึ้นเท่านั้น  เพราะเม็ดสีน้ำตาลสามารถเคลื่อนที่ลึกลงไปในผิวหนังได้ ซึ่งส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถช่วยกำจัดจุดด่างดำได้คือสารจำพวกกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) ไกลโคลิก (Glycolic Acid) วิตามินซีและเรตินอยด์ 

 

5. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

     หากวิธีที่กล้าวมาข้างต้นยังไม่ได้ผล ก็ถึงเวลาโทรหาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนรักษา แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีไฮโดรควิโนน เนื่องจากไฮโดรควิโนนที่มีความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ถึงแม้จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้แต่อย่างไรสารชนิดนี้ก็ถือเป็นอันตรายหากใช้ไม่ถูกวิธี แพทย์ผิวหนังจะติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด และช่วยให้เราใช้ได้อย่างถูกวิธีโดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด หรือนอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยเลเซอร์ การกรอผิว หรือวิธีอื่น ๆ เพื่อกำจัดการผลิตเมลานินส่วนเกิน

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง