รีเซต

เท้าบวม🦶 สัญญาณสารพัดโรค❗ โรคหัวใจ-ไต-ตับแข็ง-ครรภ์เป็นพิษ-เท้าช้าง 🚨 ❗

เท้าบวม🦶 สัญญาณสารพัดโรค❗ โรคหัวใจ-ไต-ตับแข็ง-ครรภ์เป็นพิษ-เท้าช้าง 🚨 ❗
หมอดี
11 สิงหาคม 2566 ( 10:45 )
676
เท้าบวม🦶 สัญญาณสารพัดโรค❗ โรคหัวใจ-ไต-ตับแข็ง-ครรภ์เป็นพิษ-เท้าช้าง 🚨 ❗

     หากไม่ได้หกล้ม ตั้งครรภ์ หรือต้องยืนทำงานนาน ๆ แต่มีอาการเท้าบวมผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคร้ายต่าง ๆ ได้ค่ะ

 

 

แบบไหนเรียกว่า 'เท้าบวม' ผิดปกติ❓

- สวมรองเท้าไซส์เดิม แต่รู้สึกคับมาก

- ผิวบริเวณเท้าตึง จนไม่เห็นรอยย่นบนผิวหน้าเท้า

- กดแล้วมีรอยบุ๋มค้าง เนื้อผิวไม่เด๋งกลับ

- เท้าบวมที่มีอาการปวด

 

 'เท้าบวม' เสี่ยงโรคอันตรายอะไรได้บ้าง❓

1) โรคหัวใจ : ถ้ามีภาวะหัวใจวาย หรือน้ำท่วมปอด อาจทำให้ขาหรือเท้าบวม กดบุ๋มได้ทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน  โดยอาจรู้สึกเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ ร่วมด้วย

2) โรคไต : เมื่อไตวายเรื้อรัง จะมีภาวะน้ำเกิน จนขาหรือเท้าบวม จะกดแล้วเกิดรอยบุ๋มได้ทั้งสองข้างเท่าๆ กัน  โดยมีอาการเหนื่อยหอบจากน้ำท่วมปอด ปัสสาวะน้อยจากไตวาย ร่วมด้วย

3) โรคตับแข็ง : นอกจากทำให้เท้าบวมแล้ว มักพบอาการท้องบวมโตจากการมีน้ำในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย

4) ครรภ์เป็นพิษ :  หญิงมีครรภ์ อาจเท้าบวมได้เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพบว่าหน้าบวม มือบวม กดผิวตรงเท้าแล้วบุ๋มลงไปไม่คืนตัวกลับมา หรือมีอาการปวดศีรษะรุนแรง  อาจเสี่ยงครรภ์เป็นพิษได้

5) โรคเท้าช้าง : เกิดจากต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ทำให้ผิวหนังที่เท้าหนาขรุขระ บวมโต แต่กดแล้วไม่บุ๋ม 

6) ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก : มีอาการเท้าบวมกดบุ๋ม อาจเป็นแค่ข้างเดียวได้ และมีอาการเจ็บร่วมด้วย

 

 

     นอกจากนี้ อาการเท้าบวม ยังอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด โรคเบาหวาน หรือโรคอื่น ๆ อีกได้  ทางที่ดี เมื่อพบว่าขาหรือเท้าบวมผิดปกติ แนะนำให้ลองปรึกษาแพทย์ออนไลน์บนแอปฯ หมอดี เพื่อช่วยวินิจฉัยสาเหตุเบื้องต้นก่อนได้  สะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน พร้อมรอรับยาสบาย ๆ ได้ที่บ้าน

👨‍⚕ สาระน่ารู้จาก คุณหมอชนากานต์ วุฒิประยูร แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป  บนแอปฯ หมอดี

 

📲 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการปรึกษาแพทย์ ผ่านแอปฯ หมอดี

  1. ดาวน์โหลดแอปฯ คลิก>> https://mordee.app.link/6grJOklEqpb จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน
  2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯ กดแถบค้นหา สำหรับโรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก แนะนำให้เลือกแผนกเด็ก หรือแผนกโรคทั่วไป
  3. เลือกแพทย์หรือเภสัชกรที่ต้องการปรึกษา และทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอล โทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือกรอกโค้ดส่วนลด (ถ้ามี)
  4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษาแพทย์ เมื่อถึงเวลานัดหมาย
  5. รอสรุปผลการปรึกษาจากแพทย์ พร้อมใบสั่งยา(หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้

💬 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @mordeeapp

👉👉 อ่านสาระสุขภาพจากแอปฯ หมอดี เพิ่มเติม คลิก >> https://mordeeapp.com/th/article

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง