รีเซต

7 วิธีเสริมสร้าง IQ และ EQ เสริมพัฒนาการลูกน้อยครบทุกด้าน

7 วิธีเสริมสร้าง IQ และ EQ เสริมพัฒนาการลูกน้อยครบทุกด้าน
PookieChan
27 มกราคม 2566 ( 15:50 )
908

       การพัฒนา IQ และ EQ เล็กเป็นส่วนสำคัญของการเสริมพัฒนาการเด็ก ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ สามารถคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจอย่างรอบรู้ และแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม ซึ่งควรพัฒนาทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันค่ะ IQ และ EQ คืออะไร ทั้งสองส่วนนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และจะเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยได้อย่างไร มาดู 7 เทคนิคดีๆ ในการพัฒนา IQ และ EQ ให้ลูกน้อยกันได้เลยค่ะ

 


IQ และ EQ คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ต่อพัฒนาการลูก

  • IQ ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (Intelligence Quotient) หมายถึง ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล การแก้ปัญหา ความจำ การคำนวณ และการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน

  • EQ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient)  หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ได้ และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีความหมายมากขึ้น ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น เข้าใจอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น ตลอดจนสามารถปรับหรือควบคุมได้อย่างไรเหมาะสมกับสถานการณ์

         สำหรับ IQ อาจมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์กำหนดด้วยว่าจะสามารถพัฒนาได้ถึงระดับใด แต่สำหรับ EQ นั้นสามารถเรียนรู้และพัฒนากันได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งการเสริมสร้างพัฒนาการในวัยเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 7 ปีนั้น ถือเป็นโอกาสทองเลยก็ว่าได้ค่ะ

        เพราะเด็กๆ จะพัฒนาศักยภาพสมองผ่านการเรียนรู้ได้มากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เนื่องจากพร้อมเปิดรับทุกสิ่ง ไม่ว่ามีข้อมูลอะไรเข้ามาก็จะเข้าไปกระตุ้นสมองให้เกิดเครือข่ายเส้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย ซึ่งเมื่อโตขึ้นสมองก็จะเริ่มขจัดข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไป ประสิทธิภาพการสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองก็จะค่อยๆ ลดลงไปตามธรรมชาตินั่นเองค่ะ

 

พัฒนา IQ และ EQ ต้องทำอย่างไร

     คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยพัฒนา IQ และ EQ ของลูกน้อยได้ไม่ยากเลยค่ะ ลองมาดูเทคนิคดีๆ กันนะคะ

 

 

1. ร้องเพลงให้ฟัง ร้องเพลงด้วยกัน

       เสียงดนตรีจะช่วยกระตุ้นให้เส้นประสาทในสมองของเด็กเพิ่มมากขึ้น สามารถจดจำภาษาและความหมายได้ดี ทำให้เด็กๆ มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการมากขึ้น หลับได้สนิทขึ้นซึ่งสำคัญมากๆ ต่อการเสริมสร้าง IQ และ EQ ค่ะ และยิ่งถ้าหากคุณแม่ร้องเพลงกล่อมให้ฟังตั้งแต่เล็กๆ หรือร้องรำทำเพลงไปพร้อมกับลูก ก็ยิ่งเพิ่มความอบอุ่นไปพร้อมกันค่ะ 

 

 2. อ่านหนังสือ เล่านิทาน

      การแสดงบทบาทสมมติหรือการเล่านิทาน จะกระตุ้นทักษะการจดจำภาษาและความหมายต่างๆ ช่วยให้เด็กแยกแยะอารมณ์ผ่านน้ำเสียงได้ ทำให้สื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างฉลาดและเข้าใจความหมายที่แท้จริง สร้าง IQ และ EQ ได้ครบทั้งสองด้าน และหากประกอบดนตรีด้วย ก็จะช่วยเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นไปอีกนะคะ 

 

3. เล่นจะเอ๋กับลูก

       การเล่นที่ดูเบสิคนี้ช่วยกระตุ้น IQ และ EQ ได้อย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเด็กเล็กค่ะ ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ตื่นตัว เปิดรับการเรียนรู้เต็มที่ และจดจำใบหน้ากับน้ำเสียงได้รวดเร็วมากขึ้นค่ะ

 

4. เพิ่มของเล่นเสริมทักษะ

     ลองเก็บมือถือกับแท็บเล็ตไปก่อน แล้วใช้เวลากับของเล่นเสริมทักษะมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยเสริมสร้างเซลล์สมองได้ดีกว่ามากค่ะ โดยเฉพาะการเสริม "สมาธิ" ที่มีประโยชน์ต่อการสร้าง EQ มากๆ และยังเรียนรู้ได้หลากหลายมิติ ทั้งสายตา การได้ยิน การเคลื่อนกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ในขณะเล่นด้วยค่ะ

 

5. สัมผัสโอบกอดด้วยความรักความอบอุ่น

      การสัมผัสและโอบกอดลูกด้วยความรัก จะช่วยให้สมองของลูกน้อยหลั่งฮอร์โมนความสุขออกมา และกระตุ้นเส้นใยสมองให้เชื่อมโยงกัน ทำให้เด็กฉลาด รู้สึกมีคุณค่า และมีความอ่อนโยน ไม่ก้าวร้าว ซึ่งทั้งหมดนี้สำคัญต่อการสร้าง IQ และ EQ ค่ะ 

 

6. เลอะเทอะบ้างก็ได้

        ถึงจะดูปวดหัวไปบ้างสำหรับคุณแม่ แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนา IQ และ EQ ของลูกค่ะ เพราะการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่การดูหรือฟังคุณแม่สอน แต่ต้องเรียนรู้ผ่านการลงมือทำและสัมผัสด้วยตนเอง ยกตัวอย่างเช่น การฝึกให้ลูกทานอาหารเองแบบ BLW (Baby Led Weaning) ถึงแม้จะเลอะเทอะหน่อย แต่จะช่วยให้ลูกฝึกใช้ความคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ เซลล์สมองมีการสื่อสารกันมากขึ้นในขณะ มอง หยิบ เคี้ยว และกลืน เป็นต้นค่ะ

 

7. ดูแลโภชนาการ และหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายสมอง

      ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี สารพิษ เช่น ปรอท ตะกั่ว หรือ ฝุ่น PM 2.5 อย่างในปัจจุบัน ต่างก็มีผลทำลายเซลล์สมองได้ทั้งนั้น รวมถึงการกระทบกระเทือนแรงๆ บริเวณศีรษะก็ส่งผลร้ายแรงต่อพัฒนาการได้เช่นกัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกสิ่งที่ลูกทานและสัมผัส รวมถึงเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ IQ & EQ พัฒนาได้ดีแบบไม่มีสะดุดค่ะ

 

         นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ช่วยเสริม IQ และ EQ ของลูกได้มากๆ ก็คือการไม่พูดคำอย่าง "อย่า" "ไม่" "หยุด" โดยไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าจะห่วงลูกแต่ก็จำเป็นที่จะต้องให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองเช่นกัน การห้ามลูกไปทุกเรื่องแม้ในเรื่องเล็กน้อย จะเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปอย่างน่าเสียดายมากเลยค่ะ รวมถึงความเครียดต่างๆ ก็มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของลูกมากเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การปล่อยให้ลูกมีอิสระที่จะเรียนรู้ จะทำให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ และมีความสร้างสรรค์ต่อเนื่องไปจนโตได้เลยทีเดียวล่ะคะ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง