รีเซต

FENDI เผยโฉมคอลเล็กชั่น Summer 2024 ถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาของฤดูร้อน

FENDI เผยโฉมคอลเล็กชั่น Summer 2024 ถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาของฤดูร้อน
FaiiNatnista
11 พฤษภาคม 2567 ( 12:00 )
53

     “กรุงโรมเป็นสถานที่ที่รวบรวมทั้งความเป็นเมืองและชายหาดเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นการสื่อสารที่มีประวัติศาสตร์โบราณและประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ตั้งแต่เพโทรเนียสไปจนถึงปาโซลินี” กล่าวโดย Kim Jones ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกกูตูร์และเสื้อผ้าสตรี “มันคือเรื่องราวที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับความยินดี งานอดิเรก การงานและละคร หรืออีกนัยหนึ่งคือชีวิต ผมต้องการต้องคอลเล็กชั่นนี้สะท้อนและขยายแนวคิดเรื่องเสรีภาพของชาวโรมัน ความสง่างามในความเรียบง่ายและไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร หรือการที่ผู้หญิงแต่งตัวเพื่อความเป็นตัวเองและชีวิตของพวกเธอเอง มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นใจและความชิคที่มาพร้อมกัน และไม่ใช่เพียงเป็นบางสิ่งเท่านั้นแต่คือการเป็นใครบางคน”
 
     การดึงดูดของเมืองอันเป็นนิรันด์และชายฝั่ง การใช้ชีวิตในเมืองและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่แสงแดดสาดส่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตำนานและความเป็นจริงตามแบบวิถีชีวิตของชาวโรมัน คอลเล็กชั่น Summer 2024 ได้สะท้อนถึงโชว์ของคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 โดย Kim Jones ผ่านการรังสรรค์พาเลทสีอันสดใสของ สีฟ้าอ่อน สีแดงสด สีเหลืองสดใส และตัดด้วยสีธรรมชาติพร้อมทั้งสีสันสดใส ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาของฤดูร้อนและเสริมความหรูหราบนชิ้นงานที่สามารถใช้งานได้จริง เฉดสีพาสเทลอันละเอียดอ่อนของสีเบจและสีน้ำตาล สีฟ้าอ่อนและสีน้ำเงินกรมท่า ผสมผสานกับเฉดสีทอันสดใส อีกทั้งสีส้มแซลม่อนและสีเหลืองทอง ถูกนำมาใช้ในตลอดทั้งคอลเล็กชั่นเพื่อให้ความรู้สึกถึงความสบาย ความผ่อนคลาย และซิลูเอทของความเป็นสปอร์ตซึ่งรังสรรค์ด้วยผ้าไหมโปร่งแสง นอกจากนี้การตัดเย็บอันประณีตรวมถึงผ้าถักปักเลื่อม คอลเล็กชั่นนี้มาพร้อมเสน่ห์ของ Dolce Vita ซึ่งเป็นการเน้นย้ำอีกครั้งถึงแนวคิดเสรีภาพของชาวโรมัน ตัดกับฉากหลังอันสนุกสนานของทั้งเมืองและชายฝั่ง

 

 

     โดยคุณภาพที่แท้จริงของ FENDI คือแนวคิดที่กล่าวถึงความเป็นคู่ของขั้วตรงข้าม (duality) ได้สอดแทรกอยู่ในตลอดทั้งคอลเล็กชั่น ตั้งแต่ถนนในเมืองไปจนถึงชายทะเล จากความเป็นจริงสู่ความสนุกสนาน ความเงียบงันไปจนถึงความมีชีวิตชีวา ทั้งหมดนี้คือบทสรุปของการชุบชีวิตลาย Pequin อันเป็นเอกลักษณ์ เป็นแพทเทิร์น ‘logo no logo’ แนวตั้ง ในสีดำและสีน้ำตาล tobacco ได้ถูกออกแบบครั้งแรกโดย  Karl Lagerfeld ในปี ค.ศ. 1983 การแสดงออกถึงความหรูหราที่ซ่อนอยู่อย่างแท้จริง ซึ่งได้รับการตีความใหม่ด้วยโทนสีสองสีของเฉดสีที่สดใสและเฉดสีธรมมชาติโทนอ่อน ประกอบไปด้วย สีเหลือง สีฟ้าอ่อน สีเบจและสีน้ำเงินเข้ม ตั้งแต่เสื้อตัวนอกไปจนถึงเสื้อผ้าสำหรับใส่บนชายหาด โดยลาย Pequin ได้ถูกนำไปใช้กับเสื้อผ้า ready-to-wear สำหรับผู้หญิงพร้อมด้วยลูกเล่นแบบร่วมสมัย ดังที่ได้เห็นบนเสื้อแจ็กเก็ตที่สามารถใส่ได้ในทุกวัน เสื้อผ้าแยกชิ้นที่ทำจากผ้าไหมทวิล ชุดเดรสและกางเกงจากผ้าทูลลิ่งโปร่ง เช่นเดียวกับการปักเลื่อมอันระยิบระยับลงบนผ้าริบ (rib) ความรู้สึกเดียวกันนี้ได้ถูกสะท้อนให้เห็นในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ โดยลาย Pequin ได้ปรากฎอยู่บนวัสดุที่เหมาะสมสำหรับฤดูร้อน ตั้งแต่ฟองน้ำไปจนถึงผ้าคอตตอนและโครเชต์

 

 

     สไตล์ป๊อปและการใช้งานจริงพบเห็นได้เพิ่มเติมจากรูปแบบการใช้ผ้าเดนิมในคอลเล็กชั่นนี้ การย้อมด้วยลวดลาย Pequin ที่มีสีเข้มยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนด้วยผ้าแชมเบรย์ลาย FF ในเอฟเฟ็กต์โทนสี 2D อันนุ่มนวล หรือการฟอกขาวในเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ เพื่อเป็นการต่อยอดสไตล์ของโชว์จากคอลเล็กชั่น Women’s Spring/Summer 2024 โดยเสื้อคาร์โค้ตมาพร้อมกับผ้าแชมเบรย์ลาย FF ในขณะที่แจ็กเก็ตเดนิมคลาสสิกปรากฎในเดนิมลาย Pequin ร่วมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นอย่าง ยีนส์ เดรสเชิ้ต และกระโปรงสั้น มากไปกว่านั้นเดนิมยังได้ถูกตีความใหม่อีกครั้งสำหรับเสื้อผ้าบุรุษด้วยการรังสรรค์แพทเทิร์นฟรินจ์พิมพ์ลาย FF บนผ้าลินิน หรือผ้าคอตตอนจากโชว์ของคอลเล็กชั่น  Men’s Spring/Summer 2024

     ทั้งลาย Pequin และเดนิมมีความโดดเด่นควบคู่ไปกับลายปริ้นท์ประจำฤดูกาล โดย FENDI มีความสลับซับซ้อนด้วยการเน้นไปที่การใช้เทคนิคสองสี และกราฟฟิกอันมีชีวิตชีวาของทั้งเสื้อผ้า ready-to-wear สำหรับผู้หญิงและเสื้อผ้าฤดูร้อนสำหรับผู้ชายในกรุงโรม กราฟิกที่งดงามได้รับแรงบันดาลใจจากพาเลทสีโทนอุ่นจากดวงอาทิตย์ขณะกำลังตกดินในกรุงโรม การเปลี่ยนโครงสร้างบริบทเพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ และสไตล์เสื้อผ้าสำหรับการทำกิจกรรม ช่วยเติมเต็มการเคลื่อนไหวในคอลเล็กชั่นนี้ อีกทั้งยังผสมผสานระหว่างความสบายและความเป็นทางการ พร้อมความสนุกในการแสดงถึงความเป็นอิสระตามแบบฉบับของชาวโรมัน

     แอ็กเซสซอรีโดย Silvia Venturini Fendi ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกแอ็กเซสซอรีและเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ สะท้อนถึงความน่าดึงดูดของผู้สวมใส่ที่มีความหลากหลาย ขณะเดียวกันยังครอบคลุมถึงการเล่าเรื่องโดยรวมของคอลเล็กชั่นนี้ ในที่นี้ยังมีการตอกย้ำว่าไม่ได้มีเพียงผู้หญิงแบบเดียวเท่านั้นสำหรับ FENDI แต่ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ FENDI สนับสนุนให้ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองและน้อมรับแนวคิดเสรีภาพของชาวโรมัน โดยใช้ประโยชน์ของผ้าแจ็กการ์ดลาย Pequin ผ้าเดนิมลาย FF เส้นใยรัฟเฟีย การสานหนัง และการปัก รวมถึงความเอ็กโซติก ให้ความรู้สึกถึงความเป็นฤดูร้อนด้วยการผสมผสานความสบายและงานหัตถกรรมเข้าด้วยกัน แต่ยังคงแสดงออกถึงความเป็นเลิศของผู้เชี่ยวชาญทั้งบนกระเป๋าและรองเท้า

     “พวกเรานั้นมีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ทุกคนยังเป็นที่รู้จักในฐานะของ FENDI รวมถึงผู้หญิงของ FENDI อย่าง ‘Fendininity’! “ กล่าวโดย Silvia Venturini Fendi

     ด้วยเท็กซ์เจอร์ที่มีความบางเบาประจำฤดูกาล และงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ กระเป๋า Baguette และกระเป๋า Peekaboo ได้ตกแต่งด้วยลาย Pequin รวมไปถึงกระเป๋าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคลังอาร์ไคฟ์อย่างกระเป๋า Roll ซึ่งเป็นกระเป๋าช็อปเปอร์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งสองด้าน เดิมถูกออกแบบมาเพื่อสวมใส่กับกระเป๋า Baguette โดยในครั้งนี้มาในหลากหลายขนาด โดยมีทั้งหมด 3 ขนาด ในการแมชของเสื้อผ้า ready-to-wear ได้นำสองสีที่มีความแตกต่างกันมาประยุกต์ใช้บนผ้าแจ็กการ์ดพร้อมด้วยลาย Pequin และลาย FF ทั้งด้านในและด้านนอก ในขณะเดียวกันรูปแบบลาย Pequin ของงานฝีมือการถักรูปแบบไขว้สลับ หรือ interlace ด้วยมือมาในลายทางโทนสีสองสีบนกระเป๋า Peekaboo ISeeU Mini กระเป๋า Petite และกระเป๋า Origami ตัดขอบด้วยการถักสีเหลืองสว่าง และสีน้ำเงิน pale blue ในส่วนของเสื้อบุรุษนั้น ลาย Pequin กลับมาอีกครั้งในโทนสีใหม่อย่างสีฟ้าอ่อนและสีน้ำเงินเข้ม บนกระเป๋าผ้าแจ็กการ์ดอย่างกระเป๋า Peekaboo ISeeU Medium และ Mini รวมถึงกระเป๋า Go To Shopper โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับซับในลาย FF ที่ตัดกัน

 

 

     วัสดุฟางได้เพิ่มความมีชีวิตชีวาและยกระดับไลน์กระเป๋าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการค้นหารูปทรง เฉดสีธรรมชาติของวัสดุ พร้อมทั้งพื้นผิว และเทคนิคที่หลากลหาย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในด้านวัสดุของ  FENDI ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฟางลาย Pequin มาในโทนสีธรรมชาติและสีน้ำตาล เพิ่มกลิ่นอายใหม่ให้กับกระเป๋า Baguette Chain กระเป๋า Peekaboo และกระเป๋า Sunshine Shopper โดยในกระเป๋าใบสุดท้ายได้ถูกเติมเต็มด้วยการเย็บรูปแบบมาโคร Selleria อันเป็นเอกลักษณ์ เทคนิคการถักแบบ  macrame  ปรากฎอยู่บนกระเป๋า Baguette และ Peekaboo รุ่นที่ไม่มีซับใน นอกจากนี้ยังปรากฎบนกระเป๋า Fendigraphy และ Origami รวมถึงขนาดมินิอีกด้วย ทั้งหมดนี้ตัดกับหนังสีน้ำตาล ซึ่งช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับกระเป๋า Sunshine Shopper กระเป๋า Mini By The Way และกระเป๋า Mini Mon Trésor ที่มาในฟางแบบเรียบพร้อมด้วยตัวอักษร FENDI ทักษฝีมือที่ทำด้วยมือแบบพิเศษทำให้ไอคอนของเมซงโดดเด่นมากยิ่งขึ้น อย่างกระเป๋า Baguette สานด้วยเส้นใยรัฟเฟียประดับเลื่อมสีทอง ซึ่งใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในการทำ และกระเป๋า Peekaboo ISeeU Petite ถักด้วยโครเชต์สามมิติ ใช้ระยะเวลาในการถักมือกว่า 11 ชั่วโมง โลโก้ไอคอนิก FF ได้ถูกรังสรรค์ใหม่ด้วยการใช้เส้นใยรัฟเฟียธรรมชาติบนกระเป๋า Roll Bag ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อโลกน้อยที่สุด สร้างสรรค์ขึ้นในมาดากัสการ์โดย Made For A Woman สมาคมเพื่อสังคมที่นำโดยผู้หญิงและมีผู้หญิงเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับช่างฝีมือชาวมาลากาซี และประกอบขึ้นโดยช่างฝีมือเครื่องหนังของ FENDI เพื่อเสริมหูกระเป๋าด้วยการเย็บแบบ Selleria

