10 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้คู่กัน ... กลัวหน้าพัง ต้องอ่าน !!
ปัจจุบันนี้มีสกินแคร์ออกมามากมายเหลือเกิน แต่ละตัวนั้นก็มีส่วนผสมหลากหลายชนิด ซึ่งสาวๆ หลายคนเวลาที่เราใช้สกินแคร์นั้นก็ไม่ได้ใช้แค่ขวดเดียวแล้วจบ แต่บางคนก็ใช้ขวดนู้นขวดนี้ผสมกันเพราะแต่ละขวดก็ช่วยบำรุงในเรื่องต่างๆ กันไปค่ะ
สารประกอบในสกินแคร์นั้นสามารถช่วยบำรุงผิวของเราได้จริงแต่ก็ต้องใช้ให้ถูกค่ะ เพราะสารในสกินแคร์บางตัวนั้นก็ไม่ควรจะใช้คู่กัน แต่บางตัวใช้คู่กันแล้วกลับส่งผลดีค่ะ วันนี้เราจะมาบอกกันว่าสารในสกินแคร์ตัวไหนบ้างที่ไม่ควรจับคู่กันและตัวไหนบ้างที่สามารถใช้ด้วยกันได้ค่ะ
10 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ควรและไม่ควรใช้คู่กัน
1. Vitamin C และ Retinol
เรตินอลนั้นมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส เช่นเดียวกันกับวิตามินซีค่ะ แต่ว่าทั้ง 2 ตั้วนี้นั้นจะทำงานได้ดีในค่า pH ที่ต่างกัน การใช้ทั้ง 2 ตัวร่วมกันจึงไม่ทำให้ผิวดีขึ้น แต่จะไปลดประสิทธิภาพของตัวใดตัวหนึ่งแทน ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้สาวๆ ก็เลือกใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งก็พอค่ะ
2. Vitamin C และ Benzoyl Peroxide
สาวๆ ที่มีปัญหาสิวน่าจะคุ้นเคยกับชื่อสารทั้ง 2 ตัวนี้เป็นอย่างดีแน่ๆ ค่ะ สาร Benzoyl Peroxide หรือ BPO เป็นสารที่ช่วยในการละลายหัวสิว ซึ่งในบางรายที่ใช้สารตัวนี้ก็อาจจะมีอาการระคายเคือง แสบคัน และทำให้ผิวเป็นรอยแดงได้ ซึ่งเมื่อมาเจอกับวิตามินซีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วยแล้ว ยิ่งอาจจะทำให้ผิวหน้าของเราระคายเคืองมากกว่าเดิมก็ได้ค่ะ
3. Vitamin C และ AHA
AHA หรือ กรดผลไม้ มีส่วนที่ทำให้การทำงานของวิตามินซีลดลงได้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้นั้นก็เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งจะดีกว่า แต่หากว่าต้องการใช้ Vitamin C และ AHA จริงๆ ก็อาจเลือกเป็นใช้ Vitamin C ในตอนเช้า และใช้ AHA ในตอนกลางคืนก็ได้ แต่อย่างไรก็ต้องดูสภาพผิวของเราด้วยว่ารับไหวหรือเปล่าด้วยค่ะ
4. Vitamin B3 และ AHA
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้ผิวระคายเคือง แต่ก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมกัน ฉะนั้นเลือกใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ค่ะ เพราะวิตามิน บี3 นั้นช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและจะทำงานได้ดีในค่า pH ที่เป็นกลาง ในขณะที่ AHA เป็นสารที่ทำให้ค่า pH บนผิวนั้นไม่สมดุล เมื่อใช้ทั้ง 2 สารร่วมกันจึงทำให้วิตามิน บี3 ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรและเป็นการสิ้นเปลืองเปล่าๆ ค่ะ
5. AHA/BHA และ Retinol
ทั้ง AHA/BHA และเรตินอลนั้นมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว การใช้สารทั้ง 2 ชนิดนี้คู่กันจะส่งผลให้ ผิวแห้ง ผิวลอก ผื่นแดงและระคายเคือง รวมถึงยังสามารถส่งผลให้ผิวคล้ำขึ้นได้ด้วยค่ะ
6. Retinol และ Scrub
เช่นเดียวกัันกับการใช้เรตินอลคู่กับ AHA/BHA ค่ะ การใช้เรตินอลคู่กับการสครับผิวและขัดผิวจะยิ่งทำให้ผิวหนังระคายเคือง เป็นผื่นแดง รวมถึงมีอาการผิวแห้งและผิวลอกได้ หากช่วงนี้สาวๆ ใช้เรตินอลอยู่ก็ให้เว้นการสครับผิวไปก่อนค่ะ
7. กรด Salicylic และ กรด Glycolic
ถือเป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดีทั้งคู่หากทำงานแยกกันค่ะ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ทั้ง 2 ตัวนี้มาเจอกันก็จะส่งผลให้ผิวของเราระคายเคืองได้ ยิ่งในสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรด Salicylic หรือ กรด Glycolic ในปริมาณที่สูง ยิ่งต้องระมัดระวังในการใช้คู่กันค่ะ
8. Vitamin C และ Vitamin E
เรียกได้ว่าเป็นคู่ซี้ที่ช่วยเร่งให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ ซึ่งทั้งวิตามินซีและวิตามินอีนั้น ถือเป็นวิตามินที่ช่วยปกป้องผิวได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวไหม้แดดได้ ถึงแม้ว่าทั้งวิตามินซีและวิตามินอีนั้นสามารถทำงานได้เดี่ยวๆ แต่หากจับคู่กันแล้วก็สามารถออกฤทธิ์ส่งเสริมกันได้ดีค่ะ
9. hyaluronic acid และ Retinol
เหมาะแก่การนำมาจับคู่กันค่ะ เพราะผลข้างเคียงของเรตินอลนั้นจะทำให้ผิวแห้ง ผิวลอก เป็นผื่นแดง คันและระคายเคืองได้ ในขณะที่ hyaluronic acid มีส่วนช่วยเติมเต็มน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งลอก การจับคู่กันของ hyaluronic acid และเรตินอลนั้นจะช่วยลดการเกิดปัญหาผิวแห้งลอกได้ค่ะ
10. Vitamin C และ Ferulic Acid
เฟอรูลิคเป็นสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเมื่อใช้คู่กับวิตามินซีก็สามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ดีค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้คู่กับวิตามินอีได้ด้วยซึ่งเมื่อใช้ทั้ง 3 ตัวคู่กันแล้ว จะทำให้ผิวของเราทนต่อแสงแดดได้ดีขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีขึ้นค่ะ
.........................................
อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน
ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!
บทความที่คุณอาจสนใจ
8 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่คนผิวบอบบางแพ้ง่ายควรระวัง ยิ่งใช้ยิ่งแพ้ หาสาเหตุไม่ได้ซักที นี่คือคำตอบ!
2 วิธีกินวิตามินซี กินยังไง กินคู่กับอะไรถึงได้ผล...สำหรับคนอยากขาว