รีเซต

รวม 12 น้ำหอม Giorgio Armani Si แต่ละขวดเป็นอย่างไร กลิ่นไหนโดนใจที่สุด

รวม 12 น้ำหอม Giorgio Armani Si แต่ละขวดเป็นอย่างไร กลิ่นไหนโดนใจที่สุด
Beau_Monde
19 มกราคม 2567 ( 15:10 )
84.3K

     ด้วยกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของน้ำหอม Giorgio Armani Si ทำให้ทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ หลายคนหลงใหลค่ะ เพราะให้ทั้งความรู้สึกทั้งแบบสดใสและนุ่มนวล รวมถึงกลิ่นก็ยังเข้ากันได้ดีกับอากาศเมืองไทย และยังสามารถใช้ได้ในทุกวันและทุกโอกาส และด้วยการตอบรับที่ดี ทำให้จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ทำน้ำหอมไลน์นี้ออกมาหลายขวดเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมมาให้แล้วว่าน้ำหอม Si มีกี่ขวด แต่ละขวดให้กลิ่นเป็นแบบไหน และกลิ่นไหนที่หอมหวานโดนใจสาวๆ ที่สุดค่ะ 

 

 

12 น้ำหอม Giorgio Armani Si

 

1. น้ำหอม Giorgio Armani Si Eau de Parfum

 

 

     ออกมาเมื่อช่วงปลายฤดูร้อนปี 2013 และถือเป็นขวดแรกของตระกูลน้ำหอม Si เลยค่ะ ขวดนี้ให้กลิ่นแบบ Chypre Fruity เป็นกลิ่นที่สดชื่นและสะอาดค่ะ โดยในขวดนี้จะมี Black Currant, May Rose และ Freesia ตามมาด้วย Vanilla, Patchouli และ Woody ซึ่งบางคนที่ได้ใช้ขวดนี้ก็แอบบอกว่าเหมือนกลิ่นของไวน์ขาวค่ะ แต่โดยภาพรวมของขวดนี้ก็จะเหมาะกับสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง ทันสมัยและเป็นตัวของตัวเองค่ะ

 

2. น้ำหอม Giorgio Armani Si Intense

 

 

     ออกมาเมื่อปี 2014 ค่ะ สำหรับ Si Intense ขวดนี้ ถึงแม้ว่าขวดจะเป็นสีดำ แต่ก็ให้กลิ่นที่หอมมากๆ เลยค่ะ แถมกลิ่นก็ยังติดทนกว่าตัวแรกด้วย สำหรับขวดนี้ก็ยังเป็นโทนกลิ่นแบบ Chypre Fruity เช่นเดิมแต่เพิ่มเติมคือโน๊ตที่หลากหลายขึ้นค่ะ มีการเพิ่ม Mandarin Orange และ Bergamot ขึ้นมา ทำให้ขวดนี้มีความสดชื่นมากขึ้น และให้กลิ่นที่แน่นมากขึ้นค่ะ ภาพรวมของขวดนี้ก็จะเหมาะกับสาวๆ ที่เป็นสายลึกลับหน่อยๆ มีเสน่ห์ มีความมั่นใจและรักอิสระค่ะ

 

3. น้ำหอม Giorgio Armani Si White 

 

 

     เมื่อมีขวดสีดำ ก็ต้องมีขวดสีขาวค่ะ ซึ่งอาร์มานี่ก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ น้ำหอม Si ต้องรอนาน เพราะในปีเดียวกันนั้นทางแบรนด์ก็ได้ปล่อย Si White น้ำหอมขวดสีขาวออกมาให้แฟนๆ ได้สะสมกันต่อ ซึ่งขวดนี้ก็มาในโทนกลิ่น Chypre Fruity เช่นเดิม แต่ที่แตกต่างออกไปนั่นก็คือมีกลิ่นที่คล้ายกับน้ำเชื่อมแบล็คเคอแรนท์แทรกไว้ด้วย ภาพรวมของขวดนี้มีความหวานมากๆ เหมาะกับสาวๆ ที่อ่อนหวาน ละมุนละไมแต่ในขณะเดียวกันก็มีความทันสมัยและเป็นตัวของตัวเองค่ะ

