5 วิธีลดสิวเครียด จัดการกับปัญหาสิว ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด ได้อย่างไร?
สาเหตุของการเกิดสิวนั้นเกิดได้จากหลายๆปัจจัยด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือความเครียดนั่นเอง...และหากว่ามันเกิดขึ้นกับเรา เราจะมีวิธีลดสิวเครียด จัดการกับปัญหาสิว ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด ได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
สิวเครียด กับ สิวธรรมดา ต่างกันอย่างไร?
ลักษณะของสิวเครียด จริงๆแล้วมีความคล้ายคลึงกับสิวธรรมดาเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยจะสามารถปรากฏออกมาในลักษณะของสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนอง หรือสิวซีสต์ได้นั่นเอง ดังนั้นหากเราพบว่า เราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสิว หรือบำรุงผิวหน้าอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังเกิดสิวอีก ลองถามตัวเองดูซิว่า เรากำลังเครียดอยู่รึเปล่า เพราะความเครียดถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้นั่นเอง
วิธีสังเกตสิวเครียด
สิวที่เกิดจากความเครียดมักจะขึ้นอยู่ตรงบริเวณส่วนทีโซนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตรงบริเวณหน้าผาก จมูก หรือคาง นั่นก็เป็นเพราะว่า ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมน้ำมันของเราทำงานมากขึ้นนั่นเอง และความมันนี่แหละค่ะที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายตามมา นอกจากนั้นสิวเครียดยังสามารถปรากฏได้ตามตัวอีกด้วย เช่นบริเวณหลังหรือหน้าอก รวมถึงบริเวณใต้คาง กราม และลำคอที่มักจะเป็นสิวหนองด้วยค่ะ
วิธีลดสิวเครียด
1. หลีกเลี่ยงในการทำสิ่งที่ทำให้แย่ลง
หลายๆคนเมื่อพบว่าตัวเองมีสิวขึ้น ก็มักจะแพนิคมากๆ ซึ่งมันจะยิ่งทำให้เราเครียดหนักกว่าเดิมและยิ่งเป็นสิวมากกว่าเดิมได้นะคะ ถ้าอยากให้สิวเครียดลดลงเร็วๆ วิธีสุดเบสิกอย่างแรกเลยก็คือ ไม่ควรแกะสิวค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้สิวเห่อและเกิดรอยสิวได้ ซึ่งถ้าเกิดรอยแล้วล่ะก็ จะยิ่งรักษาให้หายยากเลยล่ะค่ะ ต่อมาคือไม่ควรล้างหน้าหรือผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป ควรล้างวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ แล้วก็อย่าลืมล้างหน้าหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จและมีเหงื่อมากด้วยนะคะ ที่สำคัญอย่าพยายามลองใช้ครีมแต้มสิวไปเรื่อย เพราะครีมบางตัวก็อาจทำให้สิวเห่อได้มากขึ้น เนื่องจากอาการแพ้นั่นเอง
2. เปลี่ยนวิธีบำรุงผิว
สกินแคร์ลดสิว
ในช่วงที่เป็นสิว เราอาจจะต้องหยุดใช้ครีมบางตัวไปก่อน และปรับเปลี่ยนขั้นตอนการบำรุงผิวของเราเสียใหม่ โดยให้เพิ่มสกินแคร์ลดสิวเข้า และเราแนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid หรือ Benzoyl peroxide ค่ะ เพราะสองตัวนี้มีส่วนช่วยลดสิวได้ดีมากๆ โดยตัว Salicylic acid จะมีส่วนช่วยลดความมันส่วนเกินและลดการอุดตัน ในขณะที่ Benzoyl peroxide มีส่วนช่วยลดการอักเสบและแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงยังช่วยลดสิวอุดตันรูขุมขนอีกด้วย
ผลัดเซลล์ผิว
ในช่วงที่เราเป็นสิว ไม่ควรสครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวนะคะ เพราะจะไปเป็นการรบกวนผิวหนังและทำให้เกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิมได้ โดยเราแนะนำให้ผลัดเซลล์ผิวด้วยการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล, BHA หรือ AHA แทนค่ะ
ปลอบประโลมผิว
หลังจากที่เราใช้ครีมลดสิวและผลัดเซลล์ผิว ที่เต็มไปด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์หนักๆแล้ว เราควรที่จะปลอบประโลมผิวด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ สารสกัดจากใบบัวบกหรือสารสกัดจากสาหร่ายด้วยนะคะ เนื่องจากส่วนผสมตามธรรมชาตินี้ที่มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของผิวได้นั่นเอง
