รีเซต

รู้ลึก "ครีมกันแดด" ค่า "SPF" และ "PA++" ปกป้องแสงแดดได้ดีแค่ไหน?

รู้ลึก "ครีมกันแดด" ค่า "SPF" และ "PA++" ปกป้องแสงแดดได้ดีแค่ไหน?
ไทยรัฐ
4 มีนาคม 2562 ( 04:41 )
1.3K
รู้ลึก "ครีมกันแดด" ค่า "SPF" และ "PA++" ปกป้องแสงแดดได้ดีแค่ไหน?

เชื่อว่า "ผู้หญิง" ทุกคน ก่อนออกจากบ้านต้องทา "ครีมกันแดด" ป้องกันแสงแดดทำร้ายผิวหน้า ก็แดดบ้านเรามันร้อนแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ทามีหวังหน้าหมองคล้ำดำแดดไปอีก ซึ่งในครีมกันแดดที่คุณใช้มักจะมีอักษร "SPF" อยู่ แล้วรู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร? มีผลในการปกป้องแสงแดดได้อย่างไร? 

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชวนคุณมาหาคำตอบไปพร้อมกัน...

รู้จัก "SPF" ใน "ครีมกันแดด"

ก่อนอื่น...ต้องทำความเข้าใจว่า แสงแดดที่ส่องลงมาบนพื้นโลก ประกอบด้วยคลื่นแสงมากมาย แต่ที่มีผลกระทบกับผิวมนุษย์มากที่สุดคือ รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet ray, UV) ซึ่งมีปริมาณร้อยละ 10 ในแสงแดด แบ่งเป็นรังสี อัลตราไวโอเลตชนิด A (UVA) ร้อยละ 9.5 และรังสีอัลตราไวโอเลตชนิด B (UVB) ร้อยละ 0.5 ซึ่งสาวๆ ควรทา "ครีมกันแดด" ที่ระบุค่า "SPF" เพื่อช่วยป้องกันแดดทำร้ายผิวได้ยาวนาน

1. รังสี UV มีผลต่อผิวยังไง?

รังสี UVA มีความสามารถทะลุทะลวงและทำลายผิวหนัง ทำให้ผิวแก่ ผิวหนังหนา หยาบกร้าน และมีสีคล้ำขึ้น (tanning) เนื่องจากเกิดการกระตุ้นเซลล์เม็ดสีให้สร้างเม็ดสี (melanin pigment) เพิ่มมากขึ้น

รังสี UVB จะทำให้เกิดอาการผิวหนังร้อนแดง (erythema) หรือเกิดอาการที่เรียกว่าถูกแดดเผา (sun-burn) ทำให้ปวดแสบปวดร้อน นอกจากนี้รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ผิวหนังได้

2. SPF คืออะไร?

"ครีมกันแดด" ที่เราๆ ใช้กันทุกวันนี้มักจะมีคำว่า "SPF" (Sunburn Protection Factor) ใช้บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในการป้องกันรังสี UVB เช่น ถ้าระบุว่า "SPF 15" แปลว่า เมื่อทาผลิตภัณฑ์นี้แล้วสามารถทนแดดได้นานกว่าเดิม 15 เท่า เป็นต้น ยิ่งมีตัวเลขมาก ก็จะยิ่งป้องกันแดดได้หลายเท่ามากขึ้น ในท้องตลาดตอนนี้ SPF สูงสุดอยู่ที่ SPF 100-130

3. SPF สูงๆ ไม่ดีเสมอไป

แต่ในความเป็นจริง ค่า SPF สูงๆ มักจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย กูรูความงามบางคนก็บอกว่า SPF 50 กับ SPF 100 สามารถปกป้อง UVB ได้แทบไม่แตกต่างกันเลย ดังนั้นคนที่มีผิวแพ้ง่าย ใช้ "ครีมกันแดด" SPF 50 ก็เพียงพอแล้ว

และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ พอทาครีมกันแดดแล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงการออกกลางแดดจัดๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าทาแล้วจะอยู่กลางแดดเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งมันผิด!!