 

4. น้ำหอม Giorgio Armani Si Eau de Toilette

 

 

     มากันที่ Si ขวดต่อมาเลย นั่นก็คือ Si EDT นั่นเองค่ะ ขวดนี้ออกมาเมื่อปี 2015 เป็นแนวกลิ่นแบบ Chypre Floral ซึ่งแตกต่างออกไปจากหลายๆ ขวดก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยขวดนี้มีกลิ่นของ Pear, Mandarin Orange, Neroli และ Bergamot ตามมาด้วย Freesia, May Rose, Strawberry, Mango และ Jasmine ให้กลิ่นดอกไม้ที่ค่อนข้างอ่อนกว่ากลิ่นต้นฉบับ แต่ภาพรวมก็ยังคงความหวาน โรแมนติกและสดชื่นค่ะ

 

5. น้ำหอม Giorgio Armani Si Le Parfum

 

 

     ต่อมาในปี 2016  ทางแบรนด์ก็ได้ปล่อย Si Le Parfum ออกมาให้แฟนๆ น้ำหอมได้กรี๊ดกันอีกรอบ โดยขวดนี้มาในกลิ่นโทน Chypre Floral เช่นเดิมค่ะ โดยมี Black Currant และ Bergamot เป็นตัวชูโรง ตามมาด้วย Osmanthus, Amber, Benzoin, Vanilla และ Patchouli Leaf ถึงแม้ว่าโน๊ตจะดูไม่ได้แตกต่างกับขวดก่อนหน้า แต่หลายๆ คนที่ได้ใช้ก็ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่ากลิ่นไม่เหมือนกันค่ะ โดยรวมแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น สะอาด กลิ่นไม่ได้ฟุ้งมากนักและค่อนข้างติดผิว รวมถึงยังให้กลิ่นที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าขวดก่อนหน้าค่ะ  

 

6. น้ำหอม Giorgio Armani Si Rose signature Eau de Parfum

 

 

     น้ำหอม Si Rose signature Eau de Parfum ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2016 โดยยังคงมีกลิ่นของ Black Currant, Vanilla, Freesia, Mandarin Orange และ Patchouli ซึ่งถือเป็นกลิ่นหลักของน้ำหอมตระกูลนี้ค่ะ แต่กลิ่นที่โดดเด่นมากๆ เลยก็คือกุหลาบ Rose de Mai และ Damask Rose ซึ่งทำให้ขวดนี้เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่สะอาด สดชื่น ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอ่อนหวาน เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบเป็นพิเศษค่ะ

 

7. น้ำหอม Giorgio Armani Si Passione

 

 

     ต่อมาในปี 2017 อาร์มานี่ก็ได้ปล่อยน้ำหอม Si passione ขวดสีแดงสด ซึ่งสร้างความฮือฮามากในกลุ่มคนรักน้ำหอมค่ะ รวมถึงขวดนี้ก็ยังขายดิบขายดีมาจนถึงตอนนี้ด้วย ด้วยโทนกลิ่นแบบ Floral Fruity ที่นำมาด้วย Pear, Black Currant, Pink Pepper และ Grapefruit ตามมาด้วย Pineapple และ Jasmine ให้กลิ่นที่หอมหวานฉ่ำจากผลไม้สุก สดชื่นและหรูหราจากกลิ่นของดอกไม้ โดยภาพรวมเป็นกลิ่นที่สดใส เย้ายวน และยังแสดงถึงความมั่นใจของผู้ใช้ได้อีกด้วยค่ะ

 

8. น้ำหอม Giorgio Armani Si Rose Signature II Eau de Parfum

 

 

     มีขวดแรกก็ต้องมีขวดที่ 2 ค่ะ ในปี 2017 ทางแบรนด์อาร์มานี่ก็ได้ปล่อย Rose Signature II Eau de Parfum น้ำหอม Si กลิ่นกุหลาบตัวที่ 2 ออกมา โดยขวดนี้กลับมาในกลิ่นของ Chypre Floral อีกครั้ง ด้วยกลิ่นของ Black Currant, Freesia, Mandarin Orange และ Bergamot ออกมาเรียกความสดใส และค่อยให้กลิ่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของขวดนี้อย่าง Turkish Rose และ May Rose ออกมาทำงาน ภาพรวมของขวดนี้ยังคงเป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่มีความหอมหวาน นวลเนียน โรแมนติกและอ่อนโยนค่ะ

