เคล็ดไม่ลับ จัดการปัญหา รอยตีนกา ให้คุณกลับมาเป็นสาววัย 18 อีกครั้ง
ปัญหาริ้วรอยเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำหรับคุณผู้หญิงอย่างเรา เมื่ออายุมากขึ้นยิ่งต้องเผชิญกับปัญหาริ้วรอยต่างๆ ทั้งรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้า และบริเวณรอบดวงตาที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า "รอยตีนกา" ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้คุณผู้หญิงอย่างเราขาดความมั่นใจ แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีทางเลือกในการรักษามากมายที่ช่วยให้คุณกลับมามั่นใจอีกครั้ง วันนี้ Hello คุณหมอ ได้นำวิธีจัดการปัญหารอยตีนกามาฝากกันค่ะ จะมีวิธีอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย
รอยตีนกา เกิดจากอะไรกันนะ
รอยตีนกา (Crow's feet) มีลักษณะเป็นริ้วรอยเส้นเล็กๆ เกิดขึ้นบริเวณหางตาถูกใช้บ่อยจากการแสดงอารมณ์ต่างๆซ้ำๆ เช่น การร้องไห้ การหัวเราะ การยิ้ม และความเครียด เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า และเมื่ออายุเราเริ่มมากขึ้นคอลลาเจน (Collagen) ชั้นใต้ผิวเริ่มเสื่อมสภาพลงส่งผลให้เกิดรอยตีนกาขึ้นได้เช่นกัน
สาเหตุของการเกิด รอยตีนกา
- การแสดงสีหน้าต่างๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ การร้องไห้ การขยี้ตา เมื่อทำอาการเหล่านี้บ่อยๆซ้ำๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
- พักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุให้เกิดรอยตีนกา และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงจะช่วยลดปัญหาเรื่องริ้วรอยตีนกา และทำให้ใบหน้าสดใสเปล่งปลั่ง
- สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่บ่อยๆทำให้ผิวหน้าของเราเหี่ยวย่นไว และยังเป็นอันตรายต่อปอด ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียกับสุขภาพของตนเองยังรบกวนคนรอบข้างอีกด้วย
เคล็ดไม่ลับ จัดการปัญหารอยตีนกา ด้วยสูตรจากธรรมชาติ
มาสก์หน้าด้วยโยเกิร์ต
- การมาสก์หน้าด้วยโยเกิร์ตจะช่วยลดปัญหาริ้วรอยที่ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี มีวิธีทำง่ายๆเพียง นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำมาพอกที่บริเวณผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำเป็นประจำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังทำจะรู้สึกว่าผิวหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น
แตงกวา
- แตงกวามีประโยชน์มากมายที่ดีต่อผิวมีวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เพียงนำแตงกวามาฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วมาวางไว้ที่เปลือกตาทิ้งไว้ประมาณ 5-20 นาที ทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดเลือนริ้วรอยตีนดา
น้ำมันมะพร้าว
- น้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น เพียงหยดน้ำมันมะพร้าวลงบนสำลี 2-4 หยด แล้วนำมาทาที่ผิวหน้าเป็นประจำก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออก จะทำให้ริ้วรอยตีนกาตื้นขึ้น
ใบบัวบก
- ใบบัวบกนั้นช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน คืนความชุ่มชื่นให้กับผิว เพียงนำใบบัวบกมาปั่นให้ละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำ นำสำลีชุบมาทารอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์
เคล็ดไม่ลับ จัดการปัญหารอยตีนกา ด้วยการศัลยกรรม
ฉีดฟิลเลอร์
- การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดรอยตีนกาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่มีริ้วรอยโดยตรงเพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกบริเวณใบหน้าให้ตื้นขึ้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์นั้นอยู่ได้นาน 4-6 เดือน อย่างไรก็ตามก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยต่อผิวหน้า
ฉีดโบท็อกซ์
- การฉีดโบท็อกซ์ช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอยผ่อนคลาย และช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ริ้วรอยตื้นขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากทำการฉีดโบท็อกซ์ห้ามทำการนวดหน้าเป็นเวลา 1 สัปดาห์และการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยในช่วงอายุ 30-50 ปี แต่ไม่สามารถลดริ้วรอยร่องลึกในวัยสูงอายุได้
เลเซอร์
- การยิงเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ริ้วรอยตีนกาลดเลือนลงได้ โดยความร้อนจากเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนส่งผลให้ผิวหน้าบริเวณหางตาตื้นขึ้น อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกสถาบันที่มาตรฐานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ศัลยกรรมยกคิ้ว
- การผ่าตัดยกคิ้วเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากและเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดรอยตีนกาโดยฉีดยาชากรีดที่ปลายคิ้วแล้วดึงรั้งเนื้อเยื่อใต้คิ้วขึ้นไปเย็บ ซึ่งจะทำให้รอยตีนกาตึงและตื้นขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
เคล็ดลับในการป้องกันรอยตีนกา
- ครีมกันแดด การปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกัน SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปจะช่วยลดอัตราการเกิดรอยตีนกาและป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
- ออกกำลังกาย นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วนั้นยังช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายเป็นการชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง หากรับประมาณทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมากๆจะทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นจึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ไว
- สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพยังเป็นสาเหตุของริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีจัดการปัญหารอยตีนกาที่นำมาฝากกันในวันนี้ ใครชอบวิธีไหนเลือกไปใช้กันดูนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์จะเกิดได้เร็วหรือช้านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด