ผู้หญิงควรรู้! 12 สิ่งห้ามใช้กับหน้า ถ้าไม่อยากผิวเสีย

ปัญหาใหญ่ที่กวนใจสาวๆ ก็คือ ปัญหาผิว ไม่ว่าจะ ผิวเสีย ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรนิด โดนอะไรหน่อยก็ระคายเคืองซะแล้ว ทำให้หาครีมบำรุงก็ยาก เมคอัพก็ไม่สวย โดยปกติแล้วปัญหาผิวแพ้ง่ายเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม สภาพแวดล้อม อากาศที่เปลี่ยนแปลง ความเครียด การพักผ่อน และอื่นๆ อีกมากมาย แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ใครหลายคนอาจนึกไม่ถึงก็คือ การที่ผิวต้องสัมผัสโดนสารกระตุ้นให้แพ้อยู่เป็นประจำ ทั้งที่เราคิดว่ามันดีแต่มันกลับไม่ดีอย่างที่คิด (คลิกอ่าน เลิกด่วน! 7 นิสัยทำผิวแย่ แพ้หนักมาก ที่สาวๆ มักทำโดยไม่รู้ตัว) แม้กระทั่งสูตรดูแลผิวแบบ DIY บางสูตรที่บอกว่าใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ก็อาจมีสิ่งต้องห้ามสำหรับผิวเช่นกัน เมื่อเจอบ่อยเข้า จากหน้าใสไร้สิว ก็อาจกลายเป็นผิวแพ้ง่ายโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะ 12 สิ่งต้องห้ามต่อไปนี้ค่ะ

1. สเปรย์ฉีดผม

ใครจะรู้ว่าเจ้าละอองฝอยเล็กจิ๋วจะสามารถทำร้ายผิวได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะสเปรย์มีแลคเกอร์และแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ยิ่งฉีดสเปรย์มากเท่าไหร่ ผิวก็ยิ่งขาดน้ำและแก่ก่อนวัยมากเท่านั้น แถมสเปรย์ยังมีสารกันน้ำซึมที่ช่วยให้ผมอยู่ทรง แต่กลับทำให้ผิวเสียสวย เพราะสารนี้จะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง แดงและเป็นผดง่าย ดังนั้นครั้งต่อไปที่ฉีดสเปรย์ ควรหาอะไรมากันหรือปิดผิวหน้าเอาไว้เสมอนะคะ ส่วนคนที่ชอบใช้สเปรย์ฉีดหน้าเพื่อเซ็ทเมคอัพให้ติดทนควรเลิกทำด่วน หันมาใช้น้ำแร่ฉีดผิวดีกว่าค่า

2. ยาย้อมผม

ถ้าอยากแมทช์สีคิ้วให้เข้ากับสีผม อย่าได้เอายาย้อมผมมาย้อมสีคิ้วเป็นอันขาดนะคะ เพราะผิวรอบดวงตาถือเป็นบริเวณที่มีชั้นผิวบางที่สุดในร่างกาย หากนำยาย้อมผมมาย้อมคิ้วจะทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดการระคายเคือง และยังส่งผลเสียต่อดวงตาอีกด้วยค่ะ ทางที่ดีควรเลือกใช้มาสคาร่าย้อมสีคิ้วแทนจะดีกว่า เพราะมีส่วนผสมที่อ่อนโยนกว่ามาก (คลิกอ่าน วิธีเขียนคิ้วสวยๆ ให้เข้ากับรูปหน้า น่ารักดูดีทุกสไตล์)

3. เนยขาว

บางคนใช้เนยขาวทาตัวเพื่อบรรเทาอาการของโรคสะเก็ดเงิน หรือแม้กระทั่งนำไปเช็ดเครื่องสำอางแทนเมคอัพรีมูฟเวอร์ แต่อันที่จริงแล้วเนยขาวนั้นหนักและเหนอะเกินไปสำหรับผิวหน้า หากใช้ต่อเนื่องนานๆ จะไปอุดตันรูขุมขนและเกิดสิวตามมาได้ค่ะ

4. โลชั่นทาตัว

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากให้มีครีมที่ทาได้ทั้งหน้าและตัวในหนึ่งเดียวใช่ไหมคะ แต่การแยกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าและผิวกายนั้นมีเหตุผลค่ะ เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ผิวกายจะมีชั้นผิวหนากว่า ทนทานต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้มากกว่า ทำให้โลชั่นทาตัวมักมีส่วนผสมที่หนักกว่าและมีน้ำหอมผสม ซึ่งหากไปใช้กับผิวหน้าที่บอบบางจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นการออกแบบครีมทาหน้าจึงละเอียดอ่อนและมีต้นทุนสูงกว่า แต่ก็เหมาะกับผิวหน้ามากที่สุดเช่นกัน จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวแต่ละส่วนจะดีที่สุดค่ะ (คลิกอ่าน ทาครีมยังไงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด!)