 

9. น้ำหอม Giorgio Armani Si Sono Io

 

 

     ในปี 2017 เรียกว่าเป็นปีที่อาร์มานี่ปล่อยน้ำหอม Si ออกมาหลายตัวเลยค่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือ Si Sono Io น้ำหอมอีกตัวที่ยังคงให้กลิ่นโทน Chypre Fruity และมีโน๊ตที่ใกล้เคียงกับตัวออริจินัล นั่นก็คือ Black Currants, May Rose, Freesia, Vanilla, Patchouli และ Woody ให้ความรู้สึกทันสมัยและมั่นใจในตัวเอง จะติดนิดเดียวก็ตรงที่น้ำหอมมีส่วนผสมของชิมเมอร์ปนมาด้วย ซึ่งอาจจะเกิดการอุดตันได้ง่ายค่ะ

 

10. น้ำหอม Giorgio Armani Si Nacre Sparking limited Edition

 

 

     ยังคงมาในแนวโทนกลิ่น Chypre Fruity อยู่เช่นเดิมค่ะ แต่ถ้าได้ลองดมเปรียบเทียบกับขวดก่อนหน้าจริงๆ จะรู้เลยว่ากลิ่นค่อนข้างแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะขวดนี้ไม่มีส่วนผสมของวานิลลาเหมือนกับขวดก่อนๆ ทำให้ได้กลิ่นออกมาในแนวดอกไม้หอม อย่างดอกไม้ขาวและกุหลาบ รวมถึงขวดนี้ยังมีชิมเมอร์วิบวับเป็นประกายละเอียดเล็กๆ ใส่ผสมมาในน้ำหอมด้วยค่ะ เรียกว่าแค่ฉีดขวดนี้ นอกจากจะได้ความหอมแล้วยังได้ความหรูหราวิ้งค์ๆ แบบมีออร่าด้วยล่ะ

 

11.  น้ำหอม Giorgio Armani Si Fiori

 

 

     Si Fiori EDP ออกมาเมื่อปี 2019 โดยมาในโทนกลิ่น Chypre Floral ให้กลิ่นหวานเก๋ๆ นวลเนียน ละมุนละไมด้วย Black Currant และ Green Mandarin ตามมาด้วย Neroli, Rose, Patchouli และ Oakmoss ก่อนจะปิดท้ายตามสูตรด้วย Vanilla และ White Musk ภาพรวมของขวดนี้ให้กลิ่นหวานหอม ชวนลุ่มหลง บางคนก็บอกว่าเหมือนขนมเลยค่ะ กลิ่นน่ากินสุดๆ เลยล่ะ

 

12. น้ำหอม Giorgio Armani Si Intense 2021

 

 

     น้ำหอม Si ขวดสุดท้ายที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั่นก็คือ Si Intense นั่นเองค่ะ ขวดนี้เพิ่งออกมาล่าสุดในปีนี้เลย ซึ่งก็ให้โทนกลิ่นที่แปลกใหม่ไปจากเดิมอย่าง Amber Floral ด้วย โดยมีกลิ่นของ Blackcurrant Syrup, Turkish Rose และ Davana ตามมาด้วย Benzoin และ Patchouli ปิดท้ายค่ะ ภาพรวมให้ความรู้สึกเหมือน Si ขวดออริจินัลที่มีความเข้มข้นกว่าและให้ความรู้สึกสดชื่นกว่าค่ะ ขวดนี้ยังคงความนุ่มนวล อ่อนโยนในแบบของน้ำหอมตระกูลนี้ไว้ได้ดี ใครที่ชอบกลิ่นของขวดออริจินัลก็สามารถใช้ขวดนี้ได้แบบไม่ผิดหวังค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง