5 วิธีเสริมเกราะป้องกันผิว Skin Barrier ช่วยผิวแข็งแรงจากภายใน
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) มีหน้าที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ และสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมักเป็นสาเหตุของความเสียหายของเกราะป้องกัน ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ความงามหรือร้านขายยาก็เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยปกป้องและฟื้นฟูผิว และบางผลิตภัณฑ์ก็ช่วยให้ความชุ่มชื้น แต่นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็ยังมีวิธีเสริมเกราะป้องกันผิวอื่น ๆ อีกที่เราสามารถทำได้
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) คืออะไร ?
ผิวของเราประกอบด้วยชั้นต่างๆ มากมาย และเกราะป้องกันผิวก็คือชั้นนอกสุด มีหน้าที่หลักสองประการ คือ 1. ช่วยปิดผนึกสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันธรรมชาติ และสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น และ 2. คือการป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีเข้ามา เช่น สารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
เมื่อเกราะป้องกันผิวทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้ผิวของเราชุ่มชื้น นุ่มนวลและอิ่มเอิบ เมื่อเกราะป้องกันผิวถูกทำลาย เราอาจสังเกตเห็นได้ถึงผิวที่หมองคล้ำ แห้งหรือเป็นขุย
สาเหตุที่ทำให้เกราะป้องกันผิวเสียหาย ?
โดยปกติแล้ว เกราะป้องกันผิวของเราจะได้รับความเสียหายเมื่อไขมันตามธรรมชาติที่อยู่บนผิวถูกทำลาย ซึ่งมีสาเหตุหลายประการที่สามารถเกิดขึ้นได้ ประการแรกปัจจัยทางพันธุกรรม อายุ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยนี้ส่วนใหญ่จะอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ส่วนประการที่สองคือกิจวัตรการดูแลผิวและการนอนหลับ แต่สิ่งที่ควรระวังหากต้องการรักษาปราการผิวให้ดีที่สุด คือ
- น้ำร้อนหรือเย็นเกินไป
เมื่อใดก็ตามที่อาบน้ำพยายามอย่าเลือกน้ำอุ่นเกินไปหรือเย็นเกินไป เพราะอาจทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของผิวได้
- ขัดผิวมากเกินไป
แม้ว่าการขัดผิวอย่างถูกวิธีจะมีประโยชน์มากมาย แต่การขัดผิวบ่อยๆ กลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก พยายามผลัดเซลล์ผิวให้ได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และหยุดพักหากผิวของของเรามีอาการแดง แห้ง หรือลอกเป็นขุย
- ใช้สารออกฤทธิ์มากเกินไป
ในขณะที่ AHA, BHA, เรตินอล และครีมแต้มสิวสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวของเราได้ แต่การใช้ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์มากเกินไปในคราวเดียวก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและมีปัญหา เนื่องจากส่วนผสมในการดูแลผิวมักมีความเข้มข้นสูง หากสารเหล่านี้ทำให้เกิดการระคายเคือง ให้ลองลดความถี่ในการใช้
นอกจากนี้การถูกแสงแดดมากเกินไปโดยไม่ได้ป้องกันให้ดี รวมถึงการอดนอนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอได้เช่นกัน
5 วิธีเสริมเกราะป้องกันผิว Skin Barrier
1. ทำให้ขั้นตอนการดูแลผิวง่ายขึ้น
หากกิจวัตรในการดูแลผิวประจำวันนั้นช่างซับซ้อนไปด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเยอะเป็นกระบุง เราอาจกำลังทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจขัดแย้งกันหรือซ้ำซ้อนกันจนทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้
2. ให้ความสนใจกับค่า pH
ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ระหว่าง 4.0 - 5.0 เพราะการรักษาค่า pH ของผิวให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ อาจช่วยปกป้องคุณจากสภาวะทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ สิว และการติดเชื้อราบางประเภท
3. ลองใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น
น้ำมันจากพืชบางชนิดอาจช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวและยังป้องกันไม่ให้เกราะป้องกันผิวของคุณสูญเสีย และยังช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย และน้ำมันจากพืชหลายชนิดก็มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันอาร์แกน น้ำมันโรสฮิป น้ำมันพริมโรส นอกจากนี้ยังสามารถทาครีมและโลชั่นที่มีน้ำมันเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งชนิดเป็นส่วนผสมก็ได้
4. มองหาสูตรที่มีเซราไมด์
เซราไมด์เป็นสารคล้ายขี้ผึ้งที่อาจช่วยลดความแห้งกร้าน อาการคัน และสะเก็ดบนผิวที่เกิดจากเกราะป้องกันที่ทำงานได้ไม่ดี มอยเจอร์ไรเซอร์ที่อุดมด้วยเซราไมด์อาจช่วยเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างเกราะป้องกันผิว และอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณเป็นสิว ในผิวที่เป็นสิวง่าย การรักษาสิวอาจทำให้ผิวแห้งและแดงได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์อาจช่วยปกป้องผิวที่คล้ำเสียได้
5. ลองใช้มอยส์เจอไรเซอร์
ผิวแห้งมักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป และมอยเจอร์ไรเซอร์ก็เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวโดยการลดปริมาณการสูญเสียน้ำจากผิวของคุณ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทิ้งฟิล์มบางๆ ไว้บนผิวซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมกลุ่ม Humectants เช่น lactic acid, polyol, mucopolysaccharide, urea, glycerol จะทำงานโดยการจับน้ำในผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไปและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
บทความที่คุณอาจสนใจ
- รวม 5 สกินแคร์ฟื้นฟู Skin Barrier เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวสวยแข็งแรง
- 5 อาหารที่ทำให้ผิวแห้ง กินมากๆ ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน เกิดริ้วรอยง่าย!