5. แชมพูและครีมนวดผม

สารชะล้างต่างๆ ในแชมพูถูกออกแบบมาให้กำจัดบรรดาไขมันและสิ่งสกปรกบนเส้นผม แต่เดี๋ยวก่อน! มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผิวหน้าอันบอบบางของเราเลยสักนิด หากสัมผัสโดนผิวหน้ามากเข้า จะทำให้ผิวแห้ง แดง และลอกเป็นขุยง่าย ส่วนครีมนวดผมนั้นก็มีโมเลกุลที่หนักเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้ง่าย หากใครชอบเป็นสิวเป็นผดบริเวณไรผมหรือกรอบหน้าล่ะก็ให้สงสัยสาเหตุนี้ไว้ได้เลย และเพื่อป้องกันปัญหานี้ ทุกครั้งที่สระ-นวดผมเสร็จแล้ว ควรล้างหน้าอีกครั้งเพื่อล้างเอาแชมพูและครีมนวดบนใบหน้าออกอีกครั้งนะคะ

6. ซีรั่มใส่ผม

แม้จะมีคำว่า “ซีรั่ม” ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกเหมือนซีรั่มที่ใช้กับผิวหน้า เพราะซีรั่มใส่ผมจะมีเนื้อหนักและเหนอะ นอกจากทำให้ผิวมันอุดตันง่ายแล้ว ยังมักผสมน้ำหอมและสารที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นหากใส่ซีรั่มแล้วก็ไม่ควรใส่เยอะเกินไปและใส่เฉพาะปลายผมเท่านั้น หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรให้ผมปรกหน้าเลย โดยเฉพาะสาวผิวมันที่มักมีสิวอุดตันง่ายเป็นพิเศษยิ่งควรเลี่ยงค่ะ

7. ยาทาเล็บ

หลายต่อหลายครั้งที่สาวปาร์ตี้อย่างเราต้องเพ้นต์หน้าให้โดดเด้ง แต่ไม่ใช่ด้วยยาทาเล็บนะคะ ปล่อยให้มันอยู่กับเล็บนั่นล่ะดีที่สุดแล้ว เพราะโมเลกุลของอะครีลิกในยาทาเล็บจะทำให้ผิวแห้งสุดๆ เลยล่ะค่ะ

8. มะนาวและน้ำส้มสายชู

สูตรดูแลผิวแบบ DIY บางสูตรมักใช้มะนาวมาแต้มรอยสิว หรือใช้น้ำส้มสายชู Vinegar เช็ดหน้าแทนโทนเนอร์เพื่อกระชับรูขุมขน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคน ยิ่งสำหรับสาวผิวบอบบางเป็นทุน อาจทำให้ผิวไหม้ แสบ แดง และลอกเป็นขุยได้ ทางที่ดีควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวไว้ก่อนจะดีกว่าค่ะ

9.มายองเนส

คนมักคิดว่าเมื่อมันใช้บำรุงผมได้ มันก็ต้องใช้บำรุงผิวได้ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วมายองเนสมีความเป็นกรดสูง และยังอุดตันรูขุมขนได้ง่ายมากชนิดที่ผิวหายใจไม่ออกกันเลยทีเดียว ถึงจะเวิร์คกับผม แต่ไม่เวิร์คกับผิวเอาซะเลย

10.เบกกิ้งโซดา

ถือเป็นหนึ่งในไอเทมสุดฮิตที่สาวๆ เอามาขัดผิวขจัดสิวเสี้ยน แต่รู้ไหมว่าความเป็นด่างของเบกกิ้งโซดาสามารถทำลายเกราะคุ้มกันผิว ทำให้ผิวอ่อนแอได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้บ่อย ไม่ควรขัดนานๆ เมื่อขัดเสร็จแล้วก็ควรรีบบำรุงผิวเติมความชุ่มชื่นทันที หรือทางที่ดีคือเลิกใช้ไปเลยจะดีที่สุดหากคุณเป็นคนผิวแพ้ง่ายค่ะ

11.ยาสีฟัน

ฮิตกันมากโดยเฉพาะเวลาเป็นสิว เพราะเชื่อกันว่าการแต้มยาสีฟันจะทำให้สิวยุบเร็วขึ้น แต่อีกด้านที่ไม่มีใครรู้คือ ยาสีฟันเต็มไปด้วยส่วนผสมที่ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง หากทิ้งไว้นานเกินไปสามารถทำให้ผิวไหม้กลายเป็นรอยแผลด่างดำได้เลยทีเดียวค่ะ

12.น้ำตาล

แม้จะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่เก็บไว้ใช้กับตัวและริมฝีปากจะเหมาะสุด เพราะเนื้อหยาบๆ ของน้ำตาลไม่ละเอียดพอสำหรับผิวหน้า หากเอามาขัดหน้าแล้วมีหวังผิวชั้นนอกได้ถลอกปอกเปิก และอาการระคายเคือง แพ้ง่ายจะตามมาติดๆ ค่ะ

นอกจาก 12 สิ่งควรเลี่ยงข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือ สาวๆ ควรหาทางผ่อนคลายความเครียด ยิ้ม และหัวเราะบ่อยๆ ด้วยอีกทางนะคะ เพราะหากฮอร์โมนในร่างกายสมดุล ก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรง เปลั่งปลั่ง ดูสวยใสสุขภาพดีไปอีกนานค่ะ

ติดตาม women.truelife.com ได้ที่

We are women’s best friend.