เพิ่มความชุ่มชื้น
แน่นอนว่าหลายๆคนมักจะพบเจอกับปัญหาผิวแห้งในช่วงที่ใช้ครีมลดสิวอยู่ นั่นก็เป็นเพราะว่าครีมลดสิวมีส่วนทำให้ผิวของเราแห้งและบอบบางได้นั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ โดยแนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความบางเบานะคะ ใช้แล้วจะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ฟื้นฟูและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เพราะเมื่อผิวมีความแข็งแรงแล้ว ก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ยากนั่นเองค่ะ
ปกป้องผิวจาก UV
ท้ายที่สุดแล้ว การบำรุงผิวของเราอาจจะไม่ได้ผลเลย ถ้าเราไม่ทาครีมกันแดดปกป้องไปด้วยอีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากรังสี UV นั้น ถือเป็นตัวการร้ายที่ทำให้ผิวของเราเสียหายหนักได้ ดังนั้นเราจึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน แม้แต่ตอนที่อยู่บ้านก็ต้องทานะคะ เพราะรังสี UV สามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ทุกที่เลยก็ว่าได้ เพียงแค่เปิดม่าน เราก็ได้รับรังสี UV แล้วล่ะค่ะ
3. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
ลำไส้ สมอง และผิวหนังของเรามีความเกี่ยวโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นอีกหนึ่งวิธีลดสิวเครียดเลยก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราค่ะ โดยเราควรทานอาหารประเภทโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ให้มากๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรืออาหารประเภทนม รวมถึงให้เน้นอาหารที่มีวิตามินเอ ซี และบี เนื่องจากมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดสิวได้ รวมถึงอาหารเสริมอย่างซิงค์ กรดแพนโทเธนิค หรือไนอะซินาไมด์ ก็มีส่วนช่วยจัดการกับปัญหาสิวได้เช่นเดียวกันค่ะ
4. ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิต
วิธีการลดสิวเครียดอย่างตรงจุดเลยก็คือการลดความเครียดนั่นเองค่ะ แต่ความเครียดนั้นถือได้ว่าไม่ใช่เรื่อง่ายเลยที่ใครๆจะจัดการมันได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่เป็นไรนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆก็ได้ โดยให้เราเริ่มจากการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดนั้น เพื่อที่เราจะแก้ได้อย่างตรงจุดและพยายามแก้ไขมันอย่างมีสติ รวมถึงเรายังต้องใช้ชีวิตให้เฮลท์ตี้ควบคู่กันไปด้วยจึงจะช่วยให้ความเครียดลดลงไปได้เร็วค่ะ อย่างเช่น การทานอาหารให้สมดุล ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายอยู่เสมอ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอด้วยค่ะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เฮลท์ตี้มีส่วนช่วยให้เราจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น เนื่องจากระบบในร่างกายของเราได้รับการบำรุงที่ดีๆจากการใช้ชีวิตที่ดีของเรานั่นเอง เรียกได้ว่าทุกส่วนในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกันทั้งหมดเลยล่ะค่ะ
5. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ในท้ายที่สุดนี้ หากใครลองทำตามแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ได้ผล ให้เราปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีกว่ามากค่ะ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน วิธีที่ใช้ได้ดีกับอีกคน อาจจะใช้ได้ไม่ดีกับอีกคนหนึ่งก็เป็นได้ ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างตรงจุดตามสภาพผิวของเราค่ะ
.........................................
อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน
ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!
บทความที่คุณอาจสนใจ