อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่คุณควรมีติดบ้านไว้ เพื่อเพิ่มความฟิตแอนด์เฟิร์ม

เดี๋ยวนี้คนเริ่มหันมาออกกำลังกายที่บ้านเยอะขึ้น ยิ่งเมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้เกิด “นิว นอร์มอล” (New Normal) หรือไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากตอนก่อนมีโรคระบาด ที่ทำให้เราเลือกออกกำลังกายที่บ้าน หรือออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนตัวกันมากขึ้น เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค สำหรับใครที่อยากเริ่มออกกำลังกายที่บ้าน เราก็มี อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่คุณควรมีติดบ้านไว้มาแนะนำ จะได้ออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ ฟิตแอนด์เฟิร์มกันแบบสุด ๆ ไปเลย

อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่ควรมีติดบ้าน

เชือกกระโดด

เชือกกระโดดเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่หลายคนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะหาซื้อได้ง่าย มีรูปแบบและราคาให้เลือกหลากหลาย จะใช้แบบเชือกธรรมดาที่เห็นทั่วไป หรือจะอัพเกรดไปใช้เชือกกระโดดแบบมีเครื่องนับจำนวนอัตโนมัติให้ด้วยก็ได้ คุณสามารถเลือกออกกำลังกายโดยใช้เชือกกระโดดได้หลายระดับความเข้มข้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายและเป้าหมายที่ต้องการ แต่ไม่ว่าจะระดับไหน ก็ท้าทายและสนุกแน่นอน

ดัมเบล

ดัมเบลก็ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ออกกำลังกายที่คุณควรมีติดบ้านไว้ เพราะราคาไม่แพง แถมใช้ออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance Exercise) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและกล้ามเนื้อได้เป็นประจำทุกวันด้วย

โดยปกติแล้วดัมเบลจะมีแบบน้ำหนักคงที่ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายใหม่ ๆ  และแบบปรับน้ำหนักได้ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายมาสักระยะแล้ว และอยากเพิ่มหรือลดน้ำหนักของดัมเบลตามต้องการ หรือหากใครไม่อยากซื้อดัมเบลแบบน้ำหนักคงที่หลายขนาดน้ำหนัก การซื้อดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

รองเท้าออกกำลังกาย

หากคุณอยากลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา การเลือกซื้อรองเท้าออกกำลังกายให้เหมาะสมกับชนิดของการออกกำลังกายที่ต้องการ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด

ปัจจุบันมีรองเท้าออกกำลังกายให้เลือกซื้อมากมาย เช่น รองเท้าวิ่ง รองเท้าเทรนนิ่ง รองเท้าสำหรับกีฬากลางแจ้ง รองเท้าสำหรับกีฬาที่เล่นในคอร์ท (เช่น แบดมินตัน วอลเลย์บอล บาสเกตบอล) ฉะนั้น คุณควรเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะกับชนิดของการออกกำลังกายและรูปเท้าของตัวเอง อย่าคิดว่าซื้อของแพงที่สุดแล้วจะดีที่สุดเสมอไป

ลูกบอลโยคะ หรือฟิตบอล

แรกเริ่ม ลูกบอลโยคะหรือฟิตบอลถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเพิ่มความยืดหยุ่นและการทรงตัวให้กับผู้ป่วยกายภาพบำบัด ก่อนจะถูกพัฒนามาใช้ในการบริหารร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ ข้อดีคือ สามารถปรับใช้กับการออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ เช่น แอโรบิก โยคะ ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย และช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของร่ายกายได้ในหลายด้าน เช่น ความยืดหยุ่น การทรงตัว การประสานงานของระบบประสาท ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เรียกได้ว่า มีแค่ลูกบอลลูกเดียว คุณก็สามารถออกกำลังกายได้หลายหลาย ไม่มีเบื่อ

เสื่อโยคะ

นอกจากเอาไว้ฝึกโยคะแล้ว คุณยังสามารถใช้เสื่อโยคะในการออกกำลังกายหรือบริหารร่างกายบนพื้นอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น การวิดพื้น การซิทอัพ การแพลงก์ เพราะเสื่อโยคะช่วยลดแรงกระแทก และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเวลาที่คุณออกกำลังกายบนพื้นแข็ง ๆ เช่น ทำท่าแพลงก์แล้วลื่นเหงื่อจนข้อมือเคล็ด วิดพื้นแล้วลื่นเหงื่อจนหน้ากระแทกพื้น การซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างเสื่อโยคะสักผืนนับว่าคุ้มค่ามาก หากเทียบกับค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการพักรักษาตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุในการออกกำลังกายดังกล่าว

โฟมโรลเลอร์ หรือโฟมนวดกล้ามเนื้อ

โฟมโรลเลอร์ (Foam Roller) หรือโฟมนวดกล้ามเนื้อ เป็นแท่งโฟมอัดแน่น ทรงกระบอก ที่เอาไว้ใช้สำหรับนวดคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงตัวมากเกินไป และช่วยบรรเทาอาการเจ็บกล้ามเนื้อ แก้ปวดเมื่อย ซึ่งเหมาะมากสำหรับใช้หลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา หากคุณใช้อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีไม่แพ้การนวดที่ร้านเลยทีเดียว

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเลือกใช้ อุปกรณ์ออกกำลังกาย

ก่อนคุณจะเลือกซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายสักชิ้นมาใช้งาน คุณต้องจำไว้ด้วยว่า...

• อุปกรณ์ออกกำลังกายแต่ละชนิดนั้นมีหลายรูปแบบ หลายราคา หลายขนาด ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณควรศึกษาข้อมูลให้ดี หากไม่แน่ใจก็สามารถขอคำแนะนำจากพนักงานขาย หรือผู้เชี่ยวชาญประจำร้านค้าได้ จะได้เลือกอุปกรณ์ออกกำลังกายได้เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
• หากทำได้ อย่าลืมลองอุปกรณ์ก่อนซื้อ และอย่าลืมถามหาการประกันสินค้าด้วย
• ต่อให้เป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุด หรือราคาแพงที่สุด คุณก็ต้องใช้ออกกำลังกายเป็นประจำถึงจะเห็นผล
• ก่อนใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายใด ๆ ควรศึกษาวิธีใช้งานให้เข้าใจก่อน ถ้ามีข้อสงสัยก็ควรสอบถามพนักงานขาย เพราะหากคุณใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายผิดวิธี อาจทำให้การออกกำลังกายของคุณไม่เห็นผลเท่าที่ควร หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชั่วคราวหรือถาวรได้

เคล็ดลับกระตุ้นตัวเองให้อยากออกกำลังกายที่บ้าน

ในเมื่อเรามีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำในลำดับต่อไปก็คือ การออกกำลังกายให้ได้เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือวันละ 30 นาที แต่สำหรับใครที่ไม่อยากออกกำลังกาย เราก็มีวิธีกระตุ้นตัวเองให้อยากออกกำลังกายง่าย ๆ มาฝากดังนี้

เลือกสถานที่ที่เหมาะสม

คุณควรเลือกออกกำลังกายที่บ้านในบริเวณที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอ หรือเห็นแล้วมีแรงออกกำลังกาย เช่น พื้นที่กว้าง ๆ หน้าทีวี ในสวนที่ร่มรื่น ในห้องนอนที่อากาศเย็นสบาย ไม่ใช่ไปออกกำลังกายในครัวที่พื้นลื่น ๆ หรือตรงหน้าบันได ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ไม่ต้องนานมาก

หากคุณเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือปกติเคยไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสซึ่งมีบรรยากาศคึกคัก การต้องมาออกกำลังกายที่บ้านก็อาจจะไม่สนุก และน่าเบื่อเกินไป คุณจึงควรเลือกออกกำลังกายในรูปแบบง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยากเกินไป และใช้เวลาไม่นาน คุณจะได้ออกกำลังกายที่บ้านได้ทุกวันโดยไม่เบื่อ หรือถอดใจไปเสียก่อน

กำหนดตารางการออกกำลังกาย

การกำหนดตารางการออกกำลังกายเสมือนตารางนัดหมาย หรือคุยงาน จะทำให้คุณรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญ และไม่พลาดที่จะทำตามกำหนดที่วางเอาไว้ แถมยังทำให้คุณทราบด้วยว่า ช่วงเวลาก่อนและหลังออกกำลังกายนั้นคุณจะต้องทำอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัวถูก และไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าการออกกำลังกายนั้นกระทบกับกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันของคุณ จนคุณไม่อยากออกกำลังกาย

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด