วิธีรับมืออาการแพ้น้ำ สิวขึ้น ผิวระคายเคือง คืนผิวสุขภาพดี หน้าเนียน ไม่แพ้ง่าย
อาการแพ้น้ำ มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย บางคนเพียงแค่ใช้น้ำประปาล้างหน้า ก็คันยุบยิบ เผลอแป๊บเดียวสิวมาตรึม แถมแดงเป็นปื้นๆ ชวนให้เครียดไม่อยากโชว์หน้าพังๆ ให้ใครเห็น จึงจำเป็นที่จะต้องมี วิธีรับมืออาการแพ้น้ำ เตรียมไว้เลยล่ะค่ะ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาสาวๆ ไปหาสาเหตุอาการแพ้น้ำกัน รวมถึงมี ทริคกู้ผิวสุขภาพดี หน้าเนียน ไม่แพ้ง่าย มาฝากสาวๆ อีกด้วย หากใครมีปัญหาหน้าพังจากอาการแพ้น้ำ หรือคนใกล้ตัวมีอาการแพ้น้ำบ่อยๆ ห้ามพลาดบทความนี้ค่ะ!
แพ้น้ำ เกิดขึ้นเพราะอะไร?
อาการแพ้น้ำ เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากผิวหนังของเราสัมผัสกับสารที่ไม่คุ้นชินหรือสารปนเปื้อนในน้ำ เช่น เชื้อแบคทีเรีย แร่ธาตุต่างๆ รวมถึงสารเคมีอย่างคลอรีน ที่ทำให้ค่า PH ของน้ำมีความเป็นกรดเป็นด่าง ซึ่งเมื่อผิวของเรารับไม่ได้ ปรับสภาพไม่ทัน จึงส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง บวม คัน มีผื่นขึ้น
สำหรับระยะเวลาในการแสดงอาการ ในบางคนจะเกิดขึ้นหลังจากไปสัมผัสน้ำได้ไม่นาน บางคนก็อีกวันถัดไป และหลายคนที่มีอาการแพ้น้ำหลังจากผ่านไประยะนึงแล้ว ซึ่งต้องบอกไว้นิดนึงว่า อาการแพ้น้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน อ่อนแอ เสียสมดุล และมีปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา ทั้งเกิดง่ายมากกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายค่ะ
แพ้น้ำ อาการเป็นอย่างไร?
ด้วยปฏิกิริยาทางผิวหนังหลังสัมผัสน้ำที่ต่างกัน ทำให้การแสดงอาการแพ้น้ำของแต่ละคนจะหนักเบาไม่เท่ากันค่ะ โดยคนที่อาการไม่รุนแรงมากอาจมีผื่นแดง คัน มีสิวผดหรือสิวอักเสบขึ้น แต่กับบางคนที่แพ้น้ำรุนแรงหน่อยก็จะมีอาการแสบร้อนผิว บวม คัน ผิวอักเสบ มีผื่นลมพิษขึ้น และหายใจหอบถี่ ซึ่งอาการนี้มักจะเกิดหลังสัมผัสโดนน้ำไปประมาณครึ่งชั่วโมงและหายไปเองภายในหนึ่งชั่วโมง เรียกว่ามาไวไปไวกว่าประกัน น้อยคนที่จะแจ็กพอตเจออาการนี้ค่ะ และต้องขอให้สาวๆ สังเกตกันดีๆ นิดนึง เพราะแพ้น้ำกับผดร้อนจะมีอาการคล้ายๆกัน เพียงต่างกันตรงที่ผดร้อนจะเกิดขึ้นเมื่อผิวเราเจออากาศร้อนจัด ส่วนแพ้น้ำเกิดทุกครั้งเมื่อสัมผัสน้ำที่ผิวเราไม่ถูกจริตค่า
วิธีรับมืออาการแพ้น้ำ
เมื่อเช็กกันชัวร์แล้วว่าแพ้น้ำชัวร์ๆ ก็อย่าได้กังวลใจไปค่า แม้อาการแพ้น้ำชวนให้หงุดหงิด กังวลใจไม่น้อย และอาจทำให้หลายคนไม่อยากโชว์ผิวหน้าให้ใครเห็น แต่เราก็มีวิธีรับมือนะจ๊ะ เพียงลองทำตาม 7 วิธีนี้ รับรองว่าอาการแพ้น้ำดีขึ้นแน่นอน ดังนี้
1. อย่างแรกเลย ห้ามแกะเกาบริเวณที่มีผดผื่นคัน เพราะนั่นอาจทำให้ใบหน้าสวยๆ ของคุณเป็นแผล ซึ่งเสี่ยงกับการติดเชื้อ
2. ลดอาการคันจากอาการแพ้น้ำด้วยยาทา โดยมากจะใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ ชนิดใช้ภายนอก ซึ่งมีประสิทธิภาพลดอาการอักเสบ ลดอาการคันที่ผิวหนัง แต่การใช้ยาทาในกลุ่มนี้จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร ทั้งไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยค่ะ
3. บรรเทาอาการคันด้วยการทานยาในกลุ่มยาแก้แพ้ (Antihistamine) ยาชนิดนี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการหลั่งสาร Histamine จึงช่วยลดอาการแพ้ ผื่นคัน และบรรเทาผิวหนังอักเสบได้อย่างดี
4. พยายามเลี่ยงการอาบน้ำที่ร้อนเกินไป หรืออยู่ในที่อากาศร้อนจัดๆ เพราะจะทำให้อาการแย่ลง
5. หยุดการสครับผิวที่อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองผิวมากขึ้น
6. เลี่ยงใช้สกินแคร์ที่มีแอลกอฮอร์และน้ำหอมในส่วนผสม
7. สวมเสื้อผ้าเนื้อละเอียด บางเบา เพื่อลดการเสียดสีที่ทำให้ระคายเคืองผิว
วิธีคืนผิวสุขภาพดี หน้าเนียนใส
แม้อาการแพ้น้ำจะดีขึ้นแล้ว ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ค่าสาวๆ เพราะผิวของเรายังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอมากๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ หรือใช้สกินแคร์ไม่ระวัง ผิวของคุณได้พังอย่างถาวรแน่ๆ ถ้าใครอยากคืนผิวสุขภาพดีแข็งแรง ไม่แพ้ง่ายอีก ลองทำตามนี้ค่า
1. สกินแคร์บำรุงผิวที่ใช้ต้องอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง มีประสิทธิภาพเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว และเหมาะกับสภาพผิว
2. ผลิตภัณฑ์ชำระล้างที่ใช้ ควรมีค่า PH เป็นมิตรกับผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
3. พักผิว หยุดสครับ เลเซอร์ กรอผิว ลอกหน้า การใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากจะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ซ้ำซาก
4. หากมีสิว ควรใช้ครีมแต้มสิวที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย
5. ใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อลดสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำ ในกรณีที่เลี่ยงการใช้น้ำที่ทำให้ผิวระคายเคืองไม่ได้
6. เลือกทานอาหารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแข็งแรง และเสริมเกราะป้องกันผิว อย่างเช่น ธัญพืช หน่อไม้ฝรั่ง น้ำมะพร้าว มะเขือเทศ อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ หากสาวๆ เกรงว่าได้รับไม่เพียงพอก็สามารถกินวิตามินอาหารเสริมแทนเช่น Vitamin B, Vitamin C, Vitamin E
7. ดื่มน้ำให้พอ เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยลดความแห้งกร้านของผิวด้วยค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