สิวสเตียรอยด์ คืออะไร วิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ ให้หายขาด ไม่มีสิวเห่ออีก
สิวสเตียรอยด์ ปัญหาสิวที่น่าปวดหัวที่สุด เพราะสิวสเตียรอยด์นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งชนิดสิวค่ะ ที่ต้องใช้เวลารักษาให้หายขาดไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังเป็นสิวที่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็ทำเอาหน้าพังทั้งหน้าเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกันค่ะว่า จริงๆ แล้วสิวสเตียรอยด์นั้นคืออะไร มีลักษณะอย่างไร และถ้าเป็นแล้วจะรักษาอย่างไรได้บ้าง!
สิวสเตียรอยด์ คืออะไร
ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้ว สารสเตียรอยด์นั้น เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นได้เองค่ะ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น ต้านการอักเสบ ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ หรือกดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น แต่ในทางการแพทย์นั้นได้มีการสังเคราะห์เลียนแบบสเตียรอยด์ที่ร่างกายสร้างขึ้นมา เป็นสารสเตียรอยด์สังเคราะห์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย แต่สารตัวนี้นั้นแม้จะนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ดีแต่ก็มีผลข้างเคียงมากมายเช่นกัน อย่างการทำให้เกิดสิวสเตียรอยด์นั่นเองค่ะ
โดยสารสเตียรอยด์นั้นมักจะพบได้ในครีมทาสิว ครีมรักษาสิว ยาแต้มสิว รวมไปถึงครีมหน้าขาว หน้าใสต่างๆ ซึ่งเมื่อเรามีการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นประจำ ช่วงแรกๆ ก็จะทำให้ผิวหน้าของเราใสขึ้น สิวหาย แต่เมื่อนานวันเข้าก็จะเกิดอาการแพ้ สิวปะทุอย่างหนัก ซึ่งสิวที่ว่านั้นก็คือ สิวสเตียรอยด์ นั่นเอง
ลักษณะของสิวสเตียรอยด์
หลายๆ คนอาจจะแยกไม่ออกว่าแล้วสิวสเตียรอยด์นั้นต่างกับสิวอักเสบหรือสิวอื่นๆ อย่างไร วิธีสังเกตง่ายๆ อย่างแรกเลยก็คือ หากคุณมีการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีการโฆษณาอย่างหนักว่าสิวหายได้ภายใน 1-3 วัน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่บอกว่าใช้แล้วหน้าจะขาว ใสกิ๊งเหมือนกระจก หลังจากใช้ผลิตภัณฑืเหล่านี้แล้วหน้าดีขึ้นแต่อยู่ๆ ก็สิวเห่อขึ้นอย่างหนัก ก็สันนิษฐานได้เลยค่ะว่าคุณเป็นสิวสเตียรอยด์แล้วล่ะ นอกจากนี้แล้วลักษณะของสิวสเตียรอยด์ยังมีลักษณะที่สังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
- มีสิวผด สิวอุดตันขึ้นเป็นปื้นๆ แดงๆ
- ผิวเป็นปื้นแดงๆ เหมือนแพ้อะไรมา
- มีสิวเม็ดแดงๆ ขึ้นกระจายทั่วไปหน้า หรือกระจุกรวมกันบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์
- หากเป็นสิวอักเสบ ก็จะอักเสบเป็นหัวแดงๆ เม็ดใหญ่และเจ็บ
- มีอาการคัน
วิธีรักษาสิวสเตียรอยด์
1. หยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง
อย่างแรกที่ควรทำเลยก็คือ หยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างค่ะ อย่าวนอยู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่บอกว่าใช้แล้วสิวจะหาย เพราะนั่นอาจทำให้คุณวนกลับมาเป็นสิวอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทางที่ดีคือหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างให้หมด เพื่อให้ผิวหน้าได้พักจากการรับสารต่างๆ
2. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
แรกเริ่มอาจจะต้องหยุดการใช้โฟมล้างหน้าและล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าไปก่อนค่ะ แต่หากพบว่าผิวเริ่มมีอาการดีขึ้น จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีสารอันตรายต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม ซิลิโคน สบู่ ก็ได้เช่นกัน แต่ควรเลือกให้แน่ใจค่ะว่าอ่อนโยนต่อผิวจริงๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่ใบหน้าค่อนข้างบอบบาง อาจจะทำให้สิวยิ่งอักเสบขึ้นได้
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง
เมื่อเริ่มหยุดการใช้สเตียรอยด์ไปได้สักพัก ก็แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นค่ะ เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ส่วนผสมนี้จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และแข็งแรงขึ้นด้วย
4. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และเมื่อต้องออกไปเจอแสงแดดแนะนำให้ใส่มาส์กหรือหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน เพราะแดดจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองและสิวเห่อมากขึ้น
5. ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำมากๆ ก็ช่วยรักษาสิวได้เช่นกันค่ะ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยขับของเสียและสารต่างๆ ออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น และเมื่อผิวของเราแข็งแรงขึ้น สิวก็จะไม่มากวนใจอีกต่อไปค่ะ
6. ไม่สครับ ลอก หรือนวดหน้า
ช่วงที่ใบหน้ามีสิวเห่อ ต้องไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นไปอีกค่ะ ต้องงดการสครับ หรือนวดหน้าไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้มากขึ้น
เมื่อทำตามวิธีเหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมนะคะว่า ก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรหาข้อมูลให้แน่ชัดก่อนว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีสารสเตียรอยด์หรือไม่ เพื่อไม่ให้สิวสเตียรอยด์กลับมาถามหาอีกครั้ง!
บทความที่คุณอาจสนใจ
- สิวขึ้นคางเกิดจากอะไร สาเหตุของสิวที่คาง พร้อมวิธีรักษาสิวที่คาง
- 5 วิธีรักษาสิวไม่มีหัว สิวยุบทันใจ ไม่ทิ้งรอยดำ