5 วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ ลดถุงใต้ตาบวม ทำไงดี !!
เมื่ออายุมากขึ้นผิวของเราอาจสูญเสียความยืดหยุ่นและความตึงกระชับ และส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาซึ่งโดยปกติผิวรอบดวงตาก็มักจะบางและนุ่มกว่าผิวส่วนอื่นๆ ของร่างกายอยู่แล้ว ผลที่ตามมาคือมีโอกาสที่จะเกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และเกิดถุงใต้ตามากขึ้นได้ รวมถึงจะทำให้เราดูอิดโรย แก่ก่อนวัยและดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา
ผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อยมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม อายุ และการโดนแสงแดดที่มากเกินไป ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยคงความตึงกระชับของผิวหนังเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ถึงแม้ว่าผิวที่หย่อนคล้อยใต้ตาสามารถถูกทำให้ตึงขึ้นได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ และถึงแม้ว่าในปัจจุบันการทาผลิตภัณฑ์บำรุงใต้ตาและการทำหัตถการจะสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น แต่หากพูดถึงราคาและค่าใช้จ่าย บางคนก็อาจไม่ค่อยพร้อมหรือยังกลัวเรื่องผลข้างเคียง แต่วันนี้เราก็มีวิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากและไม่มีผลข้างเคียงมาฝากกันค่ะ
ส่วนผสมที่ควรมีในผลิตภัณฑ์บำรุงใต้ตา
ถึงแม้สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยจะมาจากพันธุกรรมและอายุ แต่เหตุผลจริง ๆ นั่นก็คือการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง เพราะคอลลาเจนและอีลาสตินมีส่วนเกี่ยวข้องกับความตึงกระชับของผิวหนังและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเส้นใยใหม่ใต้ผิว เมื่อร่างกายผลิตได้ลดลง จึงส่งผลให้ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้น
อย่างไรก็ตามก็ยังมีส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์บำรุงใต้ดวงตาที่สามารถช่วยในการกระชับผิว ช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนใหม่และในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายอื่น ๆ อย่างเช่นรังสียูวีจากแสงแดดและการใช้ชีวิตบางอย่าง เวชสำอางที่มีส่วนผสมในการช่วยกระชับผิวมักจะมีประสิทธิภาพในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งส่วนผสมที่ควรมองหาในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเหล่านี้คือ
1. วิตามินบี 3
แน่นอนว่าการใช้อายครีมสามารถช่วยกระชับผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีเรตินอล และครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีวิตามินบี 3 เพราะวิตามินบี 3 นั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการช่วยลดอาการบวมและช่วยลดผิวที่หย่อนคล้อย เมื่อใช้ครีมที่มีวิตามินบี 3 ซึ่งส่วนมากมักมาในรูปของไนอาซินาไมด์ จะช่วยลดการเกิดริ้วรอย และนอกจากนี้ส่วนผสมอย่างเปปไทด์และกรดอะมิโนยังสามารถช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งส่วนผสมทั้ง 2 ชนิดนี้มักถูกเติมลงในครีมที่มีไนอาซินาไมด์เพื่อช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยและลดถุงใต้ตา
2. วิตามินซี
วิตามินซีที่ถูกเติมลงในครีมลดถุงใต้ตามักมาในรูปแบบของกรดแอล-แอสคอร์บิก มีส่วนช่วยในการกระชับผิว วิตามินซีมักพบได้ในปริมาณ 10 - 20% ใส่ลงไปเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนและช่วยป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจนในร่างกาย
3. ครีมกันแดด
เพราะแสงแดดมีส่วนทำให้แก่ก่อนวัยและเกิดริ้วรอยได้ แม้แต่ในฤดูหนาวหรือฤดูฝน แสงแดดก็มีส่วนในการทำอันตรายต่อผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย ซึ่งครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยลดการเกิดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยใต้ตา ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 16 และควรทาครีมกันแดดหลังขั้นตอนการดูแลผิวเป็นประจำทุกวันถึงแม้เราจะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม
4. เรตินอยด์
การใช้เรตินอลและเตรทติโนอินหรืออนุพันธ์วิตามินเอสามารถช่วยได้ เนื่องจากเรตินอลจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ผิว ส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนและชะลอการสลายตัวของเส้นใยคอลลาเจน สำหรับผู้ใช้ครั้งแรก ไม่ควรใช้ความเข้มข้นมากเกินไป และเพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผิวหนังเพื่อกำหนดความเข้มข้นของครีม
5 วิธีลดถุงใต้ตาแบบธรรมชาติ
1. แตงกวา
แตงกวาสามารถช่วยกระชับและช่วยให้ผิวรอบดวงตาเต่งตึงได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงยังสามารถใช้เพื่อลดอาการบวมและลดรอยคล้ำบนใบหน้าได้ด้วย เพราะแตงกวามีสรรพคุณในการช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่แห้งแล้ง ช่วยลดความแห้งกร้านและช่วยลดรอยแดง ช่วยทำให้ผิวสดชื่นและช่วยกระชับรูขุมขน หากใครที่มีอาการถุงใต้ตาบวม หรือเริ่มมีริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตาหรือบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า แตงกวาคือสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ โดยให้เราใช้แตงกวาครึ่งลูก ล้าง ปอกเปลือกและบดให้ละเอียด บีบน้ำออกแล้วใช้สำลีชุบ ทาบริเวณใต้ตาหรือตรงที่มีปัญหา ปล่อยให้แห้งแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า
2. ถุงชาคาโมมายล์
ไม่อยากมีตาแพนด้ากันใช่ไหม? อาการเส้นเลือดบวมอาจทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ และชาดอกคาโมมายล์ก็มีประโยชน์ต่อผิวหนังและช่วยทำให้เส้นเลือดที่บวมเกิดการไหลเวียนของเลือดไปยังเส้นเลือดฝอยได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ดอกคาโมมายล์ยังมีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ และยังช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นรวมถึงยังช่วยลดปัญหาสิวได้อีกด้วย โดยหลังจากที่เราชงชาคาโมมายล์แล้วก็อย่าเพิ่งทิ้งถุงชาไปค่ะ นำถุงชาสองถุงแช่ในตู้เย็นสัก 10 - 15 นาที จากนั้นนำมาวางบนดวงตา แค่นี้ก็ช่วยกระชับผิวรอบดวงตาได้แล้ว
3. ไข่ขาว
เพื่อป้องกันการเกิดถุงใต้ตาและเกิดริ้วรอย ไข่ขาวสามารถช่วยได้ค่ะ เนื่องจากไข่ขาวสามารถช่วยกระชับผิวรอบดวงตา และสามารถช่วยลดปัญหารูขุมขนได้ โดยใช้ไข่ขาว 1 - 2 ฟอง จะใช้แปรงทารอบดวงตาหรือใช้สำลีชุบก็ได้ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นค่อยล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรใช้ไข่ขาวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งค่ะ
4. น้ำมันโจโจ้บา
เพื่อให้เห็นผลมากขึ้น เราสามารถใช้น้ำมันโจโจ้บานวดใต้ดวงตาก่อนเข้านอนได้ โจโจ้บาออยล์มีวิตามินอีที่สามารถช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยหมองคล้ำและลดความแห้งกร้าน และยังถือว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันตามธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในการนำมาบำรุงผิวและผม การนำน้ำมันโจโจ้บามานวดบริเวณรอบดวงตาสามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและช่วยในการขจัดอาการบวม รวมถึงช่วยลดปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้ด้วย
5. ดื่มน้ำมาก ๆ
ผิวของคนที่ดื่มน้ำน้อยมักจะดูค่อยไม่สวยงามเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาผิวจากกการดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลมายังบริเวณผิวใต้ตาได้ด้วย ดังนั้น พยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 - 10 แก้วต่อวัน เพราะน้ำไม่เพียงแต่จะช่วยกระชับผิว แต่ยังสามารถช่วยขจัดสารที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย การดื่มน้ำเพิ่มตลอดทั้งวันมีส่วนช่วยลดรอยคล้ำและลดปัญหาถุงใต้ตาบวมได้ ซึ่งทำให้เราสามารถลดอาการบวมรอบดวงตาได้ค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 วิธีดูแลถุงใต้ตา ลดขนาดถุงใต้ตาให้เล็กลง หน้าเด็กสดใส ไม่ดูแก่กว่าวัย
- พอซักที! 6 พฤติกรรมเพิ่มรอยตีนกา ถุงใต้ตาบวม ไม่อยากแก่เร็ว ต้องหยุด!