 

 

     ตามมาด้วยเสื้อผ้า ready-to-wear เดนิมยังคงสร้างแรงบันดาลใจในด้านสีสันและการใช้วัสดุอันหลากหลายของกระเป๋าในลักษณะที่สบาย ๆ ผ้าแจ็กการ์ดเดนิม FF สีน้ำเงิน cools blue ตัดกับดีเทลหนังสีเบจ ซึ่งครอบคลุมกระเป๋าซิกเนเจอร์อย่าง กระเป๋า Baguette กระเป๋า Fendigraphy กระเป๋า C’Mon และกระเป๋า Sunshine Shopper พร้อมด้วย กระเป๋ามินิไอคอนอย่างกระเป๋า Origami กระเป๋า Mini Mon Trésor และกระเป๋า Mini By The Way ฝีมือการถักรูปแบบไขว้สลับ หรือ interlace ได้ถูกนำเสนอบนกระเป๋า Peekaboo รูปแบบเดนิมอย่างคาดไม่ถึง งานปักเลื่อมพิมพ์ลายด้วยมือตามรูปแบบของเดนิมฟอกสีบนกระเป๋า Baguette ในขณะที่ผลงานจากหนังอัลลิเกเตอร์ที่ทำด้วยมือสุดพิเศษ มาพร้อมรูปแบบและสีสันของเดนิมที่น่าประหลาดใจ บนกระเป๋ารุ่น Baguette และกระเป๋า Peekaboo หนังเอ็กโซติกที่ไม่เหมือนใคร ในส่วนของเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ เดนิมสีน้ำเงินได้แสดงออกถึงการเปลี่ยนสีตามฤดูกาลของผ้าแจ็กการ์ด FF ไอคอนิก และยังแต่งเติมด้วยรูปแบบ FENDI Diagonal อีกด้วย นอกจากนี้กระเป๋าเป้สายสะพายเดี่ยวรุ่นใหม่อย่าง FENDI Cono ยังมาเติมเต็มเหล่าเครื่องหนัง มาพร้อมกับฟังกืชั่นการใช้งานและรูปลักษณ์ที่ผ่อนคลาย

     รองเท้าถือเป็นรากฐานของทั้งความสวยงามและการใช้งานได้จริงของคอลเล็กชั่นนี้ อย่างไรก็ตามบริบทต่าง ๆ ได้ถูกเปลี่ยนและสลับอีกครั้ง  ในบางครั้งอาจมีความเป็นทางการในบรรยากาศสบาย ๆ และชายหาดบนถนนในเมือง ในขณะเดียวกันยังไม่ลืมฟังก์ชั่นการใช้งานและความสะดวกสบาย จุดเด่นของคอลเล็กชั่นรองเท้านี้คือรองเท้าโลฟเฟอร์ที่สร้างสรรค์ด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่ม มาในลาย Pequin และแคนวาส FF หรือหนังวัวเนื้อนิ่มแบบเรียบประดับด้วยบักเกิล Baguette และพื้นรองเท้ายางปุ่มที่สามารถใช้งานได้จริง ในขณะที่รองเท้ามีส้นนั้นมาทั้งในรูปแบบส้นเล็กไปจนถึงส้นสูง มาพร้อมกับรองเท้าเปิดส้น และรองเท้าแตะแบบสวมหนังวัวเนื้อนิ่ม FENDI Filo ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นและการใช้งานโดยที่ไม่ต้องพยายาม

     ในการสร้างสรรค์จิวเวลรี่แฟชั่นของ Delfina Delettrez Fendi ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกจิวเวลรี่ มีการใช้งานที่คล้ายกันทั้งในด้านประโยชน์การใช้งานและความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในด้านวัสดุที่ถูกถ่ายทอดผ่านการเปิดตัวอีกครั้งของไลน์สินค้า Fendigraphy ที่มาพร้อมกับรูปทรงอันโดดเด่น อย่างกำไลข้อมือ แหวน และต่างหูแบบห่วงขนาดใหญ่ มาในสีสันน่าประหลาดใจอย่างสีน้ำตาล wood สองสีเพื่อเป็นการให้เกียรติกับลาย Pequin

     วางจำหน่ายที่บูติก FENDI ทั่วโลกและบน fendi.com ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 ค.ศ. 2024 เป็นต้นไป

บทความที่เกี่ยวข้อง