เช็คสภาพผิวก่อนบำรุง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้หญิงกับการดูแลผิวหน้าเป็นของคู่กัน ปัจจุบันมีสกินแคร์ออกมาให้สาว ๆ ได้เลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งบางครั้งสาว ๆ หลายคนก็อาจจะซื้อสกินแคร์ตามบิวตี้บล็อกเกอร์หรือตามรีวิวต่าง ๆ ที่เขาบอกกันว่าดี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักกับผิวหน้าของตัวเองและสกินแคร์ตัวนั้นดีพอ ทำให้มีหลายครั้งที่ซื้อมาใช้ตามแล้วไม่เห็นผลหรือทำให้ผิวหน้าของเราแย่ลงไปอีก ถ้ายังไม่อยากหน้าพัง มาทำความเข้าใจลักษณะผิวหน้าของตัวเองกันก่อนดีกว่านะ ผิวหน้าของเราแบ่งออกเป็น 5 ประเภท
5 ประเภทของผิวหน้า
1. ผิวธรรมดา (Normal Skin)
สาว ๆ คนไหนมีผิวแบบนี้ ขอเดาเลยว่าชาติที่แล้วต้องทำบุญมาดีแน่นอน! ชื่ออาจจะธรรมดาแต่ต้องบอกตรงนี้เลยว่าผิวธรรมดานี่แหละดีที่สุดแล้ว ลักษณะของผิวธรรมดา คือ ผิวที่ดูเรียบเนียน นุ่ม ไม่แห้ง ไม่มัน แต่ก็ยังดูชุ่มชื้นอยู่และรูขุมขนไม่กว้าง แต่สาว ๆ คนไหนที่มีผิวธรรมดาก็ห้ามละเลยการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสภาพผิวดี ๆ อาจจากคุณไป สำหรับคนที่มีผิวธรรมดาควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่เนื้อไม่หนักมากจนเกินไปแต่ก็ไม่บางเบาจนเกินไป
2. ผิวแห้ง (Dry Skin)
คนที่มีผิวแห้งมักจะรู้สึกตึงที่ผิวหรือผิวหน้าลอกเป็นขุยได้ง่าย บางครั้งอาจมีอาการแดง คันเบริเวณที่แห้ง ผิวแห้งอาจเกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง สภาพผิวแบบนี้อาจเกิดจากพันธุกรรมหรืออายุที่มากขึ้น แต่ปัจจัยภายนอก เช่น การนั่งทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน ชอบอาบน้ำร้อนก็อาจทำให้ผิวของเราแห้งได้ สำหรับคนที่มีผิวแห้งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมีส่วนผสมของน้ำมันก็จะดีขึ้นไปอีก และสำหรับคนผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง
3. ผิวมัน (Oily Skin)
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนในประเทศไทยมีปัญหาผิวมัน เพราะอากาศประเทศเรามันร้อนซะเหลือเกิน ลักษณะของคนผิวมันมักจะมีรูขุมขนกว้าง ผิวหน้ามัน วาวโดยเฉพาะช่วง T-zone (หน้าผาก จมูกและคาง) และจะมันมากขึ้นในช่วงที่อากาศร้อน อยู่กลางแจ้งหรือบางครั้งนั่งอยู่เฉย ๆ หน้าก็มันแล้ว นอกจากนี้คนผิวมันก็มักจะประสบปัญหาสิวอีกด้วยเพราะผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมามากและไปอุดตันตามรูขุมขน ดังนั้นสำหรับวิธีดูแลผิวสำหรับคนผิวมันนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เขียนกำกับไว้ว่าเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) อย่าเข้าใจผิดว่าเราผิวมันแล้วจะไม่ทาผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้น เพราะถ้าเราไม่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวจะคิดว่าหน้าเราแห้งและผลิตน้ำมันออกมาอีก หน้าของเราก็จะยิ่งมัน
4. ผิวผสม (Combination Skin)
สำหรับผิวหน้าแบบนี้อาจสังเกตได้ยากสักหน่อย เพราะคุณอาจมีผิวมันในช่วง T-Zone แต่บริเวณแก้มและกรอบหน้าแห้ง พูดง่าย ๆ ก็คือบนใบหน้าของคุณมีลักษณะผิวมากกว่า 1 ประเภท คนที่มีผิวผสมมักจะมีรูขุมขนกว้างกว่าคนที่มีผิวธรรมดาและอาจมีสิวอุดตัน สิวหัวดำบริเวณจมูก ผิวประเภทนี้อาจดูแลยากสักหน่อยเพราะผิวแต่ละจุดบนหน้าต้องได้รับการบำรุงต่างกัน เช่น ตรงบริเวณที่ผิวมันอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่บางเบากว่าบริเวณที่ผิวแห้ง เป็นต้น
5. ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
ผิวประเภทนี้เกิดขึ้นจากเกราะป้องกันผิวของเราอ่อนแอ ทำให้ผิวของเราไม่แข็งแรง ระคายเคืองง่ายและผิวประเภทนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย วิธีสังเกตว่าเรามีผิวแพ้ง่ายหรือไม่ ให้สังเกตดูว่าเวลาที่เราผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ลงบนผิวแล้วเรารู้สึกแสบทันทีที่ผลิตภัณฑ์สัมผัสโดยใบหน้าหรือไม่ หรือบางครั้งอาจเกิดผื่นแพ้ตามมาได้ วิธีดูแลผิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายต้องเริ่มจากสังเกตตัวเองก่อนว่าเรามักจะแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวไหน ส่วนผสมใดที่เรามักจะทำให้ผิวเราระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบนและผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง หรือเราอาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เขียนกำกับไว้ว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมี Tester เราก็สามารถทดลองก่อนได้ว่าเราแพ้หรือไม่
รู้จักกับผิวของเราแล้ว รู้วิธีเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสมกับผิวหน้าของเราแล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันรังสี UV ที่เป็นตัวทำร้ายผิว ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ!
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก :
.........................................
อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน
ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!