เช็คสภาพ "ผิวหน้า" ก่อนบำรุง ดูแล และรักษาให้เรียบเนียนใส
เรื่องราวของ "ความงาม" ยังคงเป็นเรื่องสำคัญของหญิงสาวเสมอ โดยเฉพาะกับใบหน้ายิ่งแล้ว ยิ่งทำให้เราใส่ใจเป็นพิเศษ ท่ามกลางมลพิษในขณะนี้
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จึงมีความรู้เรื่องของ "ผิวหน้า" มาฝาก ซึ่งเราหวังจะให้ผู้หญิงทุกคนได้รู้จัก "สภาพผิวหน้า" ของตัวเอง ก่อนที่จะดูแล บำรุง และรักษาให้ถูกวิธี แถมยังมีประโยชน์อย่างมากต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ทั้งนี้ ดร.โจเซฟ วาย แชง หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส อิ้งค์ ได้บอกว่า ขณะนี้ "ฝุ่นละออง" ขนาดเล็ก PM2.5 นี้ ถือเป็นปัญหาต่อสภาพผิวหน้าเป็นอย่างมาก เราจึงต้องดูใบหน้าเราเป็นอย่างดี ซึ่งเราต้องรู้จักถึงสภาพผิวพรรณ และผิวหน้าของเราอย่างดีก่อน ก่อนที่เราจะไปเลือกผลิตภัณฑ์ ครีมบำรุง เพื่อดูแลรักษาผิวหน้าของเราต่อไป
ประเภทผิวของเรา ซึ่งแบ่งประเภทผิวหลักๆ คือ
1. ผิวแห้ง (Dry Skin)
"ผิวแห้ง" จะเป็นผิวที่ละเอียดบอบบางและจะเป็นริ้วรอยได้ง่าย การใช้สบู่ทำความสะอาดผิว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า จะยิ่งทำให้ผิวแห้งแตกได้ง่ายยิ่งขึ้น ควรใช้โฟมไม่มีฟอง หรือเจลล้างหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้น และตามด้วยครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นและอ่อนโยน
2. ผิวมัน (Oily Skin)
คน "ผิวมัน" จะมีผิวที่ค่อนข้างหยาบ รูขุมขนใหญ่ และมักจะเป็นสิวหัวดำ เนื่องจากไขมันไปอุดตันรูขุมขน ข้อดีของการมีผิวมันก็คือ ผิวหน้าเหี่ยวย่นช้ากว่าชนิดอื่นๆ ความเข้าใจที่ผิดสำหรับคนผิวมัน คือ การพยายามใช้สบู่หรือครีมล้างหน้าที่แรงๆ เพื่อที่จะควบคุมน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง แต่รู้หรือไม่ว่าการทำเช่นนี้แทนที่จะเป็นการกำจัดน้ำมันส่วนเกิน กลับเป็นการกระตุ้นผิวหนังให้ผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น จึงควรดูแลผิวหนังชนิดนี้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปราศจากน้ำมัน และควรพอกหน้าด้วยสมุนไพร และอบไอน้ำเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน เพื่อป้องกันการเกิดสิวหัวดำ
3. ผิวผสม (Combination Skin)
"ผิวผสม" คนที่มีผิวชนิดนี้มักจะมีสิวหัวดำบริเวณจมูก และมีสิวขึ้นบริเวณหน้าผากและคาง ควรดูแลผิวด้วยวิธีผสมผสานระหว่างการดูแลผิวธรรมดาหรือผิวแห้งในส่วนที่เป็นผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง และใช้วิธีดูแลผิวมันในบริเวณที่เป็นผิวมัน โดยผิวชนิดนี้เป็นผิวผสมระหว่างผิวธรรมดาหรือผิวแห้งกับผิวมัน การจะรู้ได้ว่ามีผิวผสมหรือไม่ ให้ใช้กระดาษเช็ดหน้าแผ่นใหญ่ปิดทับไปบนใบหน้าทั้งหน้าทันทีหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หากปรากฏน้ำมันเป็นรูตัว “T” บนกระดาษ คือ บริเวณหน้าผาก สันจมูก จนถึงปลายคาง
4. ผิวเซนซิทีฟ (Sensitive Skin)
คือ "ผิวหน้าแพ้ง่าย" เกิดรอยแดง เกิดผื่น เกิดสิวได้ง่ายกว่า โดยคนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับปัญหาที่ต้องเลือกใช้พวกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ ข้อแนะนำคือก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ควรทดสอบกับท้องแขนก่อน ถ้าท้องแขนเราไม่เกิดรอยแดงอะไรก็สามารถเลือกใช้ได้
ทีนี้สาวๆ ก็รู้จักผิวหน้าของตัวเองดีแล้ว เดี๋ยววันหน้า ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาบอกเคล็ดลับหรือวิธีดูแลผิวหน้าแต่ละชนิดอีกครั้ง รวมไปถึงการล้างหน้าอย่างถูกวิธีด้วย.