4. ค่า PA++ คืออะไร?

นอกจากค่า "SPF" แล้ว ใน "ครีมกันแดด" ก็ยังมีค่า "PA++" ระบุควบคู่ไว้ด้วย ซึ่งค่าตัวนี้ใช้บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการป้องกันรังสี UVA เรียกว่าค่า ppd (persistent pigment darkening) โดยจะแสดงค่าในรูป pa++, pa+++ และ pa++++ โดยยิ่งมีเครื่องหมายบวกมาก ก็จะยิ่งป้องกัน UVA ได้ดี 

วิธีเลือกครีมกันแดด

หลังจากรู้จักกับรังสียูวีชนิดต่างๆ ค่า SPF ค่า PA++ ที่ระบุไว้ในผลิตภัณฑ์กันแดดแล้ว เราก็มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ในการเลือกซื้อ "ครีมกันแดด" มาฝากกันค่ะ

1. ต้องมีทั้ง SPF และ PA++

อย่างแรก การเลือกซื้อครีมกันแดด ควรดูว่าข้างขวดจะต้องมีระบุทั้งค่า "SPF" และ "PA++" เพื่อจะได้ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB ได้ทั้งหมด และปกป้องผิวจากแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. กันแดดแบบกันน้ำ

ผลิตภัณฑ์กันแดดบางชนิด ระบุคุณลักษณะพิเศษในการกันน้ำ (water resistance) เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคทราบว่า ผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทนี้ยังคงสภาพ SPF ตามที่กำหนดแม้เมื่อต้องเปียกน้ำ ซึ่งความสามารถในการกันน้ำ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

- Water resistance product คือ สามารถคงสภาพ SPF ได้ หลังจากแช่น้ำนาน 40 นาที 

- Very water resistance product คือ สามารถคงสภาพ SPF ได้ หลังจากแช่น้ำนาน 80 นาที

3. เลือกใช้ตามสภาพผิว

สำหรับคนที่มีผิวค่อนข้างมัน หรือเป็นสิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ที่เป็น เนื้อโลชั่นหรือเจล จะเหมาะสมกว่า เพราะไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ส่วนคนที่มีผิวแห้ง ควรเลือกใช้ชนิดครีม เพราะครีมมีส่วนที่เป็นน้ำมันช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น และไม่ควรใช้ชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งและเกิดผื่นแพ้ได้ง่าย 

4. วิธีทากันแดดที่ถูกต้อง

วิธีทา "ครีมกันแดด" เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาปริมาณที่ถูกต้อง และระยะเวลาที่เหมาะสม โดยการทาครีมกันแดดสำหรับผิวกายและผิวหน้า จะใช้ปริมาณที่เหมาะสม

- สำหรับทาผิวกาย ใช้ปริมาณ 1 ออนซ์ หรือ 30 ซีซี หรือ 30 กรัม หรือ 6 ช้อนชา หรือ 2 ช้อนโต๊ะ

- สำหรับทาใบหน้า และใบหูทั้ง 2 ข้าง ใช้ประมาณ 1.3 ซีซี หรือ 1.3 กรัม หรือ ขนาดเหรียญ 10 บาท

- ควรทาก่อนออกแดด 30 นาที อีกทั้งต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือทาซ้ำทันทีหลังจากที่เหงื่อออกหรือขึ้นจากสระว่ายน้ำ

- ไม่ควรใช้ยากันแดดที่หมดอายุ เพราะไม่สามารถป้องกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทีนี้ก็ได้รู้ลึกเกี่ยวกับ "ครีมกันแดด" และค่า "SPF" กันแล้ว เวลาคุณไปเลือกซื้อ "ครีมกันแดด" ก็จะได้เลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวและสิ่งแวดล้อมที่คุณอยู่ เพื่อช่วยกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ ไปเลยค่ะ.


ที่มา : pharmacy.mahidolthaihealth, DST

บทความที่เกี่ยวข้อง