5 วิธีทําให้ปากแดงอย่างเป็นธรรมชาติ ปากสวยสุขภาพดี น่าจุ๊บ!!

     ริมฝีปากเป็นส่วนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดบนใบหน้า ริมฝีปากที่นุ่ม น่าสัมผัส อวบอิ่มและสีชมพูสามารถช่วยเพิ่มความดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างมาก เมื่อพูดถึงการดูแลผิว ริมฝีปากอาจเป็นส่วนที่ถูกละเลย เพราะเรามักหันไปใส่ใจกับสภาพปัญหาผิวมากกว่า จนทำให้ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีคล้ำและเริ่มแตก แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมีริมฝีปากที่สวยไร้ที่ติได้ แต่หากริมฝีปากของคุณแห้งหรือแตกอยู่ตลอดเวลา แสดงว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติกับไลฟ์สไตล์หรือกิจวัตรการดูแลริมฝีปากของคุณ

     ไม่มีอะไรเซ็กซี่เท่าริมฝีปากเนียนนุ่ม หากคุณกำลังสงสัยว่าจะทำอย่างไรให้ได้ริมฝีปากที่ดูเย้ายวนน่าหลงใหลและดูสุขภาพดี วันนี้เราได้รวบรวมวิธีดูแลริมฝีปากให้อมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติมาฝากกันค่ะ

5 วิธีทําให้ปากแดงเป็นธรรมชาติ

     ผิวหนังบริเวณริมฝีปากของเราเป็นผิวหนังที่บางที่สุดในร่างกาย ในขณะที่บางส่วนของใบหน้า เช่น แก้ม กลับมีผิวหนังมากถึง 16 ชั้น แต่ริมฝีปากมีเพียงแค่สี่หรือห้าชั้นเท่านั้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมส่วนนี้ถึงเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำได้ง่าย และยิ่งหากคุณสูบบุหรี่ ริ้วรอยบนริมฝีปากจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ต่อไปนี้คือวิธีที่ช่วยทําให้ปากแดงอย่างเป็นธรรมชาติได้

1. ทำให้ริมฝีปากของคุณชุ่มชื้น

     สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยพื้นฐานอย่างการใช้ลิปบาล์มบ่อยๆ โดยการทาเพียงเล็กน้อยแต่ควรทาซ้ำๆ ตลอดทั้งวัน แนะนำว่าควรใช้ลิปบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้นวันละ 2 - 4 ครั้ง และหากคุณมีริมฝีปากที่แห้งมากหรือมีแผล อาจต้องใช้ลิปบาล์มให้บ่อยกว่านี้ เพื่อเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้และเป็นการช่วยป้องกันปัญหาริมฝีปากเปลี่ยนสีคล้ำและแห้งแตกเพิ่ม

2. เลือกลิปบาล์มที่มี SPF

     ริมฝีปากของเราก็เป็นบริเวณที่โดดแดดเผาได้ ดังนั้นทางออกก็คือการเลือกลิปบาล์มที่มีค่า SPF วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ทำลายริมฝีปากอันแสนบอบบาง ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเรียบเนียน และหากเป็นไปได้ ก็พยายามเลือกลิปบาล์มที่มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผิวจากสารต้านอนุมูลอิสระควบคู่กันไปด้วยก็ได้

3. สครับริมฝีปาก

     การขัดผิวริมฝีปากสามารถช่วยขจัดผิวที่แห้งเป็นขุยและคืนความนุ่มนวลและเรียบเนียนได้ เราแนะนำให้ขัดผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยการใช้นิ้วทาสครับขัดผิวในปริมาณเล็กน้อย นวดเบาๆ เป็นวงกลมเล็กๆ ทั่วริมฝีปาก ทิ้งส่วนผสมไว้บนริมฝีปากเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้าสะอาดซับผิวให้แห้ง และเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวบริเวณริมฝีปาก ให้ใช้ลิปบาล์มทาเพื่อป้องกันอีกรอบ เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นและเพื่อบำรุงสุขภาพผิวริมฝีปากให้แข็งแรง

4. ขัดผิวริมฝีปากด้วยแปรงสีฟัน

     หากคุณไม่มีเวลามากพอในการสครับริมฝีปาก คุณก็ยังสามารถขัดริมฝีปากด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มๆ ก็ได้ เพราะช่วยกำจัดผิวแห้งและเป็นขุยได้ เพียงใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ชุบน้ำอุ่น แล้วถูเบาๆ บนริมฝีปากเป็นเวลา 1-2 นาที

5. อย่าเลียริมฝีปากบ่อย

     เราทุกคนต่างก็ต้องเคยริมฝีปากของตัวเองกันทั้งนั้น แต่คงจะดีกว่าถ้าเปลี่ยนจากการเลียริมฝีปากไปเป็นการมองใช้ลิปบาล์มแทน เพราะการเลียริมฝีปากอาจสร้างความเสียหายมากกว่าผลดี เมื่อริมฝีปากโดนน้ำลาย จะเกิดการระเหยของน้ำลายอย่างรวดเร็วและดูดซับความชื้นออกไปด้วย ส่งผลทำให้ริมฝีปากของคุณแห้งและแตกยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นโปรดจำไว้ว่าครั้งต่อไปที่รู้สึกริมฝีปากแห้ง ให้พยายามทาลิปบาล์มแทน เพื่อคงความชุ่มชื้น และนอกจากการเลียริมฝีปาก เรายังควรหลีกเลี่ยงการห่อหรือกัดริมฝีปากด้วย

บทความที่คุณอาจสนใจ

• รวม 10 ลิปมันแก้ปากดํา ยี่ห้อไหนดี 2022 เปลี่ยนปากคล้ำให้เป็นสีชมพู
• 7 ลิปมันเปลี่ยนสี ปากฉ่ำ ชุ่มชื้น แถมสีปากสวย แบบไม่แห้ง ไม่ลอก!