รีเซต

แฟชั่นโชว์ FENDI Couture Autumn/Winter 2023 คอลเล็กชั่นที่เรียบง่ายแต่แฝงความประณีต

แฟชั่นโชว์ FENDI Couture Autumn/Winter 2023 คอลเล็กชั่นที่เรียบง่ายแต่แฝงความประณีต
FaiiNatnista
10 กรกฎาคม 2566 ( 15:00 )
365

     “ในซีซั่นนี้ เราต้องการมุ่งเน้นที่ความพริ้วไหว การเดรป และโครงสร้างชุดผ่านเทคนิคกูตูร์ โดยนำองค์ประกอบต่างๆมารวมกับทัศนคติของปัจจุบัน” Kim Jones ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ FENDI กูตูร์และเสื้อผ้าสตรีกล่าว“เราสร้างต้นแบบตามเครื่องประดับชั้นสูงของ Delfina หากไม่มีเครื่องประดับ แนวความคิดนี้จะยังคงนำเสนอผ่านโทนสีและการประดับตกแต่งในคอลเล็คชั่น ในส่วนของเสื้อผ้าเองก็ได้ใช้แนวคิดของเครื่องประดับเช่นกัน สีมาจากโทนสีเนื้อเช่นเดียวกับสีของอัญมณี อาทิเช่น เพชรสีดำ ทับทิม แซฟไฟร์ โดยมีการเล่นกับความอ่อนและความแข็ง โทนสีเนื้อและอัญมณี”
 
     “ฉันมีความรู้สึกอันลึกซึ้งกับเครื่องประดับในคอลเล็คชั่นนี้ ซึ่งฉันหวังว่าผู้หญิงที่ได้สวมใส่เครื่องประดับนี้ก็จะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน” Delfina Delettrez Fendi ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเครื่องประดับ FENDI กล่าว “การรังสรรค์เครื่องประดับเช่นนี้ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมาก โดยชิ้นงานเล็กๆพวกนี้ไม่เพียงแต่มีความแข็งแรงและความหมาย แต่เครื่องประดับเหล่านี้ยังมีความสัมพันธ์โดยตรงและใกล้ชิดกับร่างกาย พวกมันเป็นส่วนส่งเสริมและเป็นส่วนหนึ่งของสตรี”

 

 

     โดยในซีซั่นนี้ Kim Jones และช่างฝีมือของ FENDI ateliers ยังคงรังสรรค์ความดั้งเดิมของกูตูร์ให้ผู้คนสวมใส่ได้จริงและเข้าถึงง่ายรวมถึงมีน้ำหนักเบาให้ความรู้สึกลื่นไหล ทั้งการเดรป และความสบายสำหรับผู้สวมใส่ การละทิ้งความเป็น 'คอสทูม' เพื่อเปิดรับความอ่อนโยนและให้ความรู้สึกถึงเสื้อผ้าสตรีมากขึ้น ความนุ่มนวลได้แสดงออกผ่านเสื้อผ้า ทั้งในแง่ของความยืดหยุ่นในการสวมใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลวดลายรัดตัวด้านนอก - และความรู้สึกที่แท้จริงเมื่อได้สวมใส่

     คอลเล็คชั่นนี้มีแนวคิดของความเรียบง่ายและมีความประณีตซ่อนอยู่ โดยให้ความสำคัญแก่ปริมาตร ผ้าเดรป และรูปทรงประติมากรที่เกิดจากการตัดแพทเทิร์นที่ซับซ้อนและละเอียด โดยเสื้อผ้ามักจะใช้ตะเข็บเพียงตะเข็บเดียว นี่คือความสำเร็จอันกล้าหาญที่กระซิบกระซาบแทนการตะโกนผ่านผ้าไหมซึ่งเปรียบสเมือนผิวหนังชั้นที่สอง ควบคู่ไปกับการถักที่สลับซับซ้อนและเดรปอย่างประณีตในชิ้นเดียว ขนสัตว์เทียมนีโอพรีนสั่งตัด และ เฟอร์ขนแกะลายเซฟลอนของ FENDI ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว การออกแบบนั้นไม่ได้เพียงส่งเสริมรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาเท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงความเป็นจริงในการการสวมใส่อีกด้วย

 

 

     แนวทางการออกแบบของ Delfina Delettrez Fendi มุ่งเน้นถึงความแม่นยำ อารมณ์ และความรู้สึกที่แท้จริง ซึ่งพบเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านความประณีตที่มีต่อเครื่องประดับชั้นสูงที่อยู่ร่วมกันกับคอลเล็คชั่นนี้ โดยเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของชิ้นงานอันเป็นเอกลักษณ์ที่ส่งผลให้แนวคิดของชุดกูตูร์ขยายไปจนถึงเครื่องประดับ มาพร้อมดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาและความร่วมสมัยด้วยโทนสีของ FENDI ซึ่งประกอบด้วยเพชรสีขาวบริสุทธิ์และสีเหลืองอันโดดเด่นพร้อมด้วยแซฟไฟร์และสปิเนลสีเขียว สีส้ม และ พัดพารัดชา (Padparadscha) สีชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสปิเนลสีชมพูที่อยู่ในชุดเครื่องประดับ 'Undarum' ในคอลเล็คชั่นนั้นใช้เวลาถึงสี่สิบปีในการรวมตัวกันและมีท่าทีที่จะไม่เกิดขึ้นในธรรมชาติอีก

     ลักษณะอันละเอียดละออของคอลเล็คชั่นกูตูร์ในครั้งนี้ มาถึงจุดสูงสุดด้วยการเนรมิตเทคนิคการปักที่ผสมผสานโลกของเสื้อผ้าและเครื่องประดับเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว โดยในขณะที่เหล่านางแบบถือกระเป๋าอัญมณีทรงกล่อง minaudière เอาไว้นั้น บรรยากาศในโชว์เสริมสร้างอารมณ์อันงดงามเปรียบสเหมือนการประดับประดาของอัญมณี อีกทั้งในช่วงปิดโชว์ยังมีการเรียงเลเยอร์สลับซับซ้อนกันด้วยการแบ่งชั้นของโทนสีและอัญมณีอย่างประณีต เพื่อให้ไฟนอลลุคเปล่งประกายระยิบระยับดั่งดอกกุหลาบ โดยใช้เวลารังสรรค์งานฝีมือชิ้นนี้กว่า 1,200 ชั่วโมง

 

 

     เพลงประกอบโชว์ในครั้งนี้คือเพลง 'The Cold Song' ของ Klaus Nomi ซึ่งอิงจากต้นฉบับสไตล์บาโรกอังกฤษของ Henry Purcell จากศตวรรษที่ 17 โดยยังคงสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์และความละเอียดของคอลเล็คชั่นนี้ และของกูตูร์ซึ่งอดีตกลายเป็นรากฐานสำหรับคลื่นลูกใหม่ในปัจจุบันและอนาคต

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง