รีเซต

เปิดดีเทล 2 ชุดราตรี สะท้อนตัวตนและพลังของ อแมนด้า ออบดัม ชุดราตรีที่ส่งนางงามมากที่สุด!

เปิดดีเทล 2 ชุดราตรี สะท้อนตัวตนและพลังของ อแมนด้า ออบดัม ชุดราตรีที่ส่งนางงามมากที่สุด!
Faii_Natnista
18 พฤษภาคม 2564 ( 11:30 )
4K

     ผ่านไปแล้วกับการประกวด Miss Universe 2020 (มิสยูนิเวิร์ส 2020) ซึ่งแม้ว่า อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม Miss Universe Thailand 2020 (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020) ของเราจะไม่ได้คว้ามงไปในครั้งนี้ แต่ทุกโมเม้นท์บนเวทีนี้ของอแมนด้าก็เป็นที่น่าจดจำสุดๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเก็บตัว ไปจนถึงการเดินบนเวที และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ชุดราตรีสุดปัง ที่สาวอแมนด้าหยิบมาใส่ทั้งในรอบ Preliminary และรอบ Final ซึ่งทั้งสองชุดนี้ก็เป็นชุดราตรีที่ทำให้สาวอแมนด้าสวยงามที่สุดในสายตาของชาวไทยบนเวทีนี้จริงๆ ! วันนี้เราเลยจะพามาดูเรื่องราวและดีเทลของสองชุดราตรีที่เป็นตำนานกันซะหน่อยค่ะ บอกเลยว่าเป็นชุดราตรีที่สะท้อนตัวตนของสาวอแมนด้าได้ดี และส่งให้ตัวอแมนด้าเฉิดฉายบนเวที Miss Universe 2020 (มิสยูนิเวิร์ส 2020) ได้อย่างสวยงามน่าจดจำที่สุด!

 

 

ชุดราตรีสีทอง ของอแมนด้า ออบดัม

     ชุดราตรีชุดนี้เป็นชุดที่สร้างความฮือฮาให้กับคนดูชาวไทยและต่างชาติได้มากที่สุดเลยล่ะ! โดยอแมนด้าได้หยิบชุดราตรีชุดนี้ขึ้นมาใส่บนเวที Miss Universe 2020 ในรอบ Preliminary นั่นเอง

 

 

     ชุดราตรีชุดนี้มีชื่อว่า "Fireworks Embellished Two-Pieces Gown" ชุดราตรีสองชิ้น ปักลายพลุ จากแบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier) แบรนด์เสื้อผ้า ready-to-wear สัญชาติไทย

 

 

     ชุดราตรีสองท่อนสีทองนี้ ถูกเล่าผ่านลวดลายและเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลุ หลังจากที่ "คุณบิ๊ก ดนวัต พฤกษ์ชินวร" ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้พูดคุยกับ "อแมนด้า ออบดัม" เกี่ยวกับเรื่องราวที่เธออยากจะบอกผ่านชุดราตรีนี้ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนเวที Miss Universe ให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงตัวตนของเธอว่าเธอเปนคนเข็มแข็งมากแค่ไหนและสิ่งสำคัญคือเธออยากจะมีเสียงที่ทรงพลังที่จะบอกไห้ทุกคนบนโลกใบนี้ หันมารับฟังเสียงของกันและกัน เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน

 

 

     พลุ (Firework) จึงเป็นภาพที่ดีไซน์เนอร์ต้องการวาดออกมาเพื่อเป็นตัวแทนทั้งความงามและพลังของผู้หญิงที่ได้พูดและแสดงไห้โลกใบนี้ได้เห็นว่าเธอมีสิ่งที่อยากจะบอก และทุกคนต้องหยุดและหันมาฟังในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เหมือนกับเสียงของพลุ ที่เมื่อไหร่มันถูกจุดขึ้น ทุกคนจะต้องหยุดฟังและหันไปมองว่าพลุนั้นมีความงดงามมากเพียงใด อีกทั้งสีทองของพลุยังเป็นภาพแทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จ (Achieve The Universe) ของอแมนด้าที่ได้ต่อสู้และฝ่าฟันไปจนสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ก้าวที่ทุกคนจะหันมามองและรับฟังเธอ และเป็นก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล

     หากพูดถึงเทคนิคและดีเทลงานปัก จะเห็นว่ามีความผสมผสานลายเส้นของพลุที่มีความโค้งมนแสดงถึงความอ่อนโยน กับลายกราฟฟิคเส้นตรงที่แสดงถึงความแข็งแรง ทำให้ชุดนี้มีทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน งานปักที่ผสมผสานทั้งคริสตัล เลื่อม ลูกปัดและปล้องอ้อย ถูกเรียงและไล่เฉดสีไห้เกิดไดนามิคที่เหมือนกับพลุ โดยใช้เวลาในการปักด้วยมือถึง 720 ชั่วโมง

 

 

     นอกจากนั้นโครงชุด (Silhouette) และคัทติ้งต่างๆ ยังถูกหยิบยืมมาจากภาพของนักรบหญิง (Women Warrior) ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมงและคล่องตัวสูงและแสดงถึงความพร้อมในการต่อสู้ของอแมนด้าบนเวที Miss Universe รวมถึงดีไซน์เนอร์ได้ตั้งใจออกแบบให้ชุดนี้เป็นสองชิ้น (Two Pieces Gown) เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับชุดและผู้สวมใส่ให้ดูทันสมัย เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นสากล ต้องเป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงและมีความคล่องตัวสูงสามารถเผชิญสิ่งต่างๆ ได้ในทุกสถานการณ์

     อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเครื่องประดับที่นำมาคอมพลีทลุคให้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากแบรนด์ Jee’s Jewelry แบรนด์เครื่องประดับ Fine Jewelry ของดีไซน์เนอร์ไทยอย่าง "คุณโบ จีรนันท์" ต่างหูคู่นี้ถูกออกแบบมากจากไอเดียเดียวกับกันชุด (Firework) เพื่อความสมบูรณ์แบบของลุคที่จะนำเสนอบนเวทีระดับโลก ตัวเรือน Gold Plate ที่ประดับไปด้วย พลอยและ White Cubic Zirconia ที่เสมือนกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นและส่องสว่างจากภายในสู่ภายนอก รวมไปถึงตัวเรือนที่ถูก custom made ขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงการฉลุตัวเรือนและฝังพลอยอย่างปราณีตโดยช่างทองฝีมือที่ดีที่สุดจากทางแบรนด์ ทำให้ได้เครื่องประดับชิ้นที่เหมาะที่สุดสำหรับลุคนี้

 

 

     Couture-To-Wear คือสิ่งที่ วาเลนเทียร์ (Valentier) พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับวงการนางงาม หลายคนอาจมองว่าเสื้อผ้ากูตูร์เป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง ชุดราตรีชุดนี้จึงถูกออกแบบลดทอนลงมา โดยยังคงงานปักและเทคนิคชั้นสูง (Haute Couture) แต่ผสมผสานให้อยู่ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-To-Wear) เพื่อให้ดูจับต้องได้มากขึ้น "นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน"

 

ชุดอันดามันสีฟ้า ของอแมนด้า ออบดัม

     สำหรับชุดราตรีที่สาวอแมนด้า ออบดัม หยิบมาใส่ในรอบตัดสิน Miss Universe 2020 ชุดนี้ ต้องบอกว่าสะท้อนตัวตนของสาวอแมนด้าได้ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ 

 

 

     โดยชุดราตรีชุดนี้ก็มีชื่อว่า "อันดามัน" ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเกิดของอแมนดา อย่างเกาะ "ภูเก็ต" จังหวัดที่เป็นเกาะซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกอันดามัน" ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่ที่อแมนด้าเรียกว่า "บ้าน" ได้อย่างเต็มหัวใจ

 

 

     ด้วยความที่เติบโตมากับทะเล อแมนด้าจึงมีความผูกพันกับทะเลในหลายๆ ด้าน แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ของอแมนด้า ก็ได้พบกันครั้งแรกที่ริมทะเล นอกจากนี้ ตัวอแมนด้าเองก็ยังเป็นนักประดาน้ำตัวยงอีกด้วย

     สำหรับผู้ออกแบบชุดนี้ก็คือ คุณกานต์ กาฬภักดี เจ้าของแบรนด์ "OAT-COUTURE" นั่นเอง โดยผู้ออกแบบชุดราตรี "อันดามัน" ต้องการให้ชุดนี้เข้าใจง่ายตั้งแต่แรกเห็น เขาจึงรังสรรค์ชุดนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึงคลื่นทะเลอันมีชีวิต ลูกปัดและเลื่อมมากกว่า 15 เฉดสีถูกจัดวางอย่างมีชั้นเชิง และบรรจงปักด้วยมืออย่างประณีตลงบนผ้าตาข่าย ให้เกิดเป็นรูปเกลียวคลื่น สอดประสานกันอย่างกลมกลืนรอบชุด ผลงานออกแบบและตัดเย็บแบบโอตกูตูร์ (Haute Couture) โดย "OAT-COUTUR" ชิ้นนี้ ใช้เวลาร่วม 1,000 ชั่วโมงจึงเสร็จสมบูรณ์

 

 

     "อันดามัน" ไม่เพียงแต่เน้นทรวดทรงที่สวยงามของอแมนด้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความเป็นตัวตนของเธอด้วย "อันดามัน" จึงเป็นชุดราตรีที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของ อแมนด้า ออบดัม อย่างแท้จริง

 

     หลังจากนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะว่า สาวอแมนด้าจะไปเฉิดฉายบนเวทีการประกวดอื่นๆ ให้เราได้เห็นความสวยและความมุ่งมั่นของเธออีกครั้งหรือไม่ นาทีนี้เราก็ขอส่งกำลังใจให้สาวอแมนด้า ชาลิสา ออบดัมอีกครั้ง บอกเลยว่าแม้เธอจะไม่ได้มง แต่จะไม่มีใครลืมภาพอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม บนเวทีการประกวด Miss Universe 2020 แน่นอน